“ของฝาก” ถึง “กกต.” ห้าม “ผิดพลาด” อาทิตย์นี้

จากวันนี้ (11 พ.ค.2566) ไปอีกเพียง 3 วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งทั่วไป (อาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566) แล้วนะครับ…ผมขออนุญาตทำหน้าที่พลเมืองดี ช่วยนับถอยหลัง

เพื่อเตือนความทรงจำของพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกๆท่านให้ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้งหนึ่ง

แม้โดยข้อเท็จจริงและความตื่นตัวในขณะนี้ อาจกล่าวได้ว่าคงไม่ต้องเชิญชวนอะไรมากนัก คนไทยก็จะออกไปใช้สิทธิอย่างล้นหลามแน่ๆ

เห็นได้จากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าประชาชนไปใช้สิทธิใช้เสียงอย่างคึกคักทั่วทุกสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้าทั่วประเทศ จนถึงขั้นโกลาหลอลหม่านในบางแห่ง ทำให้เชื่อได้ว่า วันเลือกตั้งจริงก็น่าจะคึกคักพอๆ กัน หรือมากกว่ากันด้วยซ้ำไป

แต่เพื่อความไม่ประมาท และไหนๆ ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะช่วยเขียนเรียนเตือนพี่น้องประชาชนอยู่เรื่อยๆ ไปจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง…ผมก็ขอทำหน้าที่ดังกล่าวนี้ให้ถึงที่สุดตามที่ตั้งใจไว้ก็แล้วกันครับ

ประกอบกับมีข่าวเกิดขึ้นจนกลายเป็นหัวใหญ่บ้าง หัวขนาดกลางบ้าง (ไม่มีหัวเล็กๆเลย) ของสื่อมวลชนทุกแขนงว่าในท่ามกลางความคึกคักเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเองได้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นหลายๆ อย่าง

เป็นเหตุให้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษและตำหนิการบริหารจัดการของ กกต. กระหึ่มไปทั่วทุกสื่อสังคมออนไลน์

ตำหนิแรงๆ ก็เยอะถึงขั้นติดแฮชแท็กว่า มี กกต.ไว้ทำไม หรือ กกต.ต้องติดคุก แชร์กันต่อไปเป็นทอดๆ

ทำให้ผมเกิดความห่วงใยการทำหน้าที่ของ กกต.ในวันเลือกตั้งจริงๆ ขึ้นมาตะหงิดๆ จึงต้องออกมาฝากข้อคิดความเห็นด้วยอีกแรงหนึ่งในวันนี้

อันว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” นั้นก็ไม่ต่างไปกับ “คณะกรรมการ” หรือ “ผู้ตัดสิน” ในการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆหรอกครับ… คือจะโดน “จับตามอง” โดยนักกีฬาที่ลงสนามแข่งขันและกองเชียร์ของนักกีฬาแต่ละฝ่ายอย่างชนิดไม่กะพริบตาเลยก็ว่าได้

ตัดสินผิดพลาดแม้บางครั้ง จะพลาดโดยไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรเลย แต่นักกีฬา หรือกองเชียร์ของทีมกีฬาที่ต้องพ่ายแพ้ หรือเสียประโยชน์ไปจากการตัดสินใจนั้นๆ จะลุกฮือขึ้นมาทันที

ที่คุมสติไม่ได้ ถึงขั้นลงไปก่อเรื่องประท้วงในสนาม หรือทำท่าจะเข้าไปคุกคามกรรมการผู้ตัดสินต่างๆ ก็มีบ่อยครั้ง

ที่หันมาใช้กฎกติกาเป็นที่ตั้ง ก็คงจะฟ้องหรือร้องเรียนไปยังผู้รับผิดชอบสูงกว่า…เช่น อย่างกีฬาฟุตบอล ก็มักจะใช้วิธีร้องเรียนไปยังสมาคมฟุตบอล หรือกรรมการพิเศษชุดใดชุดหนึ่งของสมาคมให้พิจารณาโทษผู้ตัดสินที่เป่านกหวีด จนทำให้ฝ่ายพ่ายแพ้รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ในแต่ละกรณี

“ผู้ตัดสิน” หรือ “กรรมการ” ในการแข่งขันกีฬา จึงต้องตัดสินอย่างละเอียดรอบคอบอย่างระมัดระวัง ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย โดยทัดเทียมกัน และห้ามตัดสินพลาดอย่างเด็ดขาด

เพราะอาจจะโดนประท้วงในกรรมวิธีต่างๆ หนักบ้างเบาบ้าง ตามที่ยกตัวอย่างว่าเกิดขึ้นเสมอๆในแวดวงการแข่งขันทุกชนิด รวมทั้งในการแข่งขันกีฬา

ดังนั้น สำหรับการ “แข่งขัน” ในสนามเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีเดิมพันสูงกว่าการแข่งกีฬาหลายเท่า “คณะกรรมการ” หรือ “ผู้ตัดสิน” จึงยิ่งจะต้องทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง เป็นธรรม อย่างเคร่งครัดขึ้นอีกหลายเท่าเช่นกัน

เพราะหากเกิดข้อผิดพลาด หรือนำไปสู่ความคิดที่ว่าตัดสินลำเอียงละก็ จะเกิดความวุ่นวายมากกว่ากรรมการฟุตบอลตัดสินพลาดอย่างแน่นอน

ผมจึงหวังว่าคณะกรรมการ กกต.ชุดใหญ่ทั้งชุดจะสามารถแก้ความผิดพลาดจากการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ทุกข้อ และส่งต่อไปยังผู้ปฏิบัติ จนสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นอีก

ขอให้โชคดีนะครับ กกต. ทำให้ดีที่สุด บริสุทธิ์ใจที่สุด และผิดพลาดให้น้อยที่สุด พร้อมกับขอให้นึกอยู่เสมอว่าขึ้นชื่อว่า “กรรมการ” ในการตัดสินเรื่องใดๆ ก็ตามนั้น เปรียบเสมือน “แพะ” ที่จะต้องรับบาปอยู่แล้ว

เพราะส่วนใหญ่ “คนแพ้” มักไม่โทษตัวเอง แต่จะโทษคนอื่นๆ อยู่เสมอ เช่น ถ้าไม่โทษ “แพะ” ก็อาจไปโทษ “ปี่กลอง” โน่นเลย

หวังว่า กกต.จะไม่เป็นทั้ง “แพะ” หรือ “ปี่กลอง” ให้พรรคการเมืองต่างๆ กล่าวโทษนะครับ ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้.

“ซูม”

“ของฝาก” ถึง “กกต.” ห้าม “ผิดพลาด” อาทิตย์นี้, การเมือง, เลือกตั้ง, กกต, กรรมการ, ส.ส., แพะ, พรรคการเมือง, ซูมซอกแซก