หัวหน้าทีมซอกแซกรู้สึกใจหายเป็นอย่างยิ่งที่หยิบหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์) ขึ้นมาอ่านแล้วพบกับพาดหัวยักษ์ตัวใหญ่ ว่ารัสเซียบุกถล่มยูเครนแล้ว โดยเข้าโจมตีพร้อมกันทุกทิศทางท่านผู้อ่านคงทราบแล้วว่า “ทีมงานซอกแซก” เป็นคณะบุคคลกลุ่มเล็กๆ ที่ชอบซอกแซกไปโน่นไปนี่ ไปดูไปเที่ยวไปสัมผัสทั้งสถานที่ทั้งเหตุการณ์ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ เพื่อนำข้อมูลนำประสบการณ์ รวมทั้งสิ่งที่เราพบเห็นและร่วมสัมผัสทั้งหลายทั้งปวงมาเขียนบอกกล่าวเล่าต่อในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์
เราจึงเน้นไปที่ “ความสุข” “ความสนุก สนาน” และความ “สำราญเบิกบานใจ” ของท่านผู้อ่าน เนื่องในวันหยุดพักผ่อนเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของการเขียน
ทำให้คณะของเราเป็นคณะที่ต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับการทะเลาะเบาะแว้ง การสู้รบปรบมืออย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเฉพาะไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการทำสงคราม ซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียทั้งทรัพย์สิน ทรัพยากรธรรมชาติ และชีวิตมนุษย์
เราจึงไม่เห็นด้วยที่จะมีการ “บุกรุก” จากประเทศหนึ่งสู่อีกประเทศหนึ่ง และใช้อาวุธยุทโธ ปกรณ์ในการทำลายล้างจนเกิดความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
แต่โดยที่ทีมงานซอกแซกมีความรู้สึกส่วนตัวที่เป็นมิตรกับทุกฝ่ายที่เป็นคู่กรณีกันในขณะนี้ รวมทั้งรัสเซียที่ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้บุกรุก” นั้นด้วย
จึงขอร่วมวิงวอนไปพร้อมๆ กับชาวโลกที่รักสันติภาพ ที่ต่างก็วิงวอนขอร้องให้คู่ “กรณี” จงหันมาใช้สติ ใช้ปัญญา และใช้การพูดการเจรจา เพื่อหาทางยุติการขัดแย้งโดยฉับพลัน มิให้การศึกการสงครามบานปลายไปมากกว่านี้
อะไรไม่อะไร หัวหน้าทีมซอกแซกเคยคิดและตั้งความหวังมานานหลายปีแล้วว่า หากมีโอกาสก็อยากจะไปซอกแซกประเทศยูเครนด้วยเช่นกัน
เพราะเท่าที่ได้ยินคำบอกเล่าและได้อ่านเรื่องราวที่มีผู้คนเขียนถึง ล้วนระบุตรงกันว่ายูเครนเป็นประเทศที่สวยงามและมีอารยธรรมโบราณมากมาย สมควรแก่การไปเยี่ยมเยือนอย่างยิ่ง
เมื่อหลายปีก่อน หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปตระเวนรัสเซียกับเพื่อนๆ ที่รู้ใจใกล้ชิด กลุ่มหนึ่ง จำได้ว่ากลับมาเขียนถึงด้วยความประทับใจในคอลัมน์นี้หลายๆสัปดาห์ติดต่อกัน
ระหว่างอยู่ที่โน่น พวกเราที่ร่วมเดินทางตีตั๋วท่องเที่ยวไปด้วยกันยังคุยกันว่ามารัสเซียแล้วควรจะไปยูเครนด้วยนะ เพราะเขาเคยเป็นประเทศที่อยู่ร่วมสหภาพ โซเวียตมาด้วยกัน
มีประวัติศาสตร์ยาวนานพอๆกันและมีความสวยงามที่พอๆกัน
กลับมาถึงเมืองไทย หัวหน้าทีมซอกแซกยังไปค้นหาเรื่องท่องเที่ยวของยูเครนมาอ่านอยู่หลายตลบ เพื่อเตรียมไว้หากจะมีการจัดทริปในระหว่างเพื่อนๆฝูงๆ ไปเยือนประเทศนี้ในอนาคตขึ้นดังที่คุยกัน
แต่แล้วความหวังและแผนการทั้งหมดก็ต้องพังครืนลงไป เพราะแขกที่ไม่ได้รับเชิญ เจ้า “โควิด-19” เดินทางมาเยือนโลกเราอย่างไม่คาดฝัน สร้างความสูญเสียและปัญหาอย่างใหญ่หลวง แก่ชาวโลก โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ที่ต้องยุติลงโดยสิ้นเชิงตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ยังจำ “การบ้าน” ที่จดบันทึกไว้ได้เลยครับว่า ถ้าพวกเราได้ไปยูเครน…จะไปดูอะไรบ้าง?
