ต้อนรับการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ด้วยเทศกาลทุเรียน “ราชาแห่งผลไม้” ที่นำมารังสรรค์ขึ้นเป็นของหวานสุดพิเศษถึง 12 เมนู โดยฝีมือของเชฟธวัช ประทุมทอง หัวหน้าเชฟเบเกอรี่ประจำโรงแรม และทีมงาน ณ ห้องอาหารเวนติซี ขั้น 24 และซิงก์เบเกอรี่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซนทรัลเวิลด์
โดยเชฟได้เลือกทุเรียนที่สุกกำลังดีทั้งสายพันธุ์ชะนี และหมอนทอง มาเป็นส่วนผสมหลักในการออกแบบเมนูของหวาน ที่ยังคงเอกลักษณ์ทั้ง “กลิ่นหอม” และ “รสชาติ” ของทุเรียนไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการผสมผสานของความเป็น “ตะวันตก” และ “ตะวันออก” ได้อย่างกลมกลืน
ทีมงานซอกแซกได้มีโอกาสไปรีวิว ขอบอกว่าใครที่เป็นทุเรียนเลิฟเวอร์ต้องฟินกับความอร่อยของทั้ง 12 เมนูนี้อย่างแน่นอน เพราะในแต่ละเมนูนั้นได้ผ่านกระบวนการทางความคิด ความสร้างสรรค์ และได้ปรับปรุงสูตรหลายต่อหลายรอบ จนทำให้แต่ละเมนูมีรสชาติและผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีความเข้มข้นของทุเรียนในระดับที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน
ส่วนคนที่ไม่ชอบทาน หรือไม่เคยทานทุเรียน แต่ถ้าได้ทานของหวานทั้งหมดนี้ ทางทีมงานซอกแซกบอกได้เลยว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นให้หันมาทานทุเรียนก็ได้ และก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้ลองชิมก็จะต้องหลงรักทุเรียนอย่างแน่นอน
สำหรับเมนูทั้ง 12 เมนู
เริ่มด้วยเมนูที่คิดขึ้นใหม่ในปีนี้ก่อน
เค้กชิฟฟ่อนมะพร้าวไส้ทุเรียน
เนื้อเค้กชิฟฟ่อนทุเรียน เคลือบด้วยครีมมะพร้าว หน้านิ่ม ผสมเนื้อมะพร้าวเล็กน้อย เพื่อให้มีเนื้อสัมผัสกรุบๆ เล็กน้อยตอนเคี้ยว
มาการองข้าวเหนียวทุเรียน
เป็นรวมตัวกันระหว่างขนมไทยกับขนมเทศ กลายเป็นมาการองรสชาติใหม่ ที่หาทานที่อื่นไม่ได้ ตรงเนื้อมาการองนั้นมีส่วนผสมของทุเรียน ส่วนครีมตรงกลางเป็นมูสข้าวเหนียว ทำให้รู้สึกเหมือนกินข้าวเหนียวทุเรียนในรูปร่างของมาการอง
ชอร์ตเค้กทุเรียนใบเตย
เป็นเค้กใบเตยเนื้อแน่นที่มีชั้นของครีมมะพร้าว และครีมทุเรียนสอดแทรกอยู่ เคลือบด้วยช็อกโกแลตผสมอัลมอนด์
ทุเรียนป๊อบ
เป็นชีสมูสสอดใส้ครีมทุเรียนด้านล่างเป็นเนื้อเค้ก ทำออกมาในรูปร่างของไอศกรีม ทีแรกนึกว่าเป็นไอศกรีมแท่ง แต่พอเอาช้อนตักลงไปกับนุ่มกินแล้วละมุนลิ้นหอมกลิ่นทุเรียน
โรลมันม่วงทุเรียน
ทั้งโต๊ะมีแต่สีเหลืองเพื่อให้เกิดความแตกต่างบ้างเลยขอมีสักชิ้นที่มีสีคู่ตรงข้ามเพื่อมาตัดเสียหน่อย เลยใช้วัตถุดิบคือ “มันม่วง” ทำเป็นโรลเค้ก เมนูนี้ความทุเรียนจะอ่อนเป็นพิเศษ แต่จะได้ความรู้สึกของมันม่วงมาแทน ครีมสีขาวตรงกลางจะเป็นครีมมะพร้าว โดยที่ชั้นในสุดจะเป็นมันม่วงชิ้นใหญ่ 1 ชิ้น
ทุเรียนเคลือบช็อกโกแลตสตรอว์เบอร์รี่
