THAI TASTE HUB คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ศูนย์รวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดระดับตำนาน พบกับขนม-ของว่าง จากร้านดังในตำนานด้วยเมนูหลากหลายที่ยกขบวนความอร่อยมารวมไว้ในที่เดียว
ให้ได้ตระเวนชิมอิ่มอร่อยแบบครบจบที่ THAI TASTE HUB คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
ประเดิมด้วยของว่างระดับตำนานจากสิงคโปร์กับ “ร้าน Ya Kun Kaya Toast” ร้านกาแฟและขนมปังสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งปี 2487 มีสาขากว่า 50 สาขาทั่วสิงคโปร์ และอีกหลายประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน ดูไบ มัลดีฟล์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินเดีย พม่า กัมพูชา ฯลฯ รวมถึงประเทศไทย ขนมปังของ Ya Kun Kaya Toast พิถีพิถันในการผลิตและคิดค้นสูตรจนได้ขนมปังที่ดีที่สุดอุดมไปด้วยไฟเบอร์ โปรตีน และวิตามินบีต่างๆ รวมทั้งสูตรพิเศษที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น
วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงการันตีว่าปราศจากวัตถุปรุงแต่งสังเคราะห์ และสารกันเสีย ควบคุมการอบที่อุณหภูมิ 191 – 232 องศาเซลเซียส เพื่อกระตุ้นการทำงานของยีสต์และเอนไซม์ที่สมบูรณ์ จนได้ขนมปังที่กรอบนอก ภายในทาด้วยคายาที่หวานหอมกะทิคลุกเคล้าใบเตย ตัดกับรสเค็มของเนยสดที่เนียนนุ่ม นอกจากนี้ Ya Kun Kaya Toast ยังมีเมนูอาหารเช้า และเมนูปรุงสดใหม่ต่างๆ ที่พร้อมเสิร์ฟได้ตลอดทั้งวัน
อีกหนึ่งความอร่อยตำนานขนมปังเจ้าอร่อยที่ห้ามพลาดจากใจกลางไชน่าทาวน์ เมืองไทย “ร้านขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช” หรือที่รู้จักกันในชื่อ ร้านขนมปังไส้ทะลัก ที่ไม่ต้องไปยืนต่อแถวยาวเหยียดก็สามารถลิ้มรสความอร่อยได้แบบสบายๆ กับขนมปังปิ้งร้อนๆ ไส้ล้นทะลัก ไม่ว่าจะกัดไปคำไหนก็ต้องเจอกับไส้ที่ล้นทะลักออกมาทุกครั้งแถมยังอิ่มอร่อยได้ในราคาที่ไม่แพง โดยเมนูซิกเนเจอร์ของร้านนี้ต้องเป็น “ไส้ช็อกโกแลต” ซึ่งคอช็อกโกแลตจะต้องชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะรสชาติของไส้ที่หอมหวานกลมกล่อมไม่หวานแสบคอ ใช้ช็อกโกแลตแท้ๆ สูตรพิเศษของทางร้าน
อีกหนึ่งไส้ที่ไม่ควรพลาดคือ “ไส้นม” ถึงแม้จะดูว่าธรรมดาแต่ต้องขอให้ลอง เพราะนมที่มีความหอมหวานมันกำลังดีไม่เลี่ยนทำให้ทานได้เรื่อยๆ “ไส้สังขยา” ก็เป็นอีกหนึ่งสูตรเด็ดที่ใครไม่ลองถือว่าพลาดอีกเช่นกัน เพราะไส้ที่หอมหวานกำลังดีให้มาแบบทะลักๆ แต่ถ้าใครอยากได้รสชาติแบบเผ็ดนิดๆ มาตัดหวาน แนะนำ “ไส้พริกเผา” ที่มีทั้งความเผ็ดร้อนผสานความหวานเล็กๆ กำลังดี เมื่อทานคู่กับขนมปังแบบกรอบนอกนุ่มในแล้วบอกได้เลยว่าฟิน
