เดอะมอลล์ กรุ๊ป สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่วงการค้าปลีกไทย ด้วยการสร้างปรากฏการณ์ศูนย์การค้าระดับโลกกับโครงการ “THE EM DISTRICT”
อันประกอบด้วย THE EMPORIUM, THE EMQUARTIER และโครงการล่าสุด THE EMSPHERE รังสรรค์ความแปลกใหม่ ทันสมัยให้กับย่านสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพมหานคร (THE EPICENTER OF BANGKOK) มิติใหม่แห่งย่านธุรกิจการค้าในอนาคตที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์แบบ ด้วยงบลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อสร้างปรากฏการณ์ย่านการค้า แหล่งธุรกิจ และศูนย์ความบันเทิงแห่งใหม่ที่แปลกใหม่ ทันสมัย และยิ่งใหญ่ระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญ ยกระดับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเวทีการค้าระดับโลก นำมาซึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจให้กับคนไทย
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท สุขุมวิทซิตี้มอลล์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางด้านธุรกิจการค้า และการท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนและของโลก เพียบพร้อมไปด้วย ย่านการค้า ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวและบันเทิงที่ทันสมัย หลังจากบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการสร้างศูนย์การค้า สยามพารากอนให้เป็น “ปรากฏการณ์ค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกและนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย” (THE WORLD CLASS RETAIL & ENTERTAINMENT PHENOMENON) มาแล้ว ครั้งนี้เดอะมอลล์ กรุ๊ป พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
สำหรับปรากฏการณ์ระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ (THE WORLD-CLASS MEGA MULTI-FACETED DEVELOPMENT) ซึ่งเดอะมอลล์ กรุ๊ป ภาคภูมิใจนำเสนอ คือ ดิ เอ็มดิสทริค (THE EM DISTRICT) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลกกับการผนึกกำลังของ 3 โครงการศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส ประกอบด้วย ดิ เอ็มโพเรี่ยม (THE EMPORIUM) ดิ เอ็มควอเทียร์ (THE EMQUARTIER) และล่าสุดกับโครงการดิ เอ็มสเฟียร์ (THE EMSPHERE) บนเนื้อที่รวม 50 ไร่ โอบล้อมสวนเบญจสิริ พื้นที่รวมทั้ง 3 โครงการกว่า 650,000 ตารางเมตร ณ ทำเลที่ดีที่สุดใจกลางย่านสุขุมวิทใจกลางกรงุเทพ (THE EPICENTER OF BANGKOK) ที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ล้ำสมัย ตามแนวคิดของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CREATIVE ECONOMY) เพียบพร้อมไปด้วยย่านธุรกิจ การค้า ศูนย์รวมแฟชั่นลักซ์ชัวรี่ ศิลปะ เทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ ลิฟวิ่ง และไดนิ่ง จากแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกและชั้นนำของไทยกว่า 1,000 แบรนด์
นอกจากเป็นย่านการค้าที่สำคัญแล้ว ยังเป็นการสร้างย่านที่พักอาศัย โรงแรม ออฟฟิศระดับหรู และที่สำคัญศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ทันสมัยแปลกใหม่ (ICONIC DISTRICT OF RETAIL, BUSINESS, OFFICE, RESIDENTIAL AND ENTERTAINMENT) อันเป็นหัวใจของความสำเร็จ โดย ดิ เอ็มดิสทริคจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญ อันจะมีส่วนร่วมในการยกระดับให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครต้นแบบ (ROLE MODLE METROPOLIS) ในการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวหน้าและทันสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างยั่งยืน
นายเกรียงศักดิ์ ตันติพิภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดิ เอ็มดิสทริค กล่าวว่า ดิ เอ็มสเฟียร์ คือ โครงการล่าสุด คือหัวใจของ ดิ เอ็มดิสทริค ที่จะเป็นชีพจร เป็นความเร้าใจใหม่ของกรุงเทพฯ (THE VIBE OF BANGKOK HAS NEVER EXPERIENCED BEFORE) เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เหนือความคาดหมาย ในรูปแบบของศูนย์การค้าที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ที่จะมาเติมเต็มโครงการ ดิ เอ็มดิสทริค และสร้างความแข็งแกร่งให้กับย่านสุขุมวิท คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ในเดือนธันวาคม 2566
