ปลุก “เกษียณ” สู้ “กระแส” จาก “วัดทางสาย” ถึง “วัดโพธิ์”

ผมเรียนท่านผู้อ่านไว้แล้วว่าจะแวบไปพักผ่อนหย่อนใจที่ชายทะเลกับหลานๆ ในช่วงปิดเทอมใหญ่ครั้งนี้สัก 3-4 วัน ซึ่งในที่สุดก็ชวนกันไปพักที่รีสอร์ตริมทะเลบ้านกรูด ของอำเภอบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ระหว่างอยู่ที่โน่นผมก็โพสต์ผ่านไลน์ไปถึงญาติสนิทมิตรสหายของผมว่ามีความสุขมาก ขณะไปนอนดูพระจันทร์เต็มดวงที่ “หาดทรายแก้วรีสอร์ท” จนลืมการบ้านการเมืองรวมถึงพรรคไหนจะมาเป็นรัฐบาล?หรือใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่? ไปได้พักหนึ่ง

แม้โดยข้อเท็จจริง ผมจะสามารถลืมได้เกือบทั้งหมดตามที่โพสต์บอกเพื่อนไว้ แต่ก็มีอยู่แวบหนึ่งที่ผมแอบนึกถึงเรื่องอันสำคัญยิ่งของชาติบ้านเมืองครั้งนี้อยู่เหมือนกัน

นั่นก็คือช่วงที่ผมกับลูกๆ หลานๆ ขับรถขึ้นไปสักการะ “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ซึ่งเป็นพระเจดีย์ขนาดใหญ่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงามออกแบบโดยสถาปนิกจากสำนักพระราชวัง เพื่อน้อมเกล้าถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 ในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

ทุกครั้งที่ผมไปค้างบ้านกรูดจะขึ้นไปกราบสักการะองค์พระเจดีย์ พร้อมกับถือโอกาสชมทัศนียภาพอันงดงามของชายหาดบ้านกรูดไปด้วยเสมอๆ

ไปครั้งนี้ผมก็แวะไปสักการะขอพรท่านเช่นเคย แถมด้วยการขอเป็นพิเศษว่าด้วยการเลือกตั้งที่จะมาถึง

ไม่ได้ขอให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี หรือขอให้พรรคการเมืองไหนได้เสียงข้างมากหรอกครับ แต่ได้ขอให้พระบรมธาตุในพระมหาเจดีย์จงช่วยดลบันดาลให้ผู้คนออกมาเลือกตั้งในครั้งนี้ให้มากกว่าทุกครั้ง

ขอให้กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งที่ผ่านมามักจะนอนหลับทับสิทธิ จงออกมาใช้สิทธิใช้เสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

เพราะผมยังเชื่อว่าเสียงของผู้อาวุโสที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายฤดู และมีส่วนสำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศไทยจนก้าวเดินมาได้ จนถึงวันนี้จะเต็มไปด้วยการไตร่ตรองที่รอบคอบแล้ว

สามารถเลือกบุคคลและพรรคการเมืองที่เหมาะสมในการที่จะทำให้ประเทศชาติสุขสงบไม่ขัดแย้ง ไม่รื้อถอน หรือเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามตลอดจนความเชื่อถือศรัทธาที่เป็นจิตวิญญาณของประเทศไทยเราไปเป็นอย่างอื่นในอนาคต

แต่ทั้งหมดนี้ผมก็ใช้เวลาในการวิงวอนอธิษฐานเพียงไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น เพราะฉะนั้นที่โพสต์บอกเพื่อนๆ ว่าลืมเรื่องการเมืองไปพักใหญ่ๆ จึงน่าจะยังถูกต้องอยู่

กลับมาถึง กทม.เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ญาติๆ ข้างภรรยาผมก็มาชวนผมไปร่วมพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลประจำปีให้แก่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยไปทำพิธีที่วัด พระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์

ได้รับความเมตตาจากทางวัดให้คณะของเรา ซึ่งมีประมาณ 20 กว่าคน ไปทำพิธี ณ ศาลาเล็กๆ หลังหนึ่งข้างพระอุโบสถ ดังนั้นเมื่อเสร็จพิธีการต่างๆ แล้วผมจึงถือโอกาสเดินชมบริเวณรอบๆ รวมทั้งเข้าไปในพระอุโบสถด้วย

นับเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสเข้าไปกราบ พระพุทธเทวปฏิมากร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประธานของพระอุโบสถ วัดโพธิ์

สำหรับบุคคลทั่วไปเมื่อกล่าวถึงวัดโพธิ์ก็มักจะนึกถึง พระพุทธไสยาสน์ หรือพระนอนวัดโพธิ์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารด้านเหนือของวัด และจะไปกราบไหว้ท่านเป็นส่วนใหญ่

น้อยคนนักที่จะทราบว่าวัดโพธิ์มีพระอุโบสถประจำวัดที่สร้างมาพร้อมกับวัดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และทรงอัญเชิญ พระพุทธเทวปฏิมากร ซึ่งเป็นพระประธาน ของ วัดศาลาสี่หน้า หรือ วัดคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ ในปัจจุบันมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถวัดโพธิ์ เมื่อ พ.ศ.2344 หรือเมื่อ 222 ปีที่แล้ว

อีกเช่นเคยนอกจากจะขอพรจากองค์พระประธาน เพื่อประโยชน์ส่วนตัวบางประการของผมแล้ว ผมก็ขอพระบารมีจากท่านโปรดดลบันดาลให้การเลือกตั้งครั้งนี้จบลงด้วยความสงบเรียบร้อย และได้บุคคลที่เหมาะสมและพรรคที่เหมาะสมในการที่จะมาพัฒนาประเทศไทยของเราให้มั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนสืบไป

รวมทั้งขอให้ท่านดลใจให้พวกเราเหล่า “เจน B” หรือเบบี้บูมเมอร์ (เกิด พ.ศ.2489-2507) มาจนถึง “เจนT” หรือกลุ่มอนุรักษนิยมสูงสุด (เกิดตั้งแต่ พ.ศ.2469 จนถึง 2488) ที่ได้ชื่อว่าเป็นพลังเงียบของประเทศไทย จงออกมาใช้สิทธิใช้เสียงมากๆด้วยเทอญ

“เล่นของ” เต็มที่เลยครับงวดนี้…ลองดูซีครับว่า 14 พ.ค.นี้ ประชากรชาว “เกษียณ” หรือพวกเราที่อายุมากและเกษียณอายุทั่วหน้าแล้วจะเอาชนะ “กระแส” จากโพลต่างๆ ได้หรือไม่? อย่างไร?

“ซูม”

ปลุก “เกษียณ” สู้ “กระแส” จาก “วัดทางสาย” ถึง “วัดโพธิ์”, เลือกตั้ง, การเมือง, พระพุทธเทวปฏิมากร, พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ, ซูมซอกแซก