ต่อด้วยของว่างที่รู้จักกันมานานอย่าง “ขนมครก” โดย “ร้านขนมครกประมวล มีศิลป์” เจ้าของตำนาน “ขนมครกร่อน” สร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์มายาวนานด้วยแป้งสูตรลับแบบโบราณ ผสมกับข้าวดิบ ข้าวสุก ปรุงรสด้วยเกลือและมะพร้าวขูดมือ โม่ด้วยโม่หิน โดยเลือกใช้มะพร้าวจาก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปอกเปลือกเองทุกลูกเพื่อให้มั่นใจว่าได้มะพร้าวสดใหม่ทุกลูก นำมาคั้นแยกเฉพาะส่วนของหัวกะทิ เพื่อไว้หยอดหน้าขนมครก ส่วนหางกะทินำไปผสมกับแป้ง
นอกจากเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่พิถีพิถันเป็นพิเศษแล้ว เทคนิคสำคัญอีกอย่างที่สำคัญคือการร่อนแป้งออกจากเบ้าขนมครกที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นของร้านซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ เมื่อผสานกับวัตถุดิบชั้นยอดแล้ว ทำให้ “ขนมครกประมวล มีศิลป์” กลายเป็นขนมครกที่มีทั้งเอกลักษณ์ และรสชาติที่เข้มข้นหวานมัน กรอบนอกนุ่มในตามต้นตำรับของขนมครกแท้ๆ
เรื่องเมนูของทอดต้องยกให้ “ร้าน HOT FRIED BY THE EMERALD 1992” จากประสบการณ์กว่า 25 ปี ของโรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ทั้งเมนูกล้วยทอด มันทอด เผือกทอด และกะลอจี๊ ซึ่งเป็นขนมโบราณหาทานยาก ด้วยความอร่อยระดับตำนาน เคล็ดลับความอร่อยของกะลอจี๊อยู่ที่แป้งซึ่งผสมจากแป้งหลายชนิดเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล งาขาว นวดจนได้ที่นำไปปั้นเป็นก้อนกลม ต้มให้สุก จากนั้นนำไปทอดพักไว้สักครู่ก่อนนำไปคลุกกับถั่ว งาขาว งาดำ น้ำ และเกลือที่ผสมไว้แล้ว
เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนได้ลิ้มรสกับกะลอจี๊สูตรต้นตำรับที่มีเท็กซ์เจอร์กรอบนอกนุ่มใน ถึงจะวางทิ้งไว้จนหายร้อนแล้วก็ยังคงความอร่อยไว้เหมือนเดิม สำหรับเมนูกล้วย เผือก มัน ทอดนั้น ถึงจะดูว่าเป็นเมนูธรรมดา แต่รับรองว่ารสชาติไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีในการปรุง โดยเลือกใช้กล้วยน้ำว้าที่ไม่สุกจนเกินไป มันเทศและเผือกเนื้อขุย เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่ดีที่สุด
ต่อกันด้วย “ร้านขนมเบื้องแม่ประภา” ที่ขายมานานกว่า 60 ปี โดยคุณแม่ประภา ธันวารชน ได้สูตรมาจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แล้วนำมาปรับปรุงสูตรเพิ่มเติมมาเป็นสูตรอร่อยของตัวเอง ปัจจุบันลูกชายคือคุณไพบูลย์ เป็นคนรับช่วงต่อหลังคุณแม่เสียชีวิตโดยยังคงสูตรดั้งเดิมไว้ ขนมเบื้องแม่ประภา เป็นขนมเบื้องแบบโบราณทำให้ชิ้นจะใหญ่กว่าขนมเบื้องทั่วๆ ไป แป้งกรอบกรุบมาพร้อมไส้แน่นๆ หวานมันเค็ม โดยส่วนผสมของตัวแป้งขนมเบื้องทำจากถั่วทองและข้าวสารที่แช่น้ำจนอ่อนตัวนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน เติมปูนแดงเพื่อให้แป้งมีความกรอบจากนั้นนำไปโม่