เท่าที่หัวหน้าทีมร่างย่อเอาไว้ก็คือจะไปเริ่มที่ กรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนนั่นแหละก่อนที่อื่น เพราะเป็นทั้งศูนย์กลางแห่งอารยธรรมของชาวสลาฟมานับหมื่นปี มีสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่มากมาย ทั้งโบสถ์ ทั้งพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง
รวมทั้งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมน้ำ นีเปอร์ (Dnieper River) ที่ได้ชื่อว่าสวยงามอย่างยิ่งไม่แพ้แม่น้ำสำคัญอื่นๆ…คนชอบนั่งเรือล่องแม่น้ำเป็นชีวิตจิตใจอย่างหัวหน้าทีม เพราะไปประเทศไหนจะต้องหาโอกาสลอยเรืออยู่เสมอ…จึงรีบจดลงบัญชีไว้ทันที
อีกเมืองที่อยากไปและจะต้องหาโอกาสไปให้จงได้หากคณะของเราไปเที่ยวก็คือเมือง “เคลเวน” (Klevan) ซึ่งในคู่มือท่องเที่ยวระบุว่าอยู่ที่จังหวัดริฟเน (Rivne Region) ทางภาคตะวันตกของยูเครน
ที่นั่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตของโลกอยู่แห่งหนึ่ง เรียกกันว่าอุโมงค์แห่งความรัก หรือ อุโมงค์ที่ลอดไปตามต้นไม้ใหญ่ๆ ที่ขึ้นเรียงรายอย่างชุ่มชื่นและยาวมาก…ในอดีตเคยใช้ในการขนส่งสินแร่เหล็กไปสู่โรงถลุงเหล็ก แต่ปัจจุบันกลายเป็นอุโมงค์ธรรมชาติที่สวยงามเหลือเกิน จนได้ชื่อว่าเป็นอุโมงค์แห่งความรัก และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งของยูเครน
ครับ! ก็เป็น “ข้อมูล” เกี่ยวกับยูเครนที่หัวหน้าทีมซอกแซกเคยเก็บรวบรวมไว้ เมื่อก่อนโควิด-19 จะระบาด
แต่มาถึงวันนี้โควิด-19 แม้จะดูเบาลง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะซาสนิทจนสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวได้เมื่อไร…รวมทั้งก็มาเกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกถล่มยูเครนเข้าให้อีก…ทำให้โอกาสไปเยือน ยูเครนยิ่งเลือนลางมากขึ้น
จึงต้องหวนกลับไปที่ข้อ “วิงวอน” ของทีมงานซอกแซกเมื่อตอนเริ่มต้นคอลัมน์อีกครั้งว่า ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จงหันมาใช้สติ ใช้ปัญญา ใช้วิธีการทูตเพื่อยุติการสู้รบให้ได้โดยเร็วด้วยเถิด
เพราะสู้กันนานสู้กันหนัก หรือถล่มกัน ไม่หยุด เดี๋ยวของสวยๆ งามๆ ที่ชาวโลกอยากไปเห็น เป็นขวัญตาจะพังพินาศย่อยยับไปเสียหมดนะซี
โดยเฉพาะ “อุโมงค์แห่งความรัก” ช่วยรักษาไว้ด้วยนะครับ ถ้ามีโอกาสไปยูเครนใน วันใดวันหนึ่งข้างหน้า หัวหน้าทีมจะขอไปเดินลอดที่นี่ก่อนเลย ตามประสาคนที่มีความรักอยู่ในหัวใจ
ป.ล.ขอขอบคุณภาพ “อุโมงค์แห่งความรัก” จาก Thaiticketmajor.com (ตามที่ระบุไว้ในกูเกิล) ที่นำมาลงประกอบวันนี้ด้วยนะครับ… เชื่อแล้วครับ ว่าสวยและน่ารักจริงๆ.
“ซูม”