ทั้งนี้ ดิ เอ็มสเฟียร์ คือ จิ๊กซอว์ตัวล่าสุด ที่จะมาเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับ ดิ เอ็มดิสทริค ภายใต้แนวคิด ฟิวเจอร์ รีเทล (FUTURE RETAIL) ที่รวบรวมเทรนด์ และไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตบนพื้นที่ กว่า 200,000 ตารางเมตร ด้วยงบระมาณลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ที่ประกอบด้วยโซนต่างๆ ดังนี้
EM GALLERIA โซนสำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้า ที่ประกอบไปด้วยแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ไทยดีไซน์เนอร์ และแบรนด์เนมชั้นนำของไทย
EM LIFESTYLE โซนที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่
EM MERCADO สวรรค์สำหรับนักชิม ศูนย์รวม International food market ที่หลากหลายจากทั่วโลก ร่วมด้วยร้านอาหารชั้นนำมากมาย
EM WONDER แหล่งแฮงค์เอาท์แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร สีสันของความบันเทิงที่เป็นที่สุดสำหรับ ชาวไทย และนักท่องเที่ยว
EM INNOVATION แหล่งรวมนวัตกรรมล้ำสมัย จากทั่วโลก ให้สัมผัสครั้งแรกในเมืองไทย
IKEA CITY STORE อิเกีย ซิตี้ สโตร์ แห่งแรกของเมืองไทย และของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
EMLIVE ที่สุดแห่งความบันเทิงระดับโลกกับ World Class Arena ความจุ 6,000 ที่นั่ง โดยการบริหารงานของ AEG ผู้ประกอบธุรกิจบันเทิง และกีฬาระดับโลก
สำหรับ ดิ เอ็มสเฟียร์ถือเป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์ของ ดิ เอ็มดิสทริค ที่จะมาช่วยเพิ่มความพิเศษในย่านสุขุมวิท โดยทั้ง 3 ศูนย์การค้าจะมีการวางโพสิชั่นนิ่งที่แตกต่างกัน โดย ดิ เอ็มโพเรี่ยม คือ ที่สุดแห่งความ มีระดับ (THE ULTIMATE LUXURY SHOPPING COMPLEX) ได้รับปรับโฉมใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอกให้หรูหราสวยงาม ทันสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวก และบรรยากาศอบอุ่นน่าช้อป ขณะที่ ดิ เอ็มควอเทียร์ เป็น มิติใหม่ของรูปแบบชีวิตที่ไม่ธรรมดา (THE EXTRAORDINARY LIFE) เป็นดิสทิเนชั่นแห่งไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ประกอบไปด้วยอาคารศูนย์การค้า สำนักงาน สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมและสันทนาการต่างๆ พร้อมสวนสวรรค์อันรื่นรมย์ และดิ เอ็มสเฟียร์ คือ FUTURE RETAIL ศูนย์การค้าแห่งอนาคตที่ไม่เคยหลับไหล (SLEEPLESS METROPOLIS) ซึ่งได้คัดสรรและรวบรวมความบันเทิง นวัตกรรม และความเป็นลิมิเต็ดต่างๆ ที่ทุกๆคนพลาดไม่ได้ ซึ่งเมื่อผสานจุดเด่นของทั้ง 3 ศูนย์แล้ว ดิ เอ็มดิสทริค จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สามารถตอบรับความต้องการของทุกๆ คนได้อย่างครบถ้วน
“เราเชื่อมั่นว่า ดิ เอ็มดิสทริค จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการค้าปลีก รวมไปถึงการท่องเที่ยวและธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย มีส่วนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับเจ้าของแบรนด์ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงสร้างธุรกิจใหม่ๆ อันจะเป็นการสร้างเสริมเศรษฐกิจ งานและอาชีพให้กับคนไทยอีกนับหมื่นอัตรา ทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมลงทุนในประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ทั้งยังมีความมุ่งมั่นในการสร้างศูนย์การค้าที่มีระดับ ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ในมิติใหม่ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และร่วมสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทยในเวทีการค้าระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” นายเกรียงศักดิ์ กล่าวสรุป