สิ้นสุดการรอคอยสำหรับภาพยนตร์แห่งรอยยิ้มที่พร้อมจะส่งต่อกำลังใจให้กับทุกคน ภายหลังจากที่สถานการณ์ COVID 19 เริ่มดีขึ้น พร้อมกับมีมาตรการคลายล็อกที่สามารถให้โรงภาพยนตร์กลับมาให้บริการได้ตามปกติโดยยึดหลักมาตรฐานสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ก็ถึงเวลาที่คอหนังจะกลับเข้าสู่โรงภาพยนตร์เพื่อเก็บเกี่ยวรอยยิ้มและความประทับใจอีกครั้งกับภาพยนตร์ที่จะทำให้ทุกหัวใจตกหลุมรักไปด้วยกันใน “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” พร้อมเข้าฉายแล้ว 18 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” เป็นภาพยนตร์ดราม่า–คอเมดี้ของค่าย เบนเล่ย์ ฟิล์ม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องจริงโดยได้ 2 ซูเปอร์สตาร์อย่าง อนันดา เอเวอริงแฮม และ “มิน” พีชญา วัฒนามนตรี มาแสดงร่วมกันเป็นครั้งแรกพร้อมเหล่านักแสดงมากฝีมืออย่าง “เจี๊ยบ” ลลนา ก้องธรนินทร์, “ซานิ” นิภาภรณ์ ฐิติธนการ, “เมโกะ” ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย,“ใต้ฝุ่น” กนกฉัตร มรรยาทอ่อน ฯลฯ ผลงานการกำกับโดย สมเกียรติ วิทุรานิช
โดยภาพโปสเตอร์ที่ปล่อยออกมาเรียกได้ว่าโรแมนติกมากๆ พร้อมเก็บภาพเบื้องหลังการถ่ายโปสเตอร์มาให้ชมเรียกน้ำย่อยกันก่อนว่ากว่าจะเป็นฉากหวานๆ ของ อนันดา และ มิน ที่อยู่ใต้ร่มคันเดียวกันท่ามกลางสายฝนนั้นจะหวานกันแค่ไหน
ภาพยนตร์ไสหัวไปนายส่วนเกินเล่าถึง ผักกาด (มิน) สาวช่างฝันที่เจอมรสุมชีวิตจนต้องทำให้ต้องลาออกจากงานอย่างกะทันหันแถมแฟนยังแอบไปมีกิ๊กและที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดราม่ากระหน่ำชีวิตขนาดนี้แต่ก็ยังยิ้มได้เพราะพ่อแม่และเพื่อนๆ คอยให้กำลังไม่ว่าจะเป็น คิมหันต์ (ใต้ฝุ่น) เกย์หนุ่มที่ไปแอบหลงรักผู้ชายที่รังเกียจเพศที่สาม ญาดา (หมอเจี๊ยบ) หญิงห้าวที่ฝันจะเป็นแชมป์มวยหญิงระดับโลก เอมมี่ (เมโกะ) บ้างานและยอมทำทุกอย่างเพื่อหัวหน้าชาวเกาหลี รวมถึง ศิตา (ซานิ) เพื่อนใหม่ข้างเตียงซึ่งมีอาชีพเป็นช่างแต่งหน้าที่สู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก และกำลังใจสำคัญสุดคือชายหนุ่มที่อยู่ในร่มคันเดียวกันคนนี้ หมอกวินทร์ (อนันดา)
ความสัมพันธ์ที่เริ่มพัฒนาท่ามกลางมรสุมของทั้งคู่ ชีวิตรักของผักกาดและหมอกวินทร์จะลงเอยอย่างไร ความห่วงใยที่ผักกาดมีให้กับเพื่อนและพ่อแม่ ได้ส่งผลอะไรกับพวกเขาบ้าง ทุกเรื่องราวและทุกอารมณ์มีอยู่ครบในภาพยนตร์เรื่องนี้ “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” ต้อนรับวันฉายใหม่ 18 พฤศจิกายน 2564 ในโรงภาพยนตร์