เลือกตั้ง “ผู้ว่าฯ กทม.” “สนุก” ตั้งแต่ระฆังยกแรก

ทั้งๆ ที่วันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะอยู่อีกนานถึง 44 วัน นับจากนี้ เป็นต้นไป แต่ก็ดูเหมือนว่า สำหรับผู้ลงสมัครต่างๆ จะรู้สึกว่าเหลือเวลาน้อยเต็มที เดี๋ยวจะหาเสียงไม่ทัน เพราะพื้นที่ของ กทม. ซึ่งมีถึง 50 เขตนั้น ใหญ่โตกว้างขวางไม่ใช่เล่น…จึงเร่งเครื่องกันยกใหญ่

พอปิดรับสมัครและจับสลากได้เบอร์ประจำตัวเท่านั้น ป้ายหาเสียงต่างๆ ก็ขึ้นพรึ่บเต็ม กทม.ทันที

ในขณะที่ขบวนรถหาเสียงตะโกนบรรยายถึงสรรพคุณของผู้สมัครต่างๆ ก็เริ่มตระเวนไปที่โน่นที่นี่อึกทึกครึกโครมไปทั่วมหานครหลวง

ครั้งก่อนๆ ผมต้องออกจากบ้านมาเขียนหนังสือที่โรงพิมพ์ตั้งแต่สายๆ อยู่เกือบค่ำๆ ค่อยกลับบ้าน เลยไม่ค่อยได้ยินเสียงประชาสัมพันธ์จากรถหาเสียงต่างๆ

ช่วงโควิดอย่างทุกวันนี้ ผม “เวิร์กฟรอมโฮม” นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน วันหนึ่งๆ จึงได้ยินเสียงโฆษณาหลายต่อหลายรอบ

ขณะเดียวกัน เนื่องจากหมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่มีทั้งบ้านที่เป็นหลังๆ บ้านที่เป็นทาวน์เฮาส์ แถมถัดไปก็ยังมีตึก “แฟลต” ของการเคหะแห่งชาติอีกหลายสิบตึก…ถือว่าเป็นชุมชนใหญ่ คะแนนเสียงเยอะ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของผู้สมัครต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หรือการเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป

จึงมีทั้งป้ายโฆษณาหาเสียง และต่อไปก็คงจะมีผู้สมัครทั้งหลายทยอยมาเดินเยี่ยมประชาชนในตลาดเช้าอย่างแน่นอน

แม้จะมีเสียงบ่นว่าป้ายเยอะไป ใหญ่ไป รกรุงรัง เกะกะ ฯลฯ รวมทั้งบ่นรถหาเสียงที่มาตะโกนแล้วตะโกนอีก

แต่สำหรับผมไม่บ่นครับ…นอกจากไม่บ่นแล้วยังชอบเสียอีก…เพราะนี่คือบรรยากาศประชาธิปไตยที่ผมรอคอย

ขอเพียงให้รกหรือเกะกะภายในขอบเขตของกฎกติกา เพราะโดยปกติในการเลือกตั้งทุกครั้งจะมีระเบียบ หรือคำสั่ง หรือกำหนดอยู่แล้วว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ หรือทำได้ขนาดไหน? และขอเพียงว่าเมื่อการเลือกตั้งจบลงแล้ว รีบมาเก็บป้ายหรือมากวาดขยะแผ่นปลิวต่างๆ ก็แล้วกัน…ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเก็บกวาดอย่างรวดเร็วอยู่เสมอ

โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจหรือให้ความสำคัญกับนโยบายต่างๆ ที่มีการแถลงมากนัก เพราะเห็นมามากแล้วว่าไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ

เนื่องจากเหนือ กทม.ขึ้นไป ยังมีส่วนราชการต่างๆ หรือรัฐวิสาหกิจ ต่างๆ ที่ลงมารับผิดชอบงานของ กทม.อีกไม่รู้กี่สิบหน่วย

ใครจะมาเนรมิต กทม.ให้เป็นโน่นเป็นนี่คงยาก ดังนั้น เมื่อมีการแถลงนโยบายอะไรออกมาผมก็เพียงแต่ฟังๆ ไว้ประดับความรู้เท่านั้น

แต่ผมก็ไม่ขัดข้องนะครับ ที่มีการแถลงนโยบายมากมายก่ายกอง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเติมเต็มให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของเรามีสาระมากขึ้น ไม่ใช่จะมาหาเสียงแบบด่าทอหรือถกเถียงกันอย่างเดียว เหมือนนักการเมืองรุ่นเก่าๆ

ที่สำคัญผมต้องขอขอบคุณผู้สมัครทั้งหลายที่มาลงสมัครคราวนี้ ซึ่งในความเห็นของผม…เห็นว่ามีบุคคลที่มีคุณสมบัติ มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กันมาก็ว่าได้

แค่อ่านประวัติการทำงานของหลายๆท่านแล้ว ยังรู้สึกเสียดายหากท่านจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่ได้มีโอกาสมาทำงานรับใช้ประชาชนชาว กทม. ในครั้งนี้

กล่าวโดยสรุป มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.งวดนี้ถึง 31 คน เป็นชาย 25 คน หญิง 6 คน และยังมีการสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 50 เขต อีก 382 คน

ขอเชิญหาเสียงกันให้เต็มที่นะครับ ใช้เวลา 44 วันที่เหลือจากนี้ ให้เกิดประโยชน์ที่สุด–ตราบใดที่การนับคะแนนเสียงยังไม่เกิดขึ้น ผู้สมัครทุกคนล้วนมีความหวังทั้งสิ้น

โพลจะบอกว่าใครเป็นที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 หรือที่เท่าไหร่ ก็เป็นเรื่องของโพล อย่าเพิ่งท้อแท้เสียก่อน–หรือใครที่โพลบอกว่านำลิ่วก็อย่าประมาท เพราะอาจจะโดนม้ามืดพลิกแซงได้ภายหลัง

ในหลักการผมขอให้กำลังใจทุกคนครับ และจะต้องวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด เนื่องจากรู้จักมักจี่พอสมควรกับหลายๆผู้สมัครคราวนี้

ผมก็ขอสรุปข้อเขียนโหมโรงการเลือกตั้ง กทม.ชิ้นแรกของผมว่า ผมชอบบรรยากาศมากครับ และรอบรรยากาศแบบนี้มานานแล้ว ส่วนใครจะมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ผมยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากพี่น้องชาว กทม.

“ซูม”

ข่าว, เลือกตั้ง, ผู้ว่า, กรุงเทพมหานคร, กทม, ซูมซอกแซก