ผมเป็น FC หรือ “แฟนคลับ” คนหนึ่งของ “ยูทูบเบอร์” ที่โด่งดังมากจากสาธารณรัฐประชาชนลาวที่ชื่อ น้อง “พุดทะสอน สีดาวัน” สาวลาวใต้ ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 370,000 กว่าคน ในทั้ง 2 ประเทศ
สาวลาวใต้เธอคนนี้เคยมาแสดงภาพยนตร์เรื่อง อ้อมกอดเขมราฐ เป็นนางเอกของ “เต๋า ภูศิลป์” เมื่อหลายปีก่อน และแสดง MV เพลงลูกทุ่งของแกรมมี่ หลายๆ เพลงที่ดังมากก็คือเพลงชุด “รอน้องที่ช่องเม็ก” ของ มนต์แคน แก่นคูน
ช่วงหลังๆ เธอมาเปิดช่อง “พุดทะสอน แชนแนล” ในยูทูบลาว ชวนเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ในประเทศลาวควบคู่ไปกับการข้ามมาเที่ยวฝั่งไทย แถวๆ อุดรธานี หนองคาย นครพนม ฯลฯ
มีอยู่ช่วงหนึ่งเธอมาลุยกรุงเทพมหานคร มาเที่ยวสยามสแควร์, มาขึ้นรถ BTS, มานั่งรถใต้ดิน MRT, มานั่งรถตุ๊กๆไปโน่นมานี่ในหลายๆจุดของกรุงเทพฯที่บางจุดผมยังไม่เคยไปด้วยซ้ำ
ล่าสุด หลังการประชุม เอเปก ไม่กี่วัน เธอมาไทยอีกหนแล้วก็ไปดูพลุไฟที่สะพานพุทธฯ ไปเดินเล่นที่เอเชียทีค, ไป สยามสแควร์ แพลทินัม ไป ประตูน้ำ ฯลฯ
นอกจากน้องพุดทะสอนจะทำให้ผมทราบว่าเศรษฐกิจของประเทศเราฟื้นแล้วจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาอย่างมหาศาล อีกประเด็นที่ทำให้ผมพลอยรู้ไปด้วยและเกิดความกังวลใจจนต้องหยิบมาเขียนคอลัมน์วันนี้ก็ตรงที่ทุกๆ แห่งที่น้องไป…จะมีแต่แฟนคลับของน้องที่เดินทางมาจากลาวเพื่อทำงานในประเทศไทย เข้ามาทักทายเยอะแยะไปหมด
ที่ “เอเชียทีค” กว่าเธอจะแหวกฝูงชนไปได้ต้องพูดคุยหยุดทักทายแฟนคลับจากลาวที่มาทำงานในประเทศไทยหลายสิบคน
ที่แพลทินัมโดยเฉพาะในแผงอาหารยาวเหยียดที่วางขายหน้าไป แพลทินัม ประตูน้ำนั่นเอง ก็เต็มไปด้วยชาวลาว
แม้แต่ใน ตลาดน้อย ชุมชนที่มีการตกแต่งด้วยศิลปะงดงามที่เธอเข้าไปเที่ยว (ผมยังไม่เคยไปเลย) ก็ยังมีชาวลาวมาเปิดร้านอาหารและจำเธอได้
ต่างๆ นานาเหล่านี้ทำให้ผมทราบว่า พี่น้องชาวลาวมาทำงานในบ้านเรามากเหลือเกิน…อาจจะน้อยกว่าพี่น้องชาวเมียนมา หรือชาวกัมพูชา แต่ก็มากอย่างที่ผมคาดไม่ถึง
โดยเฉพาะในธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว…อันได้แก่ แม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ รวมทั้งแม่ค้าส้มตำด้วย…ล้วนมาจากลาวจำนวนมาก
ขอเรียนว่าผมมิได้มีความนึกคิดไปในทางอคติ หรือมองน้องๆ แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ในแง่ลบแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ในทางตรงข้ามกันนึกขอบคุณที่น้องๆ มาทำงานในบ้านเรา เพราะมิฉะนั้นงานต่างๆ เหล่านี้ก็จะไม่มีคนทำ
อันจะเป็นผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวที่ต้องพึ่งพาการบริการหลายๆ อย่าง ไม่สามารถเดินหน้าไปได้อย่างเต็มสูบ
การได้พี่ๆ น้องๆ ชาวลาวหรือเพื่อนบ้านอื่นๆ มาช่วยเสริมหรือเติมเต็มจึงเป็นเรื่องที่ควรแก่การขอบคุณด้วยซ้ำ
แต่ที่ข้องใจก็คือ พี่น้องชาวไทยของผมไปไหนหมดหนอ…ไปทำอะไรกันอยู่ล่ะเนี่ย?
รายงานภาวะสังคมไทยของสภาพัฒน์ฉบับล่าสุดบอกว่าปี 2564 คนไทยตกงานถึง 6 แสน 3 หมื่นคน โดยเฉพาะ บัณฑิต หรือผู้จบมหาวิทยาลัย ตกงานมากถึงปัจจุบันนี้น่าจะอยู่ที่ 120,000 เข้าไปแล้ว
ก็อาจเป็นไปได้ว่า เราพัฒนาการศึกษาไปไกลมากจนคนไทยเราจบการศึกษาในระดับสูงขึ้น จึงมุ่งหวังที่จะใช้ความรู้ที่เรียนมา แต่งานที่จะรองรับกลับไม่มี
เพราะงานที่มีมากๆ อันเกิดจากการลงทุน และจากการขยายตัวของ GDP อะไรต่อมิอะไรที่พูดกันอยู่นี้ไม่ตรงกับที่เด็กไทยเล่าเรียนจบมา
หรือไม่ก็ยังคงเป็นงานที่หนักที่ยากลำบาก จนคนไทยเราไม่สามารถจะทำได้เหมือนก่อนแล้ว จึงต้องไปอาศัยแรงงานจากเพื่อนบ้าน
ก็ได้แต่นึกเสียดาย เพราะถ้าเป็นไปในลักษณะนี้ ทุกครั้งที่เราพูดกันว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้นแล้ว ฟื้นตัวแล้วเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่าคนไทยบางกลุ่มอาจไม่ได้แบ่งด้วย เพราะไม่ได้เข้ามาทำงานเป็นส่วนหนึ่งของ GDP ที่เพิ่มขึ้น หรือฟื้นตัวขึ้นที่ว่านี้
ผมก็ขอฝากบัณฑิตตกงาน 120,000 คนไว้ด้วยนะครับ เศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้นเพราะการท่องเที่ยวดีมาก อย่างที่ผมเห็นในคลิปของ น้องพุดทะสอน สาวลาว และเห็นด้วยตาตนเองในบางจุด
ทำอย่างไรจะให้ “บัณฑิต” ตกงานเหล่านี้มีส่วนได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจรอบนี้บ้าง ฝากให้ พรรคการเมืองทั้งหลายที่เตรียมจัดทัพเลือกตั้งอย่างคึกคักขณะนี้ไปช่วยกันคิดเป็นการบ้านก็แล้วกันครับ.
“ซูม”