ในคอลัมน์ซอกแซกฉบับวันอาทิตย์ของผมเมื่อวานนี้ ได้สรุปสถานที่ที่ควรแวะไป “เคาต์ดาวน์” หรือ “นับถอยหลัง” สำหรับส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทั่วประเทศไทยเอาไว้ 10 จุดด้วยกัน
พร้อมกับยกให้งานเคาต์ดาวน์ “วิจิตรอรุณ Amazing Thailand Countdown 2024” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะจัดขึ้นที่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งแต่หัวค่ำย่ำสนธยาไปจนถึงห้วงเวลาสำคัญ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งจะมีการจุดพลุสนั่นหวั่นไหว ถึง 9 ชุด นั้นเป็นงานหมายเลข 1 ที่จะต้องติดตามดูชม
แม้ผมจะยังเชื่อมั่นในความยิ่งใหญ่อลังการ และการจุดพลุรักษ์โลก 50,000 ดอก ของ ไอคอนสยาม ริมฝั่งเจ้าพระยาเช่นกันว่าน่าจะยังคงความยิ่งใหญ่อยู่เหมือนเดิม
รวมทั้ง ณ ลาน เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ซึ่งผมยังเชื่อว่าจะมีผู้คนไปร่วมนับถอยหลังมากที่สุดของ กทม. และน่าจะของประเทศไทยด้วยเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา
แต่พออ่านรายละเอียดที่ ททท.บรรยายถึงโครงการ “วิจิตรอรุณ” ซึ่งเป็นรายการเคาต์ดาวน์ที่ ททท.จัดเสริมขึ้นในปีนี้เป็นการเฉพาะ ก็ตัดสินใจโดยส่วนตัวผมเองยกให้เป็น “หมายเลข 1” ทันที
ด้วยเหตุผลที่ว่าลำพัง “องค์พระปรางค์วัดอรุณ” องค์ใหญ่เพียงองค์เดียวในท่ามกลางแสงสีเสียงทั้งแสงไฟและแสงจากพลุ ก็น่าจะโดดเด่น เป็นสง่าเหนือคำบรรยายใดๆอยู่แล้ว
ผมเคยเขียนกราบขอบพระคุณพระปรางค์วัดอรุณเอาไว้ตั้งแต่เมื่อตอนไปร่วมงาน “ลอยกระทง” หรือ “งานเทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทย” ที่ ไทยเบฟฯ เป็นแกนหลักในการจัดงานมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา
ไปกราบขอบพระคุณด้วยตนเองต่อหน้าพระปรางค์ที่ยืนหยัดเป็น ตราสัญลักษณ์ หรือ “แบรนด์” ของประเทศไทยเปรียบเสมือน “นางกวัก” เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวประเทศไทยมานานนักหนาไม่ต่ำกว่า 70-80 ปี นับตั้งแต่ผมจำความได้
เสียดายที่ในคอลัมน์ซอกแซกวานนี้ ผมไม่สามารถลงรายละเอียดเกี่ยวกับ “พลุ” ทั้ง 9 ชุดที่จะจัดยิงในวันเคาต์ดาวน์ ติดต่อกันรวดเดียว 7 นาที หน้าพระปรางค์ได้ วันนี้ขอคัดลอกมาลงเพิ่มเติมนะครับ
เพราะแต่ละชุดล้วนมีความหมายสำหรับประเทศไทย และคนไทยเรา ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมเป็นอย่างยิ่ง…ดังนี้
พลุชุดที่ 1 “อรุณรุ่ง” การแสดงพลุแสงสีเงินสื่อถึงแสงแรกของรุ่งอรุณต้อนรับศักราชใหม่
พลุชุดที่ 2 “อรุณแห่งศรัทธา” การแสดงพลุแสงสีทองสื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ความเชื่อ ความศรัทธาและความหวังของคนไทย
พลุชุดที่ 3 “รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย” การแสดงพลุแสงสีนํ้าเงิน ขาว แดง สีของธงชาติ สื่อถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของคนไทยทั้งประเทศ
พลุชุดที่ 4 “ดินแดนแห่งความสุข” ประกอบด้วยพลุรูปหัวใจหลากหลายสีสัน สื่อถึงความรักความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศ
พลุชุดที่ 5 “สยามเมืองยิ้ม” ประกอบด้วยพลุแห่งรอยยิ้มหลากหลายสีสัน สื่อถึงความใจดีมีเมตตา และความมีนํ้าใจของคนไทยที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย
พลุชุดที่ 6 “รุ่งอรุณแห่งการท่องเที่ยว” ประกอบด้วยพลุหลากหลายสีสันชุดใหญ่สื่อถึงการท่องเที่ยวของประเทศไทย สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและมีชื่อเสียงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
พลุชุดที่ 7 “แสงอรุณแห่งอิสระเสรี” จะเป็นพลุแสงสีรุ้ง สื่อถึงความเป็นอิสระทางเพศ และการใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานและสร้างสรรค์
พลุชุดที่ 8 “เจริญ รุ่งโรจน์” ประกอบด้วยพลุฝนสีเงิน สื่อถึง ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ
พลุชุดที่ 9 “แสงอรุณแห่งความเชื่อ ศรัทธา ก้าวหน้า และรอยยิ้ม” เป็นการแสดงชุดใหญ่แบบฟินาเล่ส่งท้าย สื่อถึงบทสรุปความศรัทธา ความเชื่อ ความสามัคคี ความรัก ความสุขและรอยยิ้ม อำลาความทุกข์ไปกับปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ 2567 ด้วยความสุข
นี่แหละครับ “ความหมาย” ของพลุทั้ง 9 ชุด ที่จะนำมาจุดในคืนเคาต์ดาวน์หน้าองค์พระปรางค์วัดอรุณที่ผมกลับไปอ่านอีกครั้งแล้วเห็นสมควรจะนำมาลงในคอลัมน์วันนี้เพื่อให้อ่านกันอย่างเต็มอิ่ม
จะรอชมนะครับ เคาต์ดาวน์ “วิจิตรอรุณ” ในคืน 31 ธันวาคม (และฝากโทรทัศน์ช่องไหนก็ได้ครับ ช่วยถ่ายทอดสดด้วย)
“ซูม”