ผมเรียนท่านผู้อ่านแล้วว่าวันประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของ “บิ๊กป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีบิ๊กตู่ ที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น จะเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนอย่างมาก
อาจจะมีรายงานข่าวตั้งแต่อากัปกิริยา สีหน้าสีตา การเดินเหินเข้าที่ประชุม จนถึงเวลาเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลของบิ๊กป้อมอย่างละเอียด
ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นไปตามที่คาดหมายไว้ เมื่อสำนักข่าวออนไลน์เกือบทุกสำนักรายงานตรงกันว่าท่านเดินทางไปยังตึกสันติไมตรีตั้งแต่เวลา 08.44 น. และก้าวลงจากรถด้วยท่าทีกระฉับกระเฉงด้วยตนเอง ไม่มีทีมรักษาความปลอดภัยเข้ามาประคองแต่อย่างใดทั้งสิ้น
จากนั้นท่านก็ไปปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีบิ๊กตู่เคยปฏิบัติก่อนประชุม ครม. คือการเดินดูนิทรรศการ หรือโครงการที่กระทรวงต่างๆ นำมาจัดแสดง ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการนั้นๆ ซึ่งเช้าวันอังคารที่ผ่านมาเป็นของกระทรวงแรงงาน โดยรัฐมนตรีว่าการฯ เป็นมัคคุเทศก์นำบิ๊กป้อมเดินชมตั้งแต่ต้นจนจบ
พอถึงเวลาประชุมก็ปรากฏว่าบิ๊กป้อมท่านเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมของท่าน ซึ่งเป็นเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 ซึ่งอยู่ด้านขวามือถัดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี…โดยมิได้นั่งที่เก้าอี้ประธานหรือเก้าอี้นายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
อีกแป๊บเดียวต่อมา ก็มีการเผยแพร่ภาพให้เห็นว่าเก้าอี้นายกฯ นั้นว่างเปล่าจริง และบิ๊กป้อมก็นั่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ณ ที่นั่งประจำของท่านไปจนจบ
เห็นภาพแล้วก็ต้องบอกว่า “บิ๊กป้อม” นั้นเล่นเป็น…รู้ว่าบทบาทของท่านมีแค่ไหน? และควรจะเล่นอย่างไร?
ในเมื่อคำสั่งศาลเป็นคำสั่งชั่วคราว และนายกรัฐมนตรีปัจจุบันก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เพียงแต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเท่านั้น
เมื่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้ข้อสรุปแล้วก็อาจเป็นได้ทั้ง 2 ทางคือ บิ๊กตู่กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อไปตามเดิม หรือไม่ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง
ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดบิ๊กป้อมก็ขึ้นเป็นนายกฯ ตัวจริงไม่ได้ตามกฎ กติกาของรัฐธรรมนูญดังที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
ดังนั้น การวางตัวว่าท่านมารักษาการชั่วคราว ท่านก็ทำหน้าที่อย่างชั่วคราว และอย่างให้เกียรติคนที่ต้องหยุดพักการทำหน้าที่ชั่วคราว…จึงเป็นเรื่องที่ผมว่าท่านวางตัวถูกต้องแล้ว
ล่าสุดข่าวจากการประชุมแจ้งว่า ที่ประชุม ครม.ได้มีมติแก้คำสั่งนายกฯ เดิมที่บอกว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีทำได้ทุกเรื่องยกเว้นการแต่งตั้งข้าราชการ และเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องปรึกษานายกรัฐมนตรีเสียก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แปลว่า ณ บัดนาว รักษาการนายกรัฐมนตรีสามารถทำหน้าที่ได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องปรึกษานายกฯ ตัวจริงว่างั้นเถอะ
อันจะทำให้ไม่มีสุญญากาศในการบริหารราชการแผ่นดินตามคำชี้แจงของรองนายกฯ วิษณุ เครืองาม
อย่าลืมว่ายังมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะทางฝ่ายทหารที่ยังไม่ได้แต่งตั้งอีกหลายตำแหน่ง หากไม่แก้คำสั่งนี้เดี๋ยวก็จะเป็นปัญหาทางกฎหมายขึ้นมาอีก
เพราะจะไม่สามารถแต่งตั้งได้เลย เนื่องจากนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จะไปปรึกษาใคร หากเสนอแต่งตั้งโดยไม่ปรึกษาก็จะขัดต่อคำสั่งที่ว่าต้องปรึกษา จะเป็นปัญหาได้ภายหลัง
ก็มีคำถามว่า การยกเลิกคำสั่งข้อหลังอันเป็นเหตุให้บิ๊กป้อมมีอำนาจเต็มในการแต่งตั้งด้วยเช่นนี้ จะทำให้ท่านใช้อำนาจหน้าที่ตั้งคนไม่ตรงกับที่บิ๊กตู่อยากตั้งหรือไม่?
ผมคิดว่าไม่ เพราะท่านคงปรึกษากันอย่างไม่เป็นทางการเรียบร้อยแล้ว (ซึ่งทำได้) เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐมนตรีกลาโหมบิ๊กตู่เสนอใครมา บิ๊กป้อมก็น่าจะเห็นด้วยตามนั้น
ผมไม่อ่านอะไรลึกซึ้งหรอกครับ อ่านอย่างตื้นๆ ว่า วันแรกในการประชุม ครม. บิ๊กป้อมไม่ยอมนั่งเก้าอี้นายกฯ ของบิ๊กตู่ แสดงว่าพี่น้อง 3 ป.เขายังรักใคร่กลมเกลียวและให้เกียรติกันอย่างดียิ่ง
ขบวนการบ่างช่างยุทั้งหลาย อย่าไปยุอย่าไปแซะเลยครับ เหนื่อย เปล่าๆ เชื่อเหอะ.
“ซูม”