ผมขออนุญาตท่านผู้อ่านเขียนถึงบรรยากาศเมื่อคํ่าวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม ซึ่งนักฟุตบอลทีมชาติไทยหรือทีม “ช้างศึก”ของเราลงแข่งขันกับทีมเกาหลีใต้ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อีกครั้งนะครับ
เพราะเป็นบรรยากาศที่ผมรอคอยมานานหลายปี หลังจากนักการเมืองไทยเข้ามาแบ่งแยกคนไทยของเราออกเป็นส่วนๆ และเสี่ยงๆ ทะเลาะกันวุ่นวายในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมานี้
ได้เห็นภาพคนไทยรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกันในสนามโซลเวิลด์คัพสเตเดียม ผมว่าน่าจะหลายพันคนหรืออาจจะเฉียดหมื่นคนด้วยซํ้า เพราะเต็มอัฒจันทร์ไปหมด ลุกขึ้นตะโกนเชียร์ไทยแลนด์ ไทยแลนด์ พร้อมโบกธงไตรรงค์อย่างชนิดไม่เกรงใจเจ้าบ้าน
โดยเฉพาะนาทีที่ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นักเตะไทยของเรา ยิงประตูเสมอได้นั้น มีการเผยแพร่คลิปในตอนหลังให้เห็นถึงความตื่นเต้นดีใจสุดขีดถึงขั้นหวีดร้องและกระโดดโลดเต้นและพุ่งเข้ากอดกันกลมไปทั้งอัฒจันทร์ด้านกองเชียร์ไทย
ผมเชื่อว่า พี่น้องชาวไทยทางบ้านนับสิบล้านคนที่ติดตามการถ่ายทอดสดของ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ก็คงจะไชโยโห่ร้องพอกัน
เพราะเราเองรับสภาพกันอยู่แล้วว่า เกาหลีใต้เหนือกว่าเราหลายขุม ทั้งอันดับโลก ทั้งขุนพลนักเตะที่เขามีนักเตะระดับยุโรปหลายๆคน
เราจึงหวังกันว่า ไปเตะคราวนี้ขอให้แพ้น้อยที่สุดที่จะน้อยได้ คืออย่าให้เสียประตูมากนักเพื่อไม่ให้ลูกได้เสียของเราน้อยกว่าทีมจีน เนื่องจากเรายังหวังกันว่าที่สุดของที่สุด เราจะไปวัดดวงกับทีมจีนเพื่อเข้ารอบต่อไป ในฐานะที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยแต้มที่อาจเท่ากันแต่ประตูได้เสียเราดีกว่าจีน
นึกไม่ถึงจริงๆ ว่า นักเตะของเราจะทำได้ดีกว่าที่คาดไว้หลายสิบเท่า… นอกจากไม่แพ้เยอะแล้วยังตีเสมอได้เสียอีก
เป็น 1 แต้มที่ทรงคุณค่ามากอย่างที่เซียนข่าวกีฬาเขาพูดกัน
ไม่เพียงแต่ทรงคุณค่า เพราะทำให้เรายังมีโอกาสที่จะได้เข้ารอบลึกๆ ต่อไปอีก หากนัดที่เหลือเราไม่มีอะไรผิดพลาดมากนัก
ยังทรงคุณค่าสำหรับคนที่เบื่อหน่ายบรรยากาศความแตกแยกของการเมืองไทย อย่างผมที่กลับมาได้เห็นธงชาติไทยสะบัดพลิ้วในสนาม กลางกรุงโซล ประเทศเกาหลี พร้อมกับความเป็นหนึ่งเดียวของคนไทย
คนไทยเหล่านี้บางส่วนอาจจะเป็น FC ของช้างศึกที่จัดทัพเพื่อไปเชียร์โดยตรงและบางส่วนก็อาจจะเป็นคนไทยที่ทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในเกาหลี ซึ่งมีอยู่จำนวนพอสมควรในปัจจุบัน
หวังว่า คงไม่มีแรงงานไทยที่เรียกกันว่า “ผีน้อย” หรือแรงงานไม่ถูกกฎหมาย มาเชียร์ด้วยนะครับ เดี๋ยวจะถูกจับเสียเปล่าๆ รักทีมชาติไทยแค่ไหนก็ขอให้แอบเชียร์ไปก่อนก็แล้วกัน
หนึ่งในแรงงานที่ถูกกฎหมายเพราะไปเล่นวอลเลย์บอลหญิงอาชีพให้กับสโมสร ไอบีเค ฮัลโทส อยู่ที่โน่นก็คือ “น้องชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ กัปตันทีมชาติวอลเลย์หญิงไทย ขวัญใจมหาชนเช่นกัน
น้องชมพู่สวมชุด “ช้างศึก” มาเชียร์ด้วย พร้อมกับถ่ายรูปจากอัฒจันทร์ชู 2 นิ้ว พร้อมโพสต์ทั้งรูปและข้อความในอินสตาแกรมของเธอว่า
“6-7 ปีแล้วที่ไม่ได้ซึมซับบรรยากาศแบบนี้ เคาะประตูเก่งมาก 1-1 เล้ยยย์…ไปเชียร์กันต่อที่ราชมังนะคะ 26 มีนาคมนี้ ไทย : เกาหลี…แล้วไปเล่นสงกรานต์ต่อเลยค่ะ…สาดนํ้ากัน”
อ่านแล้วก็รู้สึกได้ทันทีว่า น้องเราดีใจและมีความสุขแค่ไหนกับการตีเสมอเกาหลีของทีมชาติไทยในการเตะฟุตบอลนัดนี้
เพราะฉะนั้นเราก็มาเชียร์กันต่อที่สนามราชมังคลากีฬาสถานในวันที่ 26 มีนาคม (ซึ่งก็คือวันพรุ่งนี้แล้ว) ตามที่น้องชมพู่เชิญชวนไว้ดีกว่า
เท่าที่เป็นข่าวมาหลายวันแล้วว่า บัตร 40,000 กว่าใบขายเกลี้ยงไปเรียบร้อย แต่ก็คงจะมีประเภทที่ซื้อไปจำหน่ายหน้าสนามอยู่ด้วยแน่ๆ…ใครที่ประสงค์จะไปดูสดๆ ที่สนาม หากจะยอมจ่ายแพงก็ไปได้เลย
แต่ถ้าจะดูที่บ้านก็เฝ้าหน้าจอ ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 นี่แหละครับ เราจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสดตามแคมเปญ “เชียร์ไทยให้กึกก้อง” หรือ “รวมใจหน้าจอ” เพื่อท่านผู้ชมอยู่แล้ว ในเวลา 19.30 น.
ผมยังมักน้อยอยู่ และยังคิดว่า เราเป็นรองเกาหลีใต้…ก็ขอเชียร์ว่า ถ้าเราแพ้ขอให้แพ้น้อยๆประตูเพื่อเตรียมตัวไว้วัดดวงกับจีนตามความตั้งใจดั้งเดิมที่เขียนไว้แล้วตอนต้น
แต่ถ้าน้องๆ ช้างศึกจะเซอร์ไพรส์คนไทยอีกหนโดยตีเสมอได้หรือเอาชนะพลังโสมให้เด็ดขาดไปเลยก็ไม่ว่านะน้อง.
“ซูม”