หลังจากมีข่าวแพร่งพรายมาหลายเดือนพอสมควรแล้วว่า หากช่วงปลายๆปีโควิด–19 ซาลง แฟนๆโขน “ศิลปาชีพฯ” หรือ “โขนพระราชทาน” ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง จะกลับคืนสู่เวทีการแสดง ณ ห้อง ประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
บัดนี้ ข่าวร่ำลือดังกล่าวก็กลายเป็นข่าวจริงมิใช่ “เฟกนิวส์” พันเปอร์เซ็นต์แล้ว จากการจัดแถลงข่าวและจัดการแสดงตัวอย่างบางชุดไปเรียกน้ำย่อยผู้สื่อข่าว ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่ง ประเทศไทย เมื่อวันอังคาร (6 กันยายน) ที่ผ่านมา
มีท่านผู้หญิง จรุงจิตต์ ทีขะระ เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และประธานคณะกรรมการจัดการแสดงโขนของมูลนิธิฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อิทธิพล คุณปลื้ม และผู้อยู่เบื้องหลังโขนชุดนี้ มาร่วมแถลงข่าวอย่างพร้อมเพรียงกัน
สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่า “โขนพระราชทาน” ชุดที่จะกลับมาใหม่นี้ จะลงโรงตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมไปจนถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ณ เวทีเดิมที่แฟนๆ ติดตามดูชมกันมากว่า 10 ปีแล้วนั่นเอง
สำหรับการแสดงครั้งนี้จะเป็น “รามเกียรติ์” ตอน “สะกดทัพ” จากบทพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชกล่าวถึง มัยราพณ์ พญายักษ์เจ้าเมืองบาดาลได้รับ บัญชาจากทศกัณฐ์ให้มารบกับพระราม พระลักษมณ์ 2 พี่น้อง ซึ่งพญายักษ์มัยราพณ์ผู้มียาวิเศษและมนตร์สะกดเป็นอาวุธสำคัญก็ขึ้นมาร่ายมนตร์สะกดทหารพระรามจนหลับสนิทไปทั้งกองทัพ
พร้อมกับแบกพระรามลงไปกักตัวไว้ ณ เมืองบาดาล ซึ่งเมื่อกองทัพพระรามตื่นขึ้นให้พิเภกดูทางในก็ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมทั้งทราบด้วยว่าพระรามถูกกักตัวไว้ ณ เมืองบาดาลดังกล่าว
จึงเป็นภารกิจของ “หนุมาน” ที่จะต้องแหวกว่ายฝ่าด่านต่างๆ ไปนำพระรามกลับมา และมีการต่อสู้อย่างตื่นเต้นไปตลอดเส้นทาง
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวจะจบอย่างไร เพราะคนไทยเราอ่านวรรณคดี เรื่อง “รามเกียรติ์” มาจนจบไม่รู้กี่สิบรอบ
แต่กระนั้นก็จะรู้สึกสนุกสนานเบิกบานใจ ทุกครั้งที่ติดตามดูการแสดงโขน
ยิ่งเป็นโขนของ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่สวยสดงดงามไปด้วยถนิมพิมพาภรณ์ หรือเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวของผู้แสดงทั้งชายหญิง รวมทั้งฉากอันยิ่งใหญ่อลังการ เข้ากับแสงสีอันวิจิตรบนเวที ถือเป็นจุดเด่นของโขนชุดนี้ ที่ยากจะหาชุดไหนทัดเทียมได้
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงใส่พระทัยในศิลปวัฒน ธรรมไทยทุกแขนง และทรงอุทิศพระวรกาย และกำลังทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อการส่งเสริม สนับสนุน อนุรักษ์และพัฒนาจนพร้อมที่จะสืบสานจรรโลงศิลปวัฒนธรรมต่างๆให้ยั่งยืนต่อไปอีกนานแสนนานสู่กาลข้างหน้า
โดยเฉพาะการแสดงโขนนั้น เมื่อทรงส่งเสริมสนับสนุนและปรับปรุงพัฒนา (โดยเฉพาะด้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย) จนสมควรแก่เวลาแล้ว ก็มีพระราชดำริให้จัดการแสดง โขน ศิลปาชีพฯ ตอน “พรหมาศ” ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปีพุทธศักราช 2550
เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง 80 พระชนม พรรษาของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 75 พรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถใน พ.ศ.ดังกล่าว ณ หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรม แห่งประเทศไทย
ต่อมาในปี 2552 มูลนิธิศิลปาชีพฯได้นำการแสดงชุด “พรหมาศ” มาแสดงอีกครั้ง ปรากฏว่า ได้รับความนิยมจากประชาชนเกินความคาดหมาย จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้มีการจัดแสดงติดต่อกันมาทุกปีนับจากนั้นเป็นต้นมา
หัวหน้าทีมซอกแซกและทีมงานมีโอกาสดูชมการแสดงนับตั้งแต่ปี 2553 ตอน “นางลอย” เป็นครั้งแรกและก็กลายเป็นแฟนคลับติดตามดูชมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็นตอน “ศึกมัยราพณ์” ในปี 2554, ตอน “จองถนน” ปี 2555, ตอน “โมกขศักดิ์” ปี 2556, ตอน “นาคบาศ” ปี 2557 และตอน “พรหมาศ” ที่กลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องในปี 2558
ต่อมาปี 2559 มีการเตรียมการไว้ว่า จะแสดงตอนพิเภกสวามิภักดิ์ แต่ก็ต้องยกเลิกไป เนื่องจากพสกนิกรชาวไทยต้องตกอยู่ในภาวะโศกเศร้าเสียใจอย่างใหญ่หลวงจากการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9
หลังจากเมฆหมอกแห่งความทุกข์จางลงและพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพผ่านไปอย่างยิ่งใหญ่ ประเทศไทยซึ่งย่างเข้าสู่ยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ก็กลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวผู้ทรงมีพระราชปณิทานในการสืบสาน รักษาและต่อยอดพระราชกรณียกิจต่างๆ ก็มีพระราชดำริให้โขนของมูลนิธิศิลปาชีพฯกลับมาแสดงได้ตามเดิมนับแต่ปี 2561 เป็นต้นมา
เริ่มด้วย “พิเภกสวามิภักดิ์” ที่เตรียมการไว้แล้ว แต่ต้องยกเลิกการแสดงไปเมื่อ 2 ปี ก่อนหน้านั้น และตามมาด้วยปี 2562 ในชุด “สืบมรรคา” อันเป็นเนื้อหาตอนต้นของรามเกียรติ์
จากนั้น ก็เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย เป็นเหตุให้การแสดง “โขน ศิลปาชีพฯ” ต้องยุติไปอีกครั้งหนึ่ง
บัดนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเกือบจะเป็น ปกติเหมือนเดิมแล้ว รวมทั้งประชาชนก็ผ่านการฉีดวัคซีนในเปอร์เซ็นต์ที่พอสมควรแล้ว ทำให้การแสดงโขนอันยิ่งใหญ่จะมีโอกาสกลับคืนสู่เวทีอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยการแสดงชุด “สะกดทัพ” ที่จากการเตรียมการจากการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงมาตลอด ทำให้เชื่อได้ว่าจะยิ่งใหญ่ เกรียงไกร สมกับการรอคอยอย่างแน่นอน
ขอให้แฟนคลับทั้งหลายจับจองตั๋วล่วง หน้ากันได้แล้ว ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา หรือที่ www.Thaiticketmajer.com นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป…อย่ารอจนถึงใกล้ๆวันแสดง 30 ตุลาคมเชียวนาครับ…เดี๋ยวบัตรจะหมดเสียก่อน.
“ซูม”