ในส่วนของไส้นั้น มี 2 แบบคือเค็มและหวาน ไส้หวานเริ่มต้นจากการทำเคลือบหวานก่อน ส่วนผสมมีมะพร้าว ไข่ไก่ น้ำตาล มะพร้าวขูด เมื่อละเลงแป้งขนมเบื้องแล้ว จึงละเลงเคลือบหวานลงไป ต่อด้วยฝอยทองและลูกพลับแห้ง หวานกรอบอร่อยเข้ากันอย่างลงตัว สำหรับไส้เค็มจะมีส่วนผสมของมะพร้าว กุ้งสด รากผักชี ใบมะกรูด หอมแดง พริกไทยป่น สีแสดสำหรับผสมอาหาร นำมาหั่นฝอยทุกอย่างคลุกจนเข้ากันนำไปผัดจนสุก โรยไส้ลงบนแป้งขนมเบื้องที่ทาเคลือบหวานเรียบร้อยแล้ว แต่งหน้าด้วยมะพร้าวขูด ผักชี ต้นหอมซอย รอจนเคลือบหวานด้านในสุก ขอบขนมเป็นสีน้ำตาลเข้มแล้วจึงแซะพับครึ่ง พร้อมเสิร์ฟได้เลย
ปิดท้ายด้วยการเติมความสดชื่นกับ “ร้านเอี๊ยงออเฮ่าชือ” ร้านของหวานเจ้าดังจากเยาวราชที่ครองตำนานความอร่อยมาตั้งแต่ปี 2525 จุดเริ่มต้นมาจากเมนูรังนกแปะก๊วย สูตรฮ่องกงที่ปรับรสชาติเป็นสูตรเฉพาะจากทางร้านจนถูกปากคนไทย เด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดี โดยเฉพาะน้ำเชื่อมที่ใช้น้ำผลไม้ตุ๋นกับเครื่องยาจีนจนได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งรังนกซูเปอร์พรีเมียม รังนกพรีเมียม รังนก และรังนกไข่ ก่อนเพิ่มเมนูบัวลอยน้ำขิง ที่รับประกันรสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้น รวมถึงบัวลอยแปะก๊วยน้ำขิง และบัวลอยนมสด
แต่ถ้าอยากลองเมนูแปลกใหม่ แนะนำลูกลานนมสด อีกหนึ่งวัตถุดิบหายากแต่คุณประโยชน์มากล้น โดยธรรมชาติของลูกลานจะออกลูกเมื่อต้นมีอายุ 50 ปี แถมออกลูกแล้วจะยืนต้นตายจึงหาทานยาก หน้าตาของลูกลานคล้ายกับลูกชิด แต่มีขนาดเล็กกว่า รสชาติไม่แตกต่าง สามารถนำมาทำเป็นขนมได้ทั้งแบบลอยแก้ว และนมสด นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ อีก อาทิ เฉาก๊วยนมสด ทับทิมกรอบ เม็ดบัวถั่วแดง สาคูแคนตาลูป มันต้มขิง และเต้าฮวยผลไม้จีน
มาร่วมเติมความอร่อยให้ร่างกายกับ ขนม – ของว่าง ระดับตำนาน ที่ไม่ควรพลาดทั้ง Ya Kun Kaya Toast , ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช, ขนมครกประมวล มีศิลป์, ขนมเบื้องแม่ประภา, เอี๊ยงออเฮ่าชือ และ HOT FRIED BY THE EMERALD 1992 ซึ่งรวมความอร่อยมาไว้ให้แล้วในที่เดียว ที่ THAI TASTE HUB คิง เพาเวอร์ รางน้ำ หรือเลือกอร่อยผ่านช่องทางฟู้ดเดลิเวอรี่อย่าง โรบินฮู้ด (Robinhood) ไลน์แมน (Lineman) และ แกร็บฟู้ด (Grab Food) ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.