บันทึกนาที “ปลดล็อก” + 24 มิ.ย. 2565 / เวลา 22.16 น.

ต้องยกนิ้วให้แก่ข้าราชการยุคใหม่ที่ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง มิใช่ทำแบบเช้าชามเย็นชามอย่างสมัยก่อน และก็ทำแค่ 8 โมงครึ่งเช้าถึง 4 โมงเย็นเท่านั้น

แต่ในช่วงหลังๆ นี้ ข้าราชการไทยมีการพัฒนาอย่างใหญ่หลวง ทำงานล่วงเวลากันดึกๆ ดื่นๆ และบางครั้งทำตอนเที่ยงคืน จนโดนประชาชนด่าว่า “ลักหลับ” ก็เคยมีมาแล้ว เพราะไปออกประกาศอะไร บางอย่างที่ประชาชนไม่ชอบใจตอนดึกๆ ดื่นๆ เข้า

ประชาชนตื่นขึ้นมาตอนเช้าร้องลั่น…“ลักหลับ” เรานี่นา

แต่สำหรับประกาศ “ปลดล็อก” กรณีโควิด-19 ทั้งในระดับรัฐบาล และในระดับจังหวัด (เฉพาะจังหวัดหรือมหานครที่ผมอยู่อาศัย) ที่ออกมา เมื่อ 2 วันที่แล้ว มาในเวลาพอดีพอเหมาะพอควรครับ

เริ่มจากราชกิจจานุเบกษาก่อนลงประกาศ เรื่องปลดล็อกต่างๆ ตามมติ ศบค. ประมาณสัก 4 ทุ่ม วันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย. เพราะผมเห็นข่าวครั้งแรกจากเว็บไซต์ข่าวแห่งหนึ่ง เวลา 22.06 น. พาดหัวไว้ว่า “มีผลแล้วราชกิจจาฯ ประกาศสวมแมสก์โดยสมัครใจ”

เมื่อเข้าไปอ่านเนื้อข่าวซึ่งเขานำสำเนาข้อความในราชกิจจาฯ มาให้อ่านทั้งฉบับ จึงได้ทราบว่าเป็นการ ปลดล็อก ทั้งหมด ไม่ใช่แค่เรื่องสวมแมสก์เท่านั้น

เวลาที่ประกาศก็เป็นเวลาที่ดีมาก เพราะแค่ 4 ทุ่มกว่านิดๆ ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่หลับไม่นอน…จึงไม่ถือว่าเป็นการ “ลักหลับ”

รุ่งเช้าวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 ผมเดินไปที่สวนสาธารณะ “นวมินทราภิรมย์” ใกล้บ้าน…นึกว่าเขาคงจะเปิดประตูให้คนเข้าทุกประตูตามประกาศนี้แล้ว… ปรากฏว่ายังไม่เปิดครับ ยังคงเปิดแต่ประตูใหญ่ ประตูเดียว เพื่อสะดวกต่อการควบคุมเหมือนเดิม

ผมก็เดาว่า เจ้าหน้าที่สวนคงยังไม่ได้อ่านราชกิจจานุเบกษา

ต่อมาในคืนวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายนนั้นเอง เวลา 4 ทุ่มกับ 16 นาที ช้ากว่าเมื่อวาน 14 นาที เว็บไซต์ข่าวเว็บเดียวกัน ก็พาดหัวอีกว่า “ด่วน! ชัชชาติออกประกาศ กทม.ปลดล็อกมาตรการควบคุมโควิด”

รายละเอียดทั้งขึ้นต้นและลงท้าย หรือแม้แต่การอธิบายเรื่องแมสก์ หรือเรื่องสำคัญอื่นๆ แทบจะลอกกันมาเลย เพียงแต่เป็นประกาศของ กทม. เท่านั้น คือเอาราชกิจจานุเบกษามาย้ำอีกครั้งหนึ่งว่างั้นเถอะ

นี่ก็แสดงถึงความขยันขันแข็งของข้าราชการยุคใหม่ คือลงนามโดยท่านผู้ว่าฯ เมื่อเวลา 22.16 น. หรือ 4 ทุ่ม 16 นาที นอกเวลาราชการไปหลายชั่วโมงเช่นกัน

ปรากฏว่าประกาศของท่านผู้ว่าฯ ได้ผลชะงัดครับ เช้าวันเสาร์รุ่งขึ้น…ผมเดินไปที่สวนสาธารณะแห่งเดิมพบว่า คราวนี้เปิดอ้าซ่า

ครบทุกประตู แม้แต่ประตูไกลสุดหน้าบ้านพักคนงาน ซึ่งใส่กุญแจมาตลอด 2 ปีที่แล้ว

แสดงว่าข้าราชการเขตและข้าราชการประจำสวนก็ทำงานดึกเช่นกัน อ่านคำสั่งผู้ว่าฯ 4 ทุ่ม 16 นาทีปุ๊บ รุ่งเช้าปฏิบัติตามทันควัน

ส่วนประชาชนทั่วไปรู้สึกจะมีคนไม่สวมหน้ากากอนามัยมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ยังสวมครับ ผมว่าน่าจะยังเกิน 80 เปอร์เซ็นต์

อาจเป็นเพราะประชาชนที่มาวิ่งได้อ่านคำอธิบายเรื่องสวมแมสก์อย่างสมัครใจกันแล้ว…ทั้งในราชกิจจานุเบกษาและประกาศ กทม. ซึ่งใช้สำนวนเดียวกันอธิบายได้ดีมาก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังสมัครใจที่จะสวมแมสก์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ครับ! เรามาถึงจุดที่จะต้องเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศกันแล้ว แม้วันนี้ (เสาร์ที่ 25 มิ.ย.) ยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกยังเกิน 700,000 ราย และจู่ๆ สหรัฐฯ ก็กลับมาเกิน 100,000 ราย รวมทั้งเยอรมนีด้วยติดไป 100,000 กว่ารายเช่นกันก็ตาม

ของบ้านเราก็ยังติดใหม่ที่ 2,313 ราย และเสียชีวิต 16 ถามว่าเยอะไหม? ก็เยอะนะ 2 พันกว่าเนี่ย แต่ก็เอาเถอะประเทศที่เขาติดเป็นแสนต่อวันเขายังไม่หวั่น…เราแค่หลักพันก็ต้องไม่หวั่นด้วย

ถึงยังไงก็ต้องเดินหน้าละครับ ขอไว้อย่างเดียวว่าต้องเดินอย่างมีสติอย่างระมัดระวังและไม่ประมาทเท่านั้น…วัคซีนยังเหลืออีกเยอะครับ อย่าลืมไปฉีดกันเสียด้วยล่ะ เพื่อความปลอดภัยในการเดินหน้าของประเทศไทย.

“ซูม”

ข่าว, ปลดล็อก, โควิด 19, สวมแมสก์, ประเทศไทย, ซูมซอกแซก