ทีมงานซอกแซกได้รับจดหมายน้อยจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ “จีเอ็มเอ็มแกรมมี่” บริษัทบันเทิงที่โด่งดังที่สุดบริษัทหนึ่งของประเทศไทย

แจ้งให้ทราบว่า แกรมมี่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรมให้เข้าร่วมในการขับเคลื่อนโครงการสำคัญโครงการหนึ่งของรัฐบาลไทย

นั่นก็คือ โครงการการใช้ “วัฒนธรรม” อันอ่อนช้อยงดงามและเพียบพูนไปด้วยเสน่ห์ของประเทศไทยและคนไทย ที่เรียกกันว่า Soft Power ในการเพิ่มรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยให้มากที่สุดที่จะสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านส่งเสริมการค้า ส่งเสริมการลงทุน หรือส่งเสริมการท่องเที่ยว ฯลฯ

กระทรวงวัฒนธรรมในฐานะกระทรวงที่ทำหน้าที่อนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของประเทศไทย ได้รับมอบหมายให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนโครงการนี้ พร้อมกับเริ่มต้นด้วยการนำวัฒนธรรม 5 ประการ ที่ใช้อักษรย่อภาษาอังกฤษตัว F ที่เรียกว่า “5F” มาเป็นโครงการนำร่อง

นั่นก็คือ F-Food อาหารไทยต่างๆ, F-Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, F-Fashion การออกแบบแฟชั่นไทยด้วยผลิตผลผ้าไทย, F-Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และสุดท้าย F-Festival เทศกาลงานประเพณีต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

ในข้อเท็จจริงทั้ง 5 F ดังกล่าวนี้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และที่นิยมของชาวโลกด้วยตนเองอยู่แล้วในระดับหนึ่ง ดังเช่น อาหารไทย ที่โด่งดังทั่วโลกจากการบุกเบิกของพี่น้องชาวไทยที่ไปเปิดร้านอาหารไทย ณ ต่างแดน

รวมทั้ง “มวยไทย” หรือ Fighting และ Festival เทศกาลต่างๆ อาทิ สงกรานต์ หรือลอยกระทง ล้วนโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมานานแล้วเช่นกัน

แต่ที่แล้วมาเป็นการดำเนินการแบบต่างคนต่างทำของคนไทยเราเอง ขาดแผนงาน ขาดการสนับสนุนจากภาครัฐ ทำให้ผลลัพธ์จาก “ซอฟต์เพาเวอร์” ดังกล่าวยังได้ผลไม่เต็มที่

การมีแผนงานมีโครงการและมีงบประมาณ มาสนับสนุนบ้างจากภาครัฐ จะเป็นผลให้การต่อยอดวัฒนธรรมเหล่านี้เพื่อให้ก่อเกิดรายได้แก่ประเทศเพิ่มสูงขึ้นอีกหลายๆ เท่าตัว

จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีหน้าที่อนุรักษ์และส่งเสริม วัฒนธรรมไทยของไทยอยู่แล้ว โดยตรง ได้รับมอบหมายให้เข้ามาร่วมในฐานะแกนหลักแกนหนึ่งของรัฐบาลไทยในการผลักดัน “5F” ดังกล่าว

พร้อมกับเชื้อเชิญ แกรมมี่ เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานี่เอง ก็ได้มีการ แถลงข่าวเปิดตัวความร่วมมือ โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นาย อิทธิพล คุณปลื้ม และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวง

มอบหมายหน้าที่ในการขับเคลื่อนโครงการเป็นประเดิมด้วย “เพลง” และ “มิวสิกวิดีโอ” ชุดแรกที่ขับร้องโดยศิลปินหมายเลข 1 ของประเทศไทย “เบิร์ด”–ธงชัย แมคอินไตย์ ในชื่อเพลง “ฟ้อนทั้งน้ำตา” ซึ่งถ่ายทำและบันทึกเสียงเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งลงเผยแพร่ในสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ เช่น ยูทูบ และเฟซบุ๊กแล้วด้วยเช่นกัน

