เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมเขียนถึงข่าวดีของประเทศไทยว่าด้วยการเป็นแชมป์โลก ในฐานะ “ประเทศที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิต ประจำปี 2024” ของนิตยสารทางออนไลน์ที่ชื่อว่า CEO WORLD ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา

ผมลองเข้าไปค้นประวัติความเป็นมาพบว่า ก่อตั้งมา 15-16 ปีแล้ว เวลาประกาศอันดับอะไรก็มีคนหยิบไปอ้างอิงกันเยอะแสดงว่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

เมื่อผู้อ่านของเขาบอกว่า เราเป็นประเทศที่ควรไปเยี่ยมสักครั้งในชีวิต ที่ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 หรือเป็นแชมป์ของปีนี้จากการสำรวจ 67 ประเทศ จึงเป็นเรื่องที่สมควรแก่ความยินดีและภาคภูมิใจ

แต่ผมก็เขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านว่าแมกกาซีนที่ว่านี้ เขามีหัวข้อที่น่าสนใจเปรียบเทียบความสามารถหรือศักยภาพหรือภาพลักษณ์ ของประเทศทั่วโลกเอาไว้อีกหลายหัวข้อ

ผมลองนับดูคร่าวๆ เห็นจะไม่ตํ่ากว่า 50 หัวข้อเป็นอย่างน้อย จึงเขียนกราบเรียนท่านผู้อ่านไว้ว่า ว่างๆ จะลองเข้าไปดูในหัวข้ออื่นๆ บ้าง เพื่อให้รู้ว่าเราจะเป็นแชมป์หรือติดอันดับสูงๆ ในประเภทใดอีกบ้าง

ผมเข้าไปดูประมาณ 20 หัวข้อแล้วครับ ไม่มีหัวข้อไหนที่เราได้ แชมป์อีกเลย มีบางหัวข้ออยู่ในอันดับท็อป 10 บ้าง อยู่กลางๆ ที่ 20 กว่า 30 กว่าบ้าง…และอย่างหัวข้อที่ผมจะนำมาฝากท่านผู้อ่านวันนี้ อยู่ถึงอันดับ 109 โน่นเลยครับจากการสำรวจ 177 ประเทศทั่วโลก

นั่นก็คือ อันดับว่าด้วย “สถานการณ์ด้านคอร์รัปชันของประเทศ ต่างๆ ประจำปี 2024” ที่เขาเผยแพร่ไว้ในเว็บเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นี่เอง

อันดับ 1 โลก ที่ปราศจากคอร์รัปชันหรือมีก็น้อยๆๆ มาก จนได้คะแนน เป็นที่ 1 ของแมกกาซีนฉบับนี้ ได้แก่ ฟินแลนด์ อยู่ที่ 97.93 คะแนน

อันดับ 2 หรือรองแชมป์โลกได้แก่ นิวซีแลนด์ (97.84 คะแนน) ตามมาด้วยอันดับ 3 เดนมาร์ก (97.31 คะแนน), อันดับ 4 สิงคโปร์ (97.19 คะแนน) และอันดับ 5 นอร์เวย์ (96.93 คะแนน)

ของอาเซียนเรา นอกจาก สิงคโปร์ ที่ไปติดอันดับ 4 โลกแล้ว ก็จะมี มาเลเซีย (ที่ 2 อาเซียน) อยู่ในอันดับ 56 ของโลก, เวียดนาม (ที่ 30 อาเซียน) อันดับ 85 โลก, ไทยแลนด์ (ที่ 4 อาเซียน) อันดับ 109 โลก, อินโดนีเซีย (ที่ 5 อาเซียน), อันดับ 111 โลก, ฟิลิปปินส์ (ที่ 6 อาเซียน), อันดับ 113 โลก, ลาว (ที่ 7 อาเซียน) อันดับ 130 โลก กัมพูชา (ที่ 8 อาเซียน) อันดับ 152 โลก และ เมียนมา (ที่ 9 อาเซียน) อันดับ 164 โลก

ผมไม่แน่ใจในวิธีการสำรวจของแมกกาซีนนี้ เพราะพยายามค้นแล้ว แต่อาจเป็นเพราะความไม่สันทัดในการค้นหา จึงไม่เจอวิธีการคิดหรือให้คะแนนเหมือนในกรณีอื่นๆ

ก็เลยเดาว่าเขาคงสำรวจความเห็นจากผู้อ่านของเขาทำนองเดียวกันกับการสำรวจในประเด็นอื่นๆ นั่นเอง
ที่ต้องตั้งข้อสังเกตอย่างนี้เพราะปกติเราจะตามข้อมูลการจัดอันดับประเทศคอร์รัปชัน ที่ดำเนินการโดย องค์กรเพื่อความโปร่งใส นานาชาติ หรือ Transparency International อยู่ด้วย

องค์กรที่ว่านี้ จัดอันดับให้ประเทศไทยของเราอยู่ที่อันดับ 108 ของ ปีที่ผ่านมาคือปี 2023 ซึ่งเพิ่งจะพิมพ์เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคมปีนี้

ประเทศในกลุ่ม อาเซียน ของเราก็อยู่ในอันดับใกล้เคียงกันกับของที่แมกกาซีนฉบับนี้จัด เช่น สิงคโปร์ อันดับ 5, มาเลเซีย อันดับ 57, เวียดนาม อันดับ 83, อินโดนีเซีย อันดับ 115 เท่ากับ ฟิลิปปินส์

สำหรับอันดับประเทศ “น้ำดี” นั้นของเจ้านี้ ให้ เดนมาร์ก เป็นที่ 1, ฟินแลนด์ ที่ 2, นิวซีแลนด์ ที่ 3, นอร์เวย์ ที่ 4, สิงคโปร์ ที่ 5 และ สวีเดน ที่ 6 คล้ายกับที่แมกกาซีน CEO WORLD จัดเพียงแค่สลับที่กันเท่านั้น

ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าแมกกาซีนนี้จะไปลอกมาจากองค์กรโปร่งใสนานาชาติหรือเปล่า?

เอาเถอะ ลอกไม่ลอกก็ชัดเจนแล้วว่า “อันดับคอร์รัปชัน” ของเรานั้นแย่มาก เรารณรงค์มาหลายปีแล้ว มี ป.ป.ช.บ้าง ป.ป.ป.บ้าง มาก็หลายปีแล้ว อันดับโลกคอร์รัปชันยัง 100 กว่าอยู่นั่นเอง

ขออนุญาตนำอันดับมาลงไว้ เผื่อจะช่วยเขียนเสือให้วัวกลัว ได้บ้าง…เพราะว่ารัฐบาลใหม่กำลังจะมีโครงการใหญ่ๆ ใช้เงินเยอะ… บางโครงการถึง 5 แสนล้านบาท จะได้รู้ตัวไว้ว่า อันดับโลกคอร์รัปชันเรา 109 โลกแล้วนะยะ

อย่าเผลอทำให้ร่วงไปอีกเป็น 120–130 หรือ 177 (อันดับแย่สุด) เข้าก็แล้วกัน.

“ซูม”