เป็นเมนูที่แปลกมากและเป็นส่วนผสมที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่ทำออกมาได้เข้ากันอย่างลงตัว ระหว่างข็อกโกแลตที่มีรสชาติสตรอว์เบอร์รี่ เคลือบไส้ที่ทำมาจากทุเรียน รสชาติจะเป็นหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นทุเรียน เคี้ยวกรุบๆ จากอัลมอนด์ที่โรยอยู่รอบๆ
ต่อมาจะเป็นเมนูยอดฮิตที่ได้ออกแบบมาตั้งแต่ปีก่อนหน้านี้
ทุเรียนช็อกโกแลตโอเปร่า
เป็นเมนูขายดีเมื่อปีที่แล้ว เค้กชั้นๆ ที่แต่ละชั้นจะมีความแตกต่างกันในด้านผิวสัมผัสและรสชาติ มีทั้งเนื้อเค้ก มีเนื้อช็อกโกแลต มีความฉ่ำ มีความกรุบๆ แต่พอตักเข้าปากพร้อมกันแล้วอร่อยอย่างลงตัว
ทุเรียนดับเบิ้ลชีสเค้ก
อีกหนึ่งเมนูขายดีจนแฟนๆ เรียกร้องต้องทำออกมาอีกครั้งในปีนี้ เป็นชีสเค้กผสมทุเรียนที่หนักทั้งชีสหนักทั้งทุเรียน บอกได้เลยว่าใครที่ชอบทานชีสเค้กต้องไม่พลาดเมนูนี้ ชีสเค้กมูสทุเรียนนุ่มๆ หอมทั้งชีสหอมทั้งทุเรียนเลยค่ะ
ทุเรียนทีรามิสุ
เมนูนี้ขอไม่บรรยายมากแต่อยากให้ไปลองความนุ่ม ความละเอียดของเนื้อทีรามิสุ ผสมมูสทุเรียน ที่หอมหวานละลายในปาก ทานพร้อมกับเนื้อทุเรียนชิ้นโต 1 ชิ้น
มูสทุเรียนมะพร้าว
เมนูนี้น่ารัก เป็นมูสทุเรียน กับมูสมะพร้าว ทำออกมาเหมือนพลูทุเรียนที่มีเปลือกทำจากช็อกโกแลต
ไอศกรีมรสทุเรียนหมอนทอง
ไอศกรีมสีเหลืองนวลรสทุเรียนหมอนทองหอมๆ ที่บอกได้เลยว่าไม่ได้มีแค่กลิ่น แต่มีเนื้อทุเรียนแทรกอยู่ด้วย (ในรูปเป็นขนาดที่นำมาให้ชิมตอนรีวิว)
ทุเรียนก้านยาวไวท์ข็อกโกแลตทรัฟเฟิล
เป็นไวท์ช็อกโกแลตชิ้นๆ ที่เนื้อด้านในทำมาจากทุเรียน เคลือบด้วยช็อกโกแลตนำเข้าจากฝรั่งเศส ทำรูปร่างออกมาคล้ายกับทุเรียนลูกเล็กๆ
ส่วนใหญ่ราคาของแต่ละเมนูจะอยู่ที่ 180 บาท ++ ต่อชิ้น (ขอบอกว่าขิ้นใหญ่พอสมควรครับ)
ยกเว้น ทุเรียนเคลือบช็อกโกแล็ตสตรอว์เบอร์รี่ กับ ทุเรียนก้านยาวไวท์ข็อกโกแลตทรัฟเฟิล ที่จะราคาชิ้นละ 45 บาท ++
นอกจากนี้ถ้าใครอยากลองทานทุกเมนู เมนูละนิดละหน่อยก็แนะนำเป็นเซ็ต “Durian Afternoon Tea” ที่จะเสิร์ฟทั้ง 12 เมนู บวกกับสโคนทุเรียน แยมทุเรียน และเครื่องดื่มร้อน ในราคา 888 บาท ++ สำหรับ 2 ท่าน โดยไม่ต้องแย่งกันเพราะจะมาเมนูละ 2 ชิ้น ขนาดกำลังดี
ทีมงานซอกแซกขอเชิญชวนทุเรียนเลิฟเวอร์ทุกท่านมาชิม มาอร่อยกับขนมหวานจากทุเรียนได้ที่ห้องอาหารเวนติซี หรือที่ซิงก์เบเกอรี่ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 เท่านั้น
แนะนำ 1 ให้โทรจองก่อนล่วงหน้า 1 วันหรืออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนจะไป เพื่อทางเชฟ จะได้เตรียมขนมสดๆ เอาไว้รอ โดยสามารถโทรไปจองได้ที่เบอร์ 02-100-6255 หรือ อีเมล์ diningcgcw@chr.co.th
แนะนำ 2 เตรียมกล้องไปถ่ายรูปด้วย เพราะแต่ละเมนูมันน่ารักตะมุตะมิมากๆ
ซูม จูเนียร์