ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพสื่อสารมวลชนที่รู้จักและคบหากันมายาวนานมาก ตั้งแต่เมื่อครั้งเรายังเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษ เขียนข่าวและบทความให้แก่หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ในช่วง พ.ศ.2510 ที่มีพี่ มานะ แพร่พันธุ์ ครูใหญ่ของพวกเราเป็นบรรณาธิการ

แม้ต่อมา แสงชัย สุนทรวัฒน์ จะตัดสินใจเดินทางด้วยทุนส่วนตัวไปเรียนกฎหมายต่อที่สหรัฐอเมริกา และถือโอกาสเป็นโรบินฮูดทำงานไป เรียนหนังสือไปจนจบ และก็ยังทำงานหาประสบการณ์ต่ออีกหลายปี

แต่หัวหน้าทีมซอกแซกก็ยังมีโอกาสได้พบและได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นซึ่งค่อนข้างจะเป็นไปในทางเดียวกันอยู่เสมอๆ ทั้งในโอกาสที่หัวหน้าทีมเดินทางไปต่างประเทศแล้วแวะไปเยี่ยมเยียนเขา…หรือเมื่อแสงชัยเดินทางมาประเทศไทยด้วยภาระกิจการงานก็จะแวะมาคุยกันที่โรงพิมพ์ไทยรัฐแทบทุกครั้ง

การที่แสงชัยไม่ยอมกลับบ้านตั้งแต่แรก นับว่าเป็นผลดีแก่เขาโดยตรง เพราะทำให้แตกฉานในภาษาอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบกับงานด้านกฎหมายที่เขาทำอยู่กับบริษัทกฎหมายของสหรัฐฯ ก็ทำให้เขามีความรู้ความชำนาญในกฎหมายสหรัฐฯ และกฎหมายระหว่างประเทศมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

เป็นช่องทางให้เขามีโอกาสกลับมาทำงานกับบริษัทกฎหมายในประเทศไทย ที่มีลูกค้าระดับนานาชาติแห่งหนึ่งอย่างถาวรในภายหลัง

ต่อมาวันหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นทหารของเขาคนหนึ่งก็ชวนให้แสงชัยไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ องค์การฟอกหนัง ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม จนกิตติศัพท์มาเข้าหูผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านในขณะนั้น ทำให้แสงชัยมีโอกาสได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ อสมท ในเวลาต่อมา

แสงชัยได้ใช้ความรู้ความสามารถของเขาอย่างเต็มที่ จนพลิกรัฐวิสาหกิจแห่งนี้ที่เคยได้รับฉายาว่า “แดนสนธยา” ให้กลับมาเป็นองค์กรแห่งความสว่างไสวในเวลาไม่นานนัก

จิตวิญญาณของสื่อมวลชนที่เขามีมาตั้งแต่เด็กๆ จนถึงขนาดขันอาสาไปเป็นนักข่าวให้หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย ยังฝั่งอยู่ในสมองของเขามาตลอด

แม้ขณะที่อยู่ต่างประเทศ จะมิได้เรียนด้านนี้โดยตรง แต่ก็เข้าไปคลุกคลีตีโมงและติดตามความเคลื่อนไหวของสื่อต่างประเทศ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์อย่างใกล้ชิด กลายเป็นความรู้ที่สั่งสมอยู่ในตัวของเขาทีละน้อย

จนในที่สุดก็สามารถนำมาใช้ในการผ่าตัด อสมท จนเปลี่ยนจากหลังมือมาเป็นหน้ามือได้อย่างสวยงาม

แต่แล้วก็เกิดเหตุที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2539 เมื่อมือปืนโหดที่ติดตามเขามาจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านเมืองทองธานี ได้กระหน่ำยิงเขาจนเสียชีวิต

