“หมอลำ” ไม่มีวันตาย เรียนรู้จาก “น้องอุ๋งอิ๋ง”

เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง หัวหน้า ทีมซอกแซกได้เขียนถึง “คลิป” ประทับใจคลิปหนึ่ง ว่าด้วยเด็กหญิงลูกครึ่งอีสาน-อังกฤษเธอหนึ่งที่ใฝ่ฝันจะเป็น “หมอลำ” เมื่อโตขึ้น ได้มาออกรายการ “ซุปเปอร์เท็น” ของเวิร์คพอยท์ พร้อมกับโชว์ลูกคอร้องเพลงหมอลำหลายเพลง รวมทั้งเพลงของหมอลำดาวรุ่งคนใหม่ที่เป็น “ไอดอล” ของเธอด้วย

ปรากฏว่าทางรายการได้ซ่อนหมอลำตัวจริงที่เด็กน้อยชื่นชอบไว้พร้อมกับปล่อยออกมา “เซอร์ไพรส์” ในระหว่างที่เธอร้องเพลง ส่งผลให้เด็กน้อยร้องเพลงไปน้ำตาไหลพรากไปด้วยความดีใจ และ “คลิป” นี้ ก็กลายเป็น “ไวรัล” แผล็บเดียวยอดเข้าชมทะลุ 2 ล้านวิวในยูทูบไปเรียบร้อย

หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสได้ชมคลิปนี้เช่นกัน และพลอยซาบซึ้งตรึงใจไปด้วย แต่ที่รู้สึก “เซอร์ไพรส์” มากกว่าแม่หนูน้อยก็ตรงที่ทราบว่า “หมอลำ” ขวัญใจของหนูอายุ 11 ขวบนั้นก็มีอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้นเอง มีชื่อบนเวทีแสดงว่า อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง

จึงฝากให้ทีมงานซอกแซกสายบันเทิงลองไปค้นหาเพิ่มเติมว่าหมอลำ “อุ๋งอิ๋ง” โด่งดังจริง หรือ? โด่งดังมากน้อยขนาดไหน? และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร?

ได้รับรายงานว่าดังจริงๆ ดังเปรี้ยงปร้างแบบทะลุฟ้า เมื่อประมาณเดือนมกราคมปี 2566 ที่ผ่านมานี่เอง

เมื่อปรากฏเรื่องราวของเด็กผู้หญิงวัย 16 ปี คนหนึ่ง พร้อมกับคุณแม่ของเธอเดินเข้าไปหลังเวทีของวงหมอลำวงใหญ่ระดับแนวหน้าของภาคอีสานวงหนึ่งในปัจจุบันนี้…ได้แก่วง “สาวน้อยเพชรบ้านแพง” ที่มี “โจ” ยมนิล นามวงษ์ เป็นหัวหน้าวง

หนูน้อยวัย 16 แจ้งความประสงค์ว่าอยากเป็นหมอลำ…หัวหน้าโจจึงสอบถามประวัติเล็กน้อยก็ชวนไป “ออดิชัน” บนเวทีเลย เพราะกำลังอยู่ในระหว่างซ้อมที่จะมีการแสดงในวันรุ่งขึ้นอยู่พอดี จึงมีแฟนพันธุ์แท้มาร่วมดูอยู่ด้วยประมาณ 3-4 ร้อยคน

เสียงร้องของน้องอุ๋งอิ๋งสะกดทั้งหัวหน้าวงและคนดูฟรี ตั้งแต่ต้นจนจบเพลง เรียกเสียงปรบมือกราวใหญ่

ลงจากเวทีทดสอบมาเรียบร้อย หัวหน้าวงก็เข้าไปคุยต่ออีกพักหนึ่งพร้อมกับประกาศรับเธอเข้าสู่คณะหมอลำทันที ในนามของ อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง

อย่างเหลือเชื่อเมื่อ “โจ ยมนิล” ปล่อยคลิปบันทึกเหตุการณ์ตั้งแต่อุ๋งอิ๊งกับแม่เดินมาขอสมัครเป็นหมอลำหลังเวทีจนขึ้นไปทดสอบ “ออดิชัน” ลงยูทูบและเฟซบุ๊ก ก็ปรากฏว่ามีแฟนๆ เข้ามาชม จนยอดกระฉูดเหยียบล้านวิวเพียงไม่กี่วัน

จากนั้น โจ ยมนิล ก็ให้ครูเพลง แต่งเพลง “หอบฝันมาหลังฮ้าน” หรือ “หอบฝันมาหลังเวที” ให้น้องอุ๋งอิ๋งร้องมีเนื้อร้องบางช่วงบางตอนว่า

“เด็กตาดำๆ กอดวุฒิ ม.3 จบ กศน.ภาพจำคือหน้าแม่พ่อกับน้อง ที่ยัง ลำบาก…ออกเดินตามฝันเพื่อหวังสักวันให้คนที่ฮัก…ได้มีที่พึ่งที่พักมีชีวิตดีกว่านี้

ต้นทุนที่มีคือใจดวงนี้อยากเป็นหมอลำ…จั่งพับเก็บวุฒิ ม.3 อย่างนำเสียงใจที่มี…บอกกับความฝัน พร้อมทำทุกงานในเส้นทางนี้ซักชุดเก็บผ้าเก็บหมี่…ขอเพียงได้อยู่ในวง

