ความเชื่อมั่นลดอีกแล้ว ทำอย่างไรจะเรียกคืน?

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจไทย ประจำเดือนตุลาคมออกมาแล้วครับ

ฟังแล้วก็ต้องแอบถอนใจนิดๆ เพราะท่านผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์ฯ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ที่ผมมักจะเอ่ยถึงท่านอยู่บ่อยๆ…ท่านสรุปว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน!

คงจำได้นะครับ เมื่อเดือนกันยายนท่านบอกว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงไปแล้วหนหนึ่ง…มาถึงเดือนตุลาคม ก็ยังลดลงอีก

จากระดับ 69.4 ในเดือนกันยายน (ซึ่งลดจากเดือนสิงหาคมอยู่แล้ว) ลงมาอยู่ที่ระดับ 68.4 ในเดือนตุลาคม

ถามว่า เหตุผลอะไรที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง คำตอบก็คล้ายๆ กับเดือนที่แล้วคือ มีทั้งความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ, ปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน, ปัญหาราคาสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ยังไม่เพิ่มขึ้น

รวมไปถึงราคาน้ำมันที่ในช่วงต้นๆ เดือนตุลาคมก็ขึ้นเอา ขึ้นเอาจนทำให้เป็นห่วงว่าโลกเรากำลังจะเข้าสู่ยุคน้ำมันแพงกันอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ดร.ธนวรรธน์ท่านก็ยังมองโลกในแง่ดี หวังว่าการค้าโลกจะพลิกฟื้นทำให้การส่งออกของเราน่าจะอยู่ในเป้า 8 เปอร์เซ็นต์ได้ ในขณะที่การท่องเที่ยว หากดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้ก็จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวปีนี้เกิน 38 ล้านคน

รวมทั้งราคาน้ำมันที่ลดลงไปแล้วอย่างมากในขณะนี้ น่าจะทำให้ความกังวลลดลงด้วย ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรแม้จะไม่กระเตื้องขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลดลงไปมากนัก ฯลฯ

ท่านจึงคาดหวังว่าความเชื่อมั่นโดยรวมของไทยจะดีขึ้น ประชาชนจะจับจ่ายมากขึ้น ทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 น่าจะอยู่ที่ 4.6 เปอร์เซ็นต์

ก็ต้องขอบคุณท่านอาจารย์ที่พยากรณ์อย่างให้กำลังใจ ซึ่งผมก็ภาวนาขอให้เป็นไปอย่างที่ท่านคาดหวังไว้ คือ ขอให้หลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขออกมาติดลบจงกระเตื้องขึ้นบ้างใน 2 เดือนหลัง

แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยก็ตามทีเถิด

โดยเฉพาะเรื่องนักท่องเที่ยวจีนลด ผมไม่คิดว่าจะเก็บเกี่ยวกลับคืนมาได้ง่ายๆ เพราะเรามัวแต่ไปหลงเชื่อตัวเลขอะไรก็ไม่รู้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แถลง บอกว่าไม่เป็นไร ไม่ลด ไม่ลด เมื่อเดือนที่แล้ว

ภาคเอกชนเขาอยู่กับของจริง เขารู้ว่าไฟมันลามมาถึงตัวเขาแล้วก็ตะโกนขอให้ใช้ยาแรงๆ โดยด่วน…ฝ่ายราชการก็เถียงว่ายังไม่ถึงเวลา แถมยังเถียงเขาอีกว่าตัวเลขยังดีกว่าปีกลายซะด้วยซ้ำ

เอาเข้าจริงตัวเลขของภาคเอกชนถูกต้อง นักท่องเที่ยวจีนลดวูบจริง โรงแรม ร้านค้าในจังหวัดที่คนจีนชอบเที่ยวแทบกลายเป็นเมืองร้าง

นั่นแหละฝ่ายข้าราชการถึงได้เริ่มตื่นตัว เห็นจะทำโน่นทำนี่ยกใหญ่ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะช้าไปหรือไม่

ที่สำคัญที่สุด จีนเองก็กระอักจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งผมอาจจะผิดก็ได้ เพราะอยู่ไกลตัวเลข ไกลข้อเท็จจริง อ่านแต่ข่าวอยู่ตรงนี้แล้วลองประมวลเอา…ผมว่าจีนแพ้สหรัฐฯครับยกนี้

เศรษฐกิจจีนถดถอยแน่นอน รัฐบาลจีนมีการปรับนโยบายภายในประเทศขนานใหญ่ การปล่อยให้ประชาชนออกไปท่องเที่ยวง่ายๆ อาจจะหมดลงแล้วก็เป็นได้

ทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าเราจะสามารถเสกมนต์แบบพระสังข์เรียกเนื้อเรียกปลาจนสามารถเรียกนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาง่ายๆ เหมือนเดิมแล้วในนาทีนี้

แต่ก็ขอทำหน้าที่ในการให้กำลังใจแก่ทุกๆ ฝ่าย ขอให้พยายามต่อไป สู้ต่อไป อย่าเพิ่งท้อถอยซะก็แล้วกัน

อีกไม่กี่วันข้างหน้าเราจะมีงานลอยกระทงกันแล้วครับ…งานประเพณีอันยิ่งใหญ่ของคนไทย ที่มีปีละครั้ง และโด่งดังไปทั่วโลก

ที่ผ่านมาวันลอยกระทงสามารถใช้เป็นเครื่องวัดความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้อย่างดียิ่ง…ปีไหนประชาชนออกเที่ยวมากสนุกสุดเหวี่ยงแสดงว่ามีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสูง แต่ถ้าปีไหนหงอยๆ เหงาๆ แสดงว่าความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจค่อนข้างต่ำ คนยังต้องประหยัดรัดเข็มขัดต่อไป

สรุป… “ลอยกระทง 2561” จะเป็นอย่างไรหนอ? วันเพ็ญเดือน 12 หรือ 22 พ.ย.นี้ อย่าลืมลุ้นด้วยนะครับรัฐบาล.

“ซูม”