ผ่านไปเรียบร้อยโรงเรียนไทยแล้วนะครับ สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม APEC 2022 หรือ APEC ครั้งที่ 29 ของ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 17-18-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งเราเคยมีสำนวนกึ่งสแลงที่ใช้กันอยู่ทั่วไปทั้งในการพูดและการเขียนอย่างไม่เป็นทางการในสังคมไทยเราว่า “เรียบร้อยโรงเรียนจีน” ซึ่งจะมีที่มาที่ไปอย่างไรไม่ทราบได้

แต่เป็นสำนวนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีความหมายในเชิงที่ดีว่า…ความ “เรียบร้อย” ที่ตามมาด้วย “โรงเรียนจีน” นั้นเป็นความเรียบร้อยที่สมบูรณ์แบบและครบถ้วนในทุกๆ ประการ

วันนี้ผมขออนุญาตนำมาใช้ในการสรุปผลงานการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม “เอเปก 2022” ของประเทศไทย โดยขอเปลี่ยนเป็นคำว่า“เรียบร้อยโรงเรียนไทย” เพราะเป็นการจัดที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกันกับสำนวน “เรียบร้อยโรงเรียนจีน” ดังกล่าว

ทั้งในแง่ “สารัตถะ” หรือเนื้อหาสาระที่เรียกกันว่า “เป้าหมายกรุงเทพฯ” โดยที่ประชุมได้ให้คำรับรองต่อแนวคิด เศรษฐกิจชีวภาพเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว ที่เรียกว่า BCG

และการทำงานภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” หรือ “Open.Connect.Balance” ในภาษาอังกฤษ

แม้จะเป็นเป้าหมายกว้างๆ แต่ทิศทางนั้นถูกต้องแล้ว และเป็นแนวโน้มของโลกอยู่แล้ว มิใช่เรื่องใหม่แต่ประการใด

แต่หัวใจสำคัญที่ “เป้าหมายกรุงเทพฯ” มุ่งเน้นก็คือการที่จะต้องยึดแนวนี้ในการดำเนินการต่อไป และจะต้องทำร่วมกัน มิใช่ต่างคนต่างทำ…จึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ได้

ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์ โอชา ก็ได้กล่าวย้ำไว้ด้วยแล้วในตอนที่ท่านส่งมอบ “ชะลอมของขวัญ” APEC 2022 จากประเทศไทยให้แก่ท่านรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส แห่งสหรัฐอเมริกา เจ้าภาพครั้งต่อไป

โดยส่วนตัวผมเองมิได้คาดหวังอะไรมากนัก จากการรวมตัวของ “กลุ่มประเทศ” ต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อย่างหละหลวมและอยู่ห่างไกลคนละทิศละทาง…ที่จะไปดำเนินตามมติที่ว่า

ขณะเดียวกัน ในทางปฏิบัติจริงๆ ทุกชาติทุกประเทศย่อมคำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่อยู่เสมอ จึงย่อมจะมีความขัดแย้งอันเป็นผลที่จะทำให้ความร่วมมือต่างๆ ไม่เป็นไปอย่างจริงๆ จังๆ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

แต่ก็ช่างเถอะ…ยังไงๆ การรวมกลุ่มกันไว้เป็น APEC ถือว่ายังมีเวทีอีกเวทีหนึ่งไว้สำหรับเจอกันพูดคุยกัน ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

สิ่งที่ผมมองเห็นว่าประเทศไทยเราได้ประโยชน์อย่างยิ่งจากการเป็นเจ้าภาพเอเปกครั้งนี้ก็คือ การได้ต้อนรับผู้นำจาก 21 เขตเศรษฐกิจและคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เข้ามาร่วมประชุมตลอดจนสื่อมวลชนต่างประเทศที่มาทำข่าวรวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน

นอกจากจะนำเงินมาใช้จ่ายแล้ว ความทรงจำที่ดีจากการเป็นเจ้าภาพที่ดีและการจัดงานที่ยอดเยี่ยมรวมถึงบรรยากาศอันสวยงามต่างๆ…โดยเฉพาะการเนรมิตความงาม 2 ฝั่งเจ้าพระยาของ ททท. นั้น ผมถือเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่สุดยอดและคุ้มค่า

จะเกิดผลในการโจษขานแบบปากต่อปากถึงความน่าเที่ยวน่าชมน่าเยือนประเทศไทยสักครั้งหนึ่งในชีวิตไปทั่วโลกอย่างแน่นอน

การนำซอฟต์เพาเวอร์ด้านวัฒนธรรมต่างๆ มาโชว์ก็จะช่วยได้มาก… รวมทั้งเรื่อง “อาหาร” การกินที่ดัดแปลงมาจากอาหารไทยหลายๆ อย่างด้วย หากเรามีการสานต่อและผลักดันต่ออย่างไม่หยุดยั้งจะก่อให้เกิดผลดีทางด้านเศรษฐกิจแก่ประเทศไทยอย่างมหาศาลในอนาคต

ผมขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่มีส่วนในการจัดงานครั้งนี้ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ลงมาจนถึงน้องๆ นักร้อง, นักรำ, นักมวย, หมอนวด, ช่างไฟฟ้าของสถานที่จัดแสดง ริมฝั่งเจ้าพระยาทั้ง 6 แห่ง ฯลฯ

พวกคุณคือ “ทีมไทยแลนด์” ที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย…และทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงอย่างสมบูรณ์และ “เรียบร้อยโรงเรียนไทย” ทุกประการ.

“ซูม”