หอบเอาความฝันมาจอบอยู่หลังฮ้าน เหมือนฟ้าบันดาล พาฝันเหมารถมาส่งให้ได้พบพ้อกับพ่อผู้หัวหน้าวง…ทั้งดีใจพร้อมยืนงง…พ่อหัวหน้าวงรับเข้าวงหมอลำ”

สรุปก็คือบรรยายเหตุการณ์วันที่เธอมาขอสมัครเป็นนักร้องออกมาเป็นเสียงเพลงนั่นเอง

ในยุคทันสมัยไฮเทคที่ใครที่ไหนก็อัดเพลงเองได้ นำลงยูทูบได้ไม่ต้องพึ่งค่ายใหญ่ค่ายยักษ์แบบในอดีต…ส่งผลให้ เพลง “หอบฝันมาหลังฮ้าน” ของอุ๋งอิ๋ง กลายเป็นเพลงฮิต ยอดวิวทะลุ 10 ล้าน เพียงชั่วพริบตาและขึ้นมาที่ 17 ล้านวิว ณ ขณะนี้

พร้อมกันนั้น โจ ยมนิล ก็ส่งเธอขึ้นเวทีหมอลำ กลายเป็นนางเอกหมอลำ “ดาวรุ่ง” ดวงใหม่ ขวัญใจชาวอีสานเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น

จากเดือนกุมภาพันธ์มาถึงเดือนมิถุนายน ขณะบันทึกเรื่องราวของเธอในคอลัมน์ซอกแซกวันนี้เพียง 5 เดือนเศษเท่านั้น อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง หรือในชื่อจริงตามสำเนาทะเบียนบ้าน รัตนาภรณ์ อุดทุม ก็ได้แจ้งเกิดกลายเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดผู้ชมเข้าชมการแสดงของเธอและคณะสาวน้อยเพชรบ้านแพง แบบล้นทะลัก

มีรายงานว่าการแสดงบางคืนเธอได้รับ “พวงมาลัยคล้องคอ” ที่เป็นเงินสดๆ รวมแล้ว หลายพวงเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท

ขณะเดียวกันในหลายๆการแสดงของเธอก็เกิดปรากฏการณ์ “ล้านแตก” อันหมายถึงว่าผู้ชมแห่กันซื้อตั๋วเข้ามาดูในรั้วกั้นเก็บเงินได้เกิน 1 ล้านบาทในคืนเดียว

ทีมงานซอกแซกสายบันเทิงรายงานด้วยว่าไม่เพียงแต่ วง “สาวน้อยเพชรบ้านแพง” เท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามมีผู้เข้ามาชมดูการแสดงล้นหลามดังที่กล่าวถึงข้างต้น…ปรากฏว่าหมอลำวงอื่นๆก็คนดูแน่นขึ้นทันตาเห็น หลังจาก “โควิด-19” อำลาประเทศไทย

เคยมีคำกล่าวว่า “หมอลำไม่มีวันตาย” ซึ่งก็ยังคงเป็นคำกล่าวที่ถูกต้องและยืนยงมาถึงวันนี้เพราะหมอลำไม่มีวันตายจริงๆ

คงจำได้ภาษิตฝรั่งที่บอกว่า “ทหารแก่ ไม่มีวันตายเพียงแค่ค่อยๆ เลือนหาย ไปเท่านั้น” ซึ่งสำหรับหมอลำแล้วก็อย่างที่กล่าวไว้ในย่อหน้าก่อนนั่นแหละ นอกจากไม่มีวันตายยังไม่มีวันเลือนหายแต่อย่างใด

จาก บานเย็น รากแก่น, จาก นกน้อย อุไรพร, จาก หงส์ทอง ดาวอุดร, จาก อังคนางค์ คุณไชย ฯลฯ ในอดีตมาจนถึง แอน อรดี หมอลำบัณฑิต และ อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง หมอลำ ม.3 (กศน.) ในยุคนี้ล้วนมีตัวตายตัวแทนอยู่ตลอดเวลา

ถามว่าเหตุใดหมอลำจึงไม่ตาย…คำตอบก็คือ เพราะหมอลำมีวิวัฒนาการจากหมอลำเดี่ยว เป็นหมอลำหมู่ จากหมอลำหมู่ เป็นหมอลำซิ่ง มีวงดนตรีลูกทุ่ง มีหางเครื่อง มาแสดงประกอบ…บางวงมี 300 ชีวิต บางวงเคยมีถึง 600 ชีวิต

ที่สำคัญทุกวงหมอลำล้วนมีช่อง “ยูทูบ” ของตนเอง มีโซเชียลมีเดียคอย ไลฟ์สด ตั้งแต่ซ้อม, ใช้ชีวิตประจำวัน, ไปจนถึงการแสดงของดาราดังต่างๆ รวมถึงการประกาศโปรแกรมการแสดงควบคู่ไปด้วย

วิวัฒนาการแบบไฮเทคไปถึงไหน หมอลำก็ไปถึงนั่นด้วย เช่นนี้จึงสมเหตุสมผลแล้วครับ… ที่หมอลำไม่มีวันตาย มีแต่จะโตและโตไปตลอดกาล จากความคิดสร้างสรรค์ของวงหมอลำ อีสานในทุกวันนี้.

“ซูม”

“หมอลำ” ไม่มีวันตาย เรียนรู้จาก “น้องอุ๋งอิ๋ง”, อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง, หมอลำ, หอบฝันมาหลังฮ้าน, อีสาน, หมอลำซิ่ง, เพลง, วัฒนธรรม, ซูมซอกแซก