ครบ “100 วัน” วันพรุ่งนี้ จะได้นายกฯ ใหม่…ไหมเนี่ย?

เป็นอันว่าวันอังคารที่ 22 สิงหาคม 2566 หรือวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามคิวการเสนอของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้

ท่านประธานรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ แถลงว่า จะเปิดโอกาสให้ สส. และ สว.อภิปรายไปจนถึง 15.00 น. ค่อยเริ่มลงมติ จากนั้นนับคะแนนกันเลย คาดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเสร็จสิ้นภายในเวลา 17.30 น. หรือ 5 โมงเย็นครึ่ง

แปลว่า ก่อนพระอาทิตย์ตกดินในวันพรุ่งนี้ เราก็จะทราบกันแล้วว่าประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 หรือไม่? อย่างไร?

ถ้าแคนดิเดตที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของเสียงทั้งหมดของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งจากตัวเลขปัจจุบันคือ 375 เสียง ก็เป็น อันเรียบร้อยโรงเรียนเพื่อไทย

แคนดิเดตที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอ ซึ่งตามข่าวยังยืนยันว่าจะเป็นคุณเศรษฐา ทวีสิน ก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยแลนด์

แต่คำถามสำคัญที่ยังต้องการคำตอบที่สำคัญเช่นกันก็คือ คุณเศรษฐา จะได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาถึง 375 เสียงหรือไม่ เพราะจากเสียงตั้งต้นที่รวบรวมได้จากพรรคต่างๆ ที่จะมาร่วมกับเพื่อไทยในลอตนี้ (รวมพรรค 2 ลุงแล้วด้วย) มีเพียง 314 เสียง

ยังขาดอยู่อีกถึง 61 เสียง ที่จะต้องพึ่งการยกมือของ “สว.”

ซึ่งก็เป็นข่าวหน้า 1 เช่นกันว่า สว.หลายๆ ท่านยังสงวนท่าที ไม่ค่อยจะเต็มใจนักกับชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ที่เคยมีข่าวว่ามีความคิดจะแก้มาตรา 112 อยู่เหมือนกัน

แถมล่าสุดยังโดนคุณชูวิทย์ออกมาเปิดโปงเรื่องโน้นเรื่องนี้ มีปัญหาโน่นนี่ตามที่เป็นข่าวหน้า 1 เช่นกัน

สำหรับความเห็นของผมนั้น มองว่าประเทศไทยเราว่างเว้นจากการมีนายกรัฐมนตรีตัวจริง และรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มมากว่า 90 วันแล้ว และถ้านับถึงวันที่ 22 สิงหาคม ที่จะประชุมรัฐสภานี้ด้วย จะครบ 100 วันเป๊ะพอดีเลย

เราไม่ควรเสียเวลามากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะสมมติว่าวันอังคารนี้ตกลงใจกันได้ว่าจะเป็นคุณเศรษฐา ก็ยังมีขั้นตอนต่างๆอีกตามสมควร กว่ารัฐบาลใหม่จะมีอำนาจเต็ม 100 ในการบริหารอย่างแท้จริง ก็ต้องหลังวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเรียบร้อยแล้วโน่นแหละ

จาก 100 วันในวันอังคารที่ 22 สิงหาคม ก็จะกลายเป็น 120 วัน 130 วัน หรือหากคุณเศรษฐาไม่ได้รับเลือก ต้องมีการเสนอรายชื่อใหม่อีก อาจจะเป็นโน่นเลย 150 วัน 160 วัน เสียเวลาเพิ่มขึ้นอีก

กล่าวด้วยเหตุผลของการบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีผลดีทางเศรษฐกิจและสังคมต่อประเทศชาติมากที่สุดแล้ว เราควรจะมีนายกฯคนใหม่และรัฐบาลใหม่ ตั้งแต่การประชุมรัฐสภาเมื่อ 13 กรกฎาคมด้วยซ้ำ

แต่เนื่องจากผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับนโยบายแก้มาตรา 112 ของ พรรคก้าวไกล และหวั่นเกรงว่าหากคุณพิธาได้มาบริหารประเทศ จะนำไปสู่การขัดแย้งของคนในชาติอย่างใหญ่หลวง

ผมจึงไม่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนที่ประเทศไทยของเราจะต้องเสียเวลาในการมีรัฐบาลใหม่ออกไปบ้าง…ในทางตรงข้าม กลับรู้สึกขอบคุณท่าน สว.ด้วยซ้ำ ที่โหวตไม่รับคุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว

มาถึงช่วงเวลานี้ พรรคเพื่อไทย ได้เป็นแกนจัดตั้งและพรรคที่เข้ามาร่วม ล้วนไม่มีนโยบายในการแก้ไข ม.112 ผมก็เห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่เราจะมีนายกฯใหม่และรัฐบาลใหม่กันเสียที

จึงฝากท่าน สว.ได้โปรดพิจารณาด้วยก็แล้วกัน…ขอให้กลั่นกรองหรือตรวจสอบประวัติของคุณเศษฐาให้เต็มที่ ถ้าพอไหวก็ให้ผ่าน ถ้าเห็นว่าไม่ไหวจริงๆ จะให้สอบตก ก็แล้วแต่วิจารณญาณของท่านที่ผมให้ความเคารพอยู่เสมอ

เขียนมาถึงช่วงนี้ ก็มีข่าวใหญ่จากการโพสต์ของคุณอุ๊งอิ๊งว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จะบินกลับบ้านวันอังคาร 22 นี้เหมือนกัน และจะมาถึงในตอนเช้าก่อนประชุมรัฐสภาเสียด้วย

ถ้ามาจริงก็คงต้องมีการดำเนินคดีไปตามขั้นตอนต่างๆ หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ซับซ้อนอื่นใด จนทำให้รัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ไม่ได้ก็แล้วกันนะครับในวันพรุ่งนี้.

“ซูม”

ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี, การเมือง, การเมืองวันนี้, เศรษฐา ทวีสิน, นายกรัฐมนตรีไทย, คนที่ 30, รัฐสภา,  รัฐบาลใหม่, ข่าว, ซูมซอกแซก, เพื่อไทย