ท่านผู้อ่านคงจะพอจำได้นะครับว่าเมื่อ 2 วันก่อนผมได้เขียนถึง “ข่าวใหญ่” ของโลกข่าวหนึ่ง เกี่ยวกับยอดนักเทนนิส หมายเลข 1 ของโลก โนวัค ยอโควิช ไม่ยอมฉีดวัคซีน และหันมาใช้วิธีขอยกเว้นทางการแพทย์ เพื่อจะไปแข่งขันในรายการใหญ่ของโลก “ออสเตรเลียนโอเพ่น” ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่ ตม.ของออสเตรเลียไม่ยอมให้ผ่านเข้าประเทศและยึดวีซ่าเขาไว้เพราะเหตุผลการขอยกเว้นเข้าประเทศของเขาไม่เป็นไปตามกฎที่รัฐบาลวางไว้

ซึ่ง โนวัค ยอโควิช ก็สู้คดียื่นฟ้องต่อศาล และปรากฏว่าศาลพิพากษาให้เขาชนะด้วยหลักกฎหมายพื้นฐานบางอย่าง โดยเฉพาะในข้อที่เจ้าหน้าที่ ตม.ปฏิบัติต่อเขาอย่างรวบรัดเกินไป

รายงานที่ผมเขียนไว้เมื่อครั้งที่แล้วจบลงตรงที่ว่า…แม้โนวัคจะชนะคดีได้วีซ่ากลับมา แต่กระทรวงตรวจคนเข้าเมือง โดยรัฐมนตรีก็ยังมีสิทธิที่จะระงับวีซ่าได้อีกหน ตามอำนาจหน้าที่ของท่าน

ผู้คนทั่วโลกทั้งที่เป็นแฟนเทนนิสและไม่ใช่แฟนเทนนิสที่สนใจกรณีนี้ ต่างก็รอคอยด้วยใจจดจ่อว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะตัดสินใจอย่างไร? จะยืนยันถอนวีซ่าหรือจะเฉยๆ เสีย อันจะเป็นโอกาสให้โนวัค ยอโควิช ซึ่งออกจากโรงแรมสถานกักตัว ก่อนส่งออกนอกประเทศไปฝึกซ้อมเรียบร้อยแล้ว…สามารถลงแข่งขันได้

ปรากฏว่ารัฐบาลออสเตรเลียปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีกหลายวัน จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่านรัฐมนตรีกระทรวงตรวจคนเข้าเมืองจึงได้ออกคำสั่งเพิกถอนวีซ่าของโนวัคเป็นหนที่ 2

โดยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าท่านขอใช้อำนาจถอนวีซ่าของโนวัค ยอโควิช ด้วยเหตุผลด้านสาธารณสุข และความเป็นระเบียบตามหลักของผลประโยชน์ส่วนรวม

เป็นผลให้โนวัคจะต้องออกจากประเทศออสเตรเลียในทันที และไม่มีสิทธิลงแข่งขันในครั้งนี้ และจะโดนห้ามเข้าออสเตรเลียอีก 3 ปี เป็นอย่างน้อย

แต่ก็ปรากฏว่าโนวัคยังสู้ต่อ โดยให้ทีมกฎหมายยื่นอุทธรณ์ต่อศาลที่สูงขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง และศาลก็นัดพิจารณาคดีให้อย่างรวดเร็ว ในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม ซึ่งป่านฉะนี้ผลคงจะออกมาเรียบร้อย

โนวัคจะได้อยู่ออสเตรเลียเพื่อเข้าร่วมในการแข่งขัน “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้เป็นวันแรก (17 มกราคม) หรือไม่อย่างไร? ท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวจากสื่อต่างๆ อยู่คงจะทราบกันแล้ว

ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ความเห็นของสื่อออสเตรเลียและประชาชนชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่เห็นด้วยกับรัฐบาลและไม่พอใจที่โนวัคไม่ยอมฉีดวัคซีนแล้วยังจะขอยกเว้นเข้ามาแข่งขัน

ถึงขนาดที่ผู้สื่อข่าวชายหญิง 2 คน ของโทรทัศน์ช่องดังที่โน่น เผลอด่าโนวัคอย่างหยาบคายในทำนองเป็นคนเห็นแก่ตัว ซึ่งทางสถานีไม่ได้นำไปออกอากาศแต่กลับมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมียอดผู้เข้าชมเยอะกว่าออกอากาศด้วยซ้ำ

แต่ก็มีแฟนเทนนิสกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบในฝีมือของเขา และอยากเห็นเขาลงแข่งขัน เพราะถ้าเขาได้แชมป์จะเป็นแชมป์ที่ 10 สำหรับการแข่งขัน “ออสเตรเลียน โอเพ่น” และจะเป็นแชมป์ “แกรนด์สแลม” ครั้งที่ 21 เป็นสถิติใหม่เหนือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และ ราฟาเอล นาดาล ด้วย ที่ได้ 20 ครั้งเท่ากัน 3 คน อยู่ขณะนี้

แฟนกลุ่มนี้จะออกมาเชียร์และเอาใจช่วยและตำหนิการกระทำของรัฐบาลออสเตรเลียอยู่ตลอด

สำหรับผมเองแม้จะชื่นชมโนวัค ยอโควิช อยู่มากและในการจัดรายการวิทยุกีฬาก็จะพูดยกย่องฝีไม้ลายมือของเขาอยู่เสมอ…แต่สำหรับกรณีนี้ผมเห็นด้วยกับชาวออสเตรเลียและสื่อออสเตรเลียครับ

แม้การไม่ฉีดวัคซีนจะเป็นสิทธิของเขาแต่เขาก็ควรเคารพสิทธิของคนอื่นๆ โดยควรจะเก็บตัวไม่ออกมาสู่สังคมเพื่อรับเชื้อหรือแพร่เชื้อใดๆ ทั้งสิ้น…หากเขาจะไม่ฉีดวัคซีน

เขาเป็นนักกีฬามีความเข้มแข็งเคยติดแล้วก็หาย…แต่อย่าลืมว่าคนอื่นไม่เข้มแข็งอย่างเขา โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนที่เป็นโรคในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ซึ่งต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากทั่วโลกถึงกว่า 5 ล้านคนแล้ว ณ นาทีนี้

ยอมแพ้เถอะโนเล่เอ๋ย! กรณีนี้ แล้วไปฉีดวัคซีนซะให้ครบเข็มจะได้ไปแข่งรายการต่างๆ ได้อย่างสะดวกทั่วโลก ยังเหลือรายการ “แกรนด์สแลม” ให้ยูทำลายสถิติอีกตั้ง 3 รายการ ในปีนี้…เอางั้นนะยู.

“ซูม”