เป็นที่มาของ “จดหมายน้อย” ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แกรมมี่ส่งมาถึงทีมงานซอกแซกขอให้ช่วยเผยแพร่ข่าวนี้ให้เป็นที่รู้ที่ทราบอย่างกว้างขวาง ของพี่น้องชาวไทยอีกทางหนึ่ง

คงต้องเรียนว่า หัวหน้าทีมซอกแซกเห็นด้วยอย่างยิ่งที่กระทรวงวัฒนธรรมเลือก “เบิร์ด” มาเป็นผู้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ไทยผ่านเพลงและมิวสิกวิดีโอที่ชื่อว่า “ฟ้อนทั้งน้ำตา” ในครั้งนี้

เพราะเบิร์ดเป็นที่รู้จักอย่างดียิ่งของเพื่อน บ้านย่านอาเซียนมาเป็นเวลายาวนานมาก…

เมื่อปี พ.ศ.2532 มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 15 และได้เชิญเบิร์ดไปร่วมร้องเพลงในพิธีเปิดครั้งนั้นด้วย

เพลงที่เบิร์ดใช้ร้องก็คือ เพลง “สบายๆ” และอย่างเหลือเชื่อแฟนๆกีฬาชาวมาเลเซียที่แน่นขนัดในสนามต่างร้องตามเขาได้อย่างกึกก้อง รวมทั้งลุกขึ้นเต้นอย่างสนุกสนาน

ไม่เพียงแต่มาเลเซียเท่านั้น…ในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา ก็ล้วนรู้จักเบิร์ดเป็นอย่างดี

ข้ามไปจนถึงจีนทั้งแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน หรือฮ่องกง…ส่วนใหญ่ก็รู้จักเบิร์ด

ยุโรปหรือสหรัฐฯ อาจไม่ค่อยได้ยินข่าวมากนัก แต่จากการที่ประเทศต่างๆ เหล่านี้มีคนไทยไปประกอบอาชีพจำนวนมาก รวมทั้งร้าน อาหารไทยจำนวนมาก ซึ่งก็น่าจะเปิดเพลงเบิร์ดเป็นเพลงหลัก คงจะทำให้เขาเป็นที่รู้จักในยุโรปหรืออเมริกาบ้างพอสมควร

การเลือกเบิร์ดให้ทำหน้าที่นี้จึงน่าจะเหมาะสมทุกประการ

ข้อกังวลจะมีบ้างก็ตรงที่เนื้อร้องเป็นเนื้อไทย และคำร้องก็เป็นภาษาไทย แม้จะมีภาษาอังกฤษกำกับบ้าง แต่ก็เป็นช่วงๆ เท่านั้น ไม่ทราบว่าผู้ฟังต่างประเทศที่อยู่ในยุโรปหรืออเมริกาจะเข้าใจความหมายหรือไม่

ถ้าตัดความกังวลใจนี้ออกไป สำหรับพวกเราคนไทยที่ฟังรู้เรื่องบอกได้เลยว่าเพลงนี้ทั้งสนุก ทั้งมันไม่แพ้เพลงเซิ้งอื่นๆ ของเบิร์ด รวมทั้งเพลง “แฟนจ๋า” หรือเพลง 4 ภาค ที่เบิร์ดร้องกับ 3 สาว จินตหรา พูนลาภ, นัท มีเรีย, แคทรียา อิงลิช จนโด่งดังเป็นพลุแตกมาแล้ว

ขอบคุณฝ่ายประชาสัมพันธ์แกรมมี่ที่ส่งข่าวมาบอก และทีมงานซอกแซกก็รีบไปเข้า “ยูทูบ” เปิดฟังเปิดชมทันทีก่อนเขียนต้นฉบับ (10 มี.ค.2566) นี่เอง พบว่านำลงยูทูบมาแค่ 10 วันเท่านั้น ยอดวิวทะลุ 2 ล้านไปเรียบร้อย…

ใครยังไม่ได้ดูไม่ได้ชมคลิกไปที่ You tube GMM Grammy official หรือ Facebook : GMM Grammy และ Facebook : Bird Thongchai ได้เลยครับ.

“ซูม”