122 ปี “คั้นกี่” น้ำเต้าทอง นาทีนี้ “อยู่ไหน” ก็ขายได้

จากตำนาน “ลอดช่องสิงคโปร์” ก็มาถึงอีกตำนานที่จะต้องโบกมือลาจากตึกเก่าสามแยกเฉลิมบุรีไปสู่บ้านหลังใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า…นั่นก็คือ “คั้นกี่ น้ำเต้าทอง” ร้านขายนํ้าขม+น้ำหวานคูหาเดียวที่อยู่ ณ ตึกแถวแห่งนี้มายาวนานถึง 122 ปี

เจาะเวลาย้อนไปเมื่อพุทธศักราช 2444 บุรุษชาวจีนจากกวางตุ้งชื่อ “ไค้ แซ่ถ่ำ” ได้ลงเรือข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดร้าน “ขายน้ำขม” ขึ้นที่นี่ตั้งชื่อร้านว่า “น้ำเต้าทองซังโฮ่วโล้วเลี่ยงเต๊” มีสรรพคุณหลักในการแก้ร้อนใน

ซึ่งตามตำราจีนถือว่า “ร้อนใน” เป็นทั้งผลและที่มาที่ไปของสารพัดอาการเจ็บไข้ได้ป่วย…ตั้งแต่ไอ, หวัด, ไปจนถึงปากเป็นแผล ฯลฯ

เถ้าแก่ ไค้ แซ่ถ่ำ บอกกับลูกค้าว่าสมุนไพรที่ใช้ต้มยาแก้ร้อนในของเขาสั่งตรงมาจากเมืองจีน เป็นสุดยอดแห่งยาขมจนถึงขนาดร่ำลือกันไปทั้งเยาวราชว่า “โคตรขม” ติดปากติดคอไป 3 วัน 7 วัน

แต่ก็สามารถแก้ร้อนในได้จริง น้ำดื่มขมปี๋ของเถ้าแก่ไค้จึงติดปากและติดตลาดเป็นที่นิยมของชาวจีนและชาวไทยที่ประกอบการค้าอยู่ในย่านเยาวราช หรือเดินทางมาจับจ่ายซื้อของ ณ เยาวราช ที่ได้ชื่อว่าเป็นชุมทางการค้าและเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อเอาใจคนไทยบางกลุ่มที่ไม่กล้าสู้ความขมเถ้าแก่ไค้ก็จะต้มอย่างหวานเอาไว้ด้วย ทำให้ร้านมีทั้งอย่างขมอย่างหวานคู่กัน

จากเถ้าแก่ ไค้ แซ่ถ่ำ ในรุ่นที่ 1 ก็มาถึง “เจน 2” รุ่นของคุณ องอาจ ธรรมสุริยะ บุตรชายของเถ้าแก่ไค้ที่ใช้ชื่อไทยนามสกุลไทยเป็นที่เรียบร้อย…และนามสกุล ธรรมสุริยะ ก็น่าจะมาจาก “แซ่ถ่ำ” นั่นเอง

มีการบันทึกถึงสถานการณ์สำคัญของ “เจน 2” ไว้ว่า…“ขายเป็นชาม ชามละ 1 สตางค์ เริ่มขาย 9 โมงเช้า เรียง 3 เตา น้ำขม 2 หม้อ น้ำหวาน 1 หม้อ เพราะน้ำขมขายดีกว่า ช่วง 1-4 ทุ่ม ลูกค้าจะเข้ามาซื้อมาก เพราะแถวนี้มีโรงมหรสพมาก”

จากนั้นก็มาถึง “เจน 3” ยุคของคุณ เสถียร ธรรมสุริยะ ที่เติบโตมากับการช่วยผ่าฟืนต้มยาและยืนขายหน้าร้านมาตั้งแต่เด็กๆ

ยุคคุณเสถียรนี่เองที่เริ่มคิดการณ์ไกลมองว่าทำอย่างไรจะขายผลิตภัณฑ์น้ำขมและน้ำหวานให้ได้มากกว่าการขายหน้าร้านเท่านั้น

ยุคนั้นเป็นยุคที่กาแฟผงสามารถพัฒนาใส่ซองให้ผู้ชอบดื่มกาแฟซื้อกลับไปชงเองที่บ้านได้แล้ว…คุณเสถียรจึงหันมาใช้นวัตกรรมเดียวกันนี้ผลิตทั้งยาขมยาหวานใส่ซองออกจำหน่ายควบคู่ไปด้วย

ก็พอดี “เจน 4” อันได้แก่ คุณ ชวน ธรรมสุริยะ บุตรชายของคุณเสถียรเติบโตมาช่วยคุณพ่อคิดเพิ่มสร้างโรงงานผลิตยาขมยาหวานใส่ซองออกจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วประเทศในห้วงเวลาต่อมา

ผมในฐานะแฟนเก่าคนหนึ่งของยาขมนํ้าเต้าทองและแวะไปดื่มแก้ร้อนในหลายครั้งในสมัยเรียนธรรมศาสตร์ ซึ่งจะต้องนั่งรถเมล์ผ่านเยาวราช แต่พอเรียนจบแล้วก็แทบไม่มีโอกาสแวะไปดื่มอีกเลย

เมื่อไปเจอผลิตภัณฑ์บรรจุซองสวยงามในร้านขายยาแห่งหนึ่ง จึงรู้สึกตื่นเต้นซื้อไปชงกินที่บ้าน และเก็บมาเขียนซอกแซกแสดงความชื่นชมในการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้งของยาขมยาหวานยี่ห้อนี้

ผมยังคงติดตามผลงานของคุณเสถียร (เจน 3) คุณชวน (เจน 4) จากสื่อมวลชนต่างๆ และทราบว่าล่าสุด คุณ ชัชภณ ธรรมสุริยะ (เจน 5) บุตรชายคุณชวนก็ได้มาช่วยงานอีกแรงแล้ว

คุณชัชภณจบวิศวกรรมศาสตร์จากธรรมศาสตร์ และไปจบโทด้านบริหารจากต่างประเทศ พกความรู้สมัยใหม่มาช่วยปู่ช่วยพ่ออย่างเต็มที่

ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์คั้นกี่นํ้าเต้าทองมิใช่มีแค่นํ้าเต้า 2 ลูก ในร้านคูหาเดียวดังเช่นเมื่อ 122 ปีก่อนเท่านั้น แต่มีสารพัดผลิตภัณฑ์ประเภท “อาหารเป็นยา” ออกวางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ และร้านออนไลน์ที่เปิดจำหน่ายทั่วประเทศเช่นกัน

ผมจึงตั้งชื่อเรื่องของผมวันนี้ว่า “ณ นาทีนี้อยู่ที่ไหนยาขมนํ้าเต้าทองก็ขายได้” และร้านที่วงเวียน 22 กรกฎาน่าจะเป็นเพียง “ร้านในตำนาน” ดั้งเดิม ที่ควรเก็บรักษาไว้เท่านั้นเอง

ตำนานใหม่ของ “คั้นกี่นํ้าเต้าทอง” อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ ร้าน ออนไลน์ และร้านขายยาใหญ่น้อยทั่วประเทศเรียบร้อยแล้วครับ.

“ซูม”

122 ปี "คั้นกี่" น้ำเต้าทอง นาทีนี้ "อยู่ไหน" ก็ขายได้, น้ำเต้าทองซังโฮ่วโล้วเลี่ยงเต๊, ยาขม, ย้ายร้าน, ตำนาน, ข่าว, ซูมซอกแซก