ข่าวการถูกลอบสังหารของแสงชัยทำให้คนไทยช็อกทั้งประเทศ แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้เรารู้ว่ามีคนรักเขาอาลัยเขาและเสียดายเขาทั่วประเทศ เพราะในงานศพและพิธีพระราชทานเพลิงศพของเขา มีผู้คนแห่มาไว้อาลัยอย่างมืดฟ้ามัวดิน และบริจาคเงินก้อนใหญ่ให้แก่เขาจนกลายมาเป็น “มูลนิธิแสงชัย สุนทรวัฒน์” จนถึงบัดนี้

1 ปีหลังจากเขาเสียชีวิต มูลนิธิแสงชัย สุนทรวัฒน์ ได้จัดงานสัมมนาเพื่อส่งเสริมและพัฒนาสื่อมวลชน ด้านโทรทัศน์ขึ้น 2-3 ครั้ง และก็มีมติในครั้งล่าสุดว่า ควรจะมีรางวัล “แสงชัย สุนทรวัฒน์” ขึ้นเพื่อมอบให้แก่ผู้มีผลงานด้านข่าวโทรทัศน์ยอดเยี่ยมในแต่ละปี

ในทางหนึ่งก็เพื่อเป็นการรำลึกถึงเขาตำนานของสื่อมวลชนคนหนึ่งที่จากไปอย่างน่าเสียดาย และอีกทางหนึ่งก็เพื่อเป็นขวัญเป็นกำลังใจให้แก่คนข่าวโทรทัศน์รุ่นใหม่ในการที่จะผลิตข่าวหรือสารคดีต่างๆ ที่ทรงคุณค่า และมีประโยชน์ต่อการรับรู้ของสังคมไทยมากยิ่งขึ้น

ซึ่งมูลนิธิแสงชัย สุนทรวัฒน์ก็ขานรับมตินี้และได้ดำเนินการเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 22 ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังๆ มูลนิธิแสงชัยฯ ได้รับความร่วมมือจาก สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย รับไปดำเนินการโดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกและคณะกรรมการตัดสิน จากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ รวมทั้งดำเนินการพิจารณาตัดสินอย่างเข้มข้น ทำให้รางวัล แสงชัย สุนทรวัฒน์ มีคุณค่าขึ้นอีกหลายเท่า

สำหรับผลรางวัลแสงชัย สุนทรวัฒน์ ครั้งที่ 22 อันเป็นผลงานประจำปี 2561 ที่มีการประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีผู้ได้รับรางวัลดังต่อไปนี้

1. รางวัล ข่าวโทรทัศน์เชิงสืบสวน ไม่มีผลงานใดได้รับรางวัลยอดเยี่ยม

2.ร างวัล สารคดีเชิงข่าว โทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทรายการ ได้แก่ “ชีวิตหนี้มลาบรี” จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้รับโล่และเงินรางวัล 50,000 บาท

ส่วน ประเภทสกู๊ปข่าว ยอดเยี่ยม ได้แก่ “ขยะพิษภาคตะวันออก” จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้รับโล่และรางวัล 50,000 บาท

3. รางวัล ข่าวเหตุการณ์ โทรทัศน์ยอดเยี่ยม ประเภทรายงานสด ได้แก่ “เจอแล้ว 13 ชีวิตหมูป่าติดถ้ำหลวง เชียงราย” จากสถานีโทรทัศน์ ไทยรัฐทีวี (ช่อง 32) ได้รับโล่และเงินรางวัล 50,000 บาท

ประเภทเหตุการณ์ ยอดเยี่ยม ได้แก่ ข่าว “แม่ช้างป่าเข้าช่วยลูกตกบ่อน้ำ” จากสถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 HD ได้รับโล่และเงินรางวัล 50,000 บาท

ขอแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมทุกท่าน และด้วยเนื้อที่จำกัด ขอประกาศเฉพาะรางวัลยอดเยี่ยมในประเภทต่างๆ เท่านี้

ปีหน้าสู่กันต่อนะครับ แข่งกันนำข่าวและสารคดีดีๆ ที่เป็นประโยชน์ และน่าสนใจต่อไป…มูลนิธิแสงชัย สุนทรวัฒน์ จะตามไปแจกรางวัลเหมือนเดิมครับ.

“ซูม”