เนื่องในโอกาส “วันพ่อแห่งชาติ” เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ทีมงานซอกแซกขอเชิญชวนท่านผู้อ่านโปรดก้มลงกราบแทบเท้า “บิดา” หรือ “คุณพ่อ” ของพวกเราอย่างพร้อม เพรียงกันนะครับ
เพื่อรำลึกถึงพระคุณที่ท่านให้กำเนิดแก่เรา…เลี้ยงดู…อุ้มชู…ส่งเสียให้การเรียนการศึกษาแก่พวกเราจนสามารถมีงานมีการทำ มีรายได้ตามสมควรแก่อัตภาพตราบเท่าทุกวันนี้
นอกจาก “พ่อบังเกิดเกล้า” หรือผู้ให้กำเนิดแก่เราโดยตรงแล้ว ในสังคมไทยยังมี “พ่อ” อีกท่านหนึ่งที่คนไทยให้ความเคารพเทิดทูนอย่างยิ่งเปรียบประดุจ “บิดา” คนที่ 2 ของชีวิต
นั่นก็คือ “พ่อของแผ่นดิน” หรือพระมหากษัตริย์ ในฐานะพระประมุข ที่คอยสอดส่องดูแลสารทุกข์สุกดิบของปวงชนชาวไทยที่เปรียบได้กับ “บุตร” หรือ “ธิดา” ของท่านมาแต่โบราณกาล
โดยเฉพาะในยุค 200 ปีเศษ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ในราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ล้วนสอดส่องดูแลพสกนิกรอย่างทั่วถึง และทรงร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนมาโดยตลอด เป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 10 ในปัจจุบัน
เหนืออื่นใดคือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมมาเป็นเวลากว่า 70 ปี นับว่ามีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ จึงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ “ในดวงใจ” ของชาวไทย นับตั้งแต่วันขึ้นครองราชย์ มาจนถึงวันเสด็จสู่สวรรคาลัย…สืบต่อมาจนตราบ วันนี้และอีกนานแสนนานต่อไปในอนาคตข้างหน้า
ทุกๆ วันที่ 5 ธันวาคม อันเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ท่าน พสกนิกรชาวไทยจะพร้อมใจกันจัดงานถวายด้วยความ จงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่อยู่เสมอ
ที่สำคัญรัฐบาลไทยก็ได้กำหนดให้วันนี้เป็นทั้ง “วันรำลึก” ถึงพระองค์ท่าน และเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ควบคู่ไปกับการเป็น “วันชาติ” ด้วย… จึงนับได้ว่าวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปีได้กลายมาเป็นวันสำคัญอย่างยิ่งยวดของประชาชนชาวไทย เพราะได้หล่อหลอมสิ่งที่เป็นชีวิตและวิญญาณของคนไทยเอาไว้ถึง 3 ประการด้วยกัน
จาก “พ่อหลวง” หรือ “พ่อแห่งชาติ” มาถึง “พ่อบังเกิดเกล้า” ของพวกเราดังได้กล่าวไว้แล้ว และร้อยเรียงต่อไปถึง “ชาติ” หรือ “ประเทศไทย” อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราทุกคนอีกด้วย
กิจกรรมที่คนไทยทุกคนจะร่วมกันกระทำในวันนี้ สื่อต่างๆ ได้นำมาลงไว้แล้วอย่างกว้างขวาง
ทีมงานซอกแซกขอนำมากราบเรียนซํ้าแต่เพียงสั้นๆ ว่า สำหรับวันนี้จะมีพิธีตักบาตรถวายพระราชกุศล แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เวลา 07.30 น. ที่ท้องสนามหลวงใน กทม. ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและหน้าศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดจะทำหน้าที่ประธานในทุกจังหวัด
ตามมาด้วยพิธีถวายพานพุ่มในเวลา 08.30 น. นำโดยท่านนายกรัฐมนตรี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัดต่างๆ
ที่สำคัญมากอีกกิจกรรมหนึ่ง ก็คือเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต
ขอเชิญพี่น้องประชาชนเข้าร่วมรับเสด็จอย่างพร้อมเพรียงกัน และขอได้โปรดทยอยไปล่วงหน้า เพราะจะต้องมีการคัดกรองเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างละเอียดถี่ถ้วน ตามกฎกติกาที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้
อุทยานเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 นับเป็น “ของขวัญ” พระราชทานอันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง สำหรับพวกเราชาวไทยทั้งประเทศ
เป็นพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มานับแต่ต้นที่จะทรงสร้างพระบรมราชาอนุสาวรีย์ในหลวง ร.9 ณ บริเวณที่เคยเป็น สนามม้านางเลิ้ง แห่งนี้ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้มาแสดงความจงรักภักดีและรำลึกถึงพระองค์ท่านเช่นเดียวกับพระบรม ราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ที่ปวงชนชาวไทยเคารพนับถือในอดีต
โดยจะมีการก่อสร้างและตกแต่งอุทยาน บนพื้นที่ 297 ไร่ ให้เป็นสวนป่ากลางเมือง ตกแต่งด้วยพืชนานาชนิด โดยมีจุดสำคัญ นอกจาก พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ แล้ว ก็จะมีสระน้ำ
เลข 9 สะพานหยดน้ำพระทัย สะพานไม้เจาะ บากง ภายใต้แนวคิด “น้ำคือชีวิต จากนภาผ่านภูผา สู่นที” ฯลฯ
รอบๆ อุทยานจะเต็มไปด้วยตัวอย่างของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในการฟื้นฟูป่ารักษาแหล่งน้ำ เกษตรทฤษฎีใหม่ กังหันน้ำชัยพัฒนา บ่อปลานิล ฯลฯ อีกทั้งยังจะเป็น “แก้มลิง” แห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร โดยเชื่อมกับคลองผดุงกรุงเกษมกับคลองเปรมประชากรและคลองสามเสน รวม 3 คลอง เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ ยังมีสนามเด็กเล่น ลานกีฬา ทางจักรยาน ท่าเรือ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ส่ิงอำนวยความสะดวกต่างๆ และเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ทั้งที่เกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริและการเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจรอีกด้วย
จึงกล่าวได้ว่า “อุทยาน ร.9” คือ “ของขวัญ” พระราชทานจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบันแก่ปวงชนชาวไทย ที่ทรงคุณค่าอย่างหาที่สุดมิได้ใน “วันพ่อแห่งชาติ” และ “วันชาติ” 5 ธันวาคม 2564
“สวนสาธารณะ” อันเปรียบประดุจศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติแห่งนี้ จะแล้วเสร็จในปี 2567 และคาดว่าจะมีพิธีเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ ในวันที่ 5 ธันวาคมของปีดังกล่าว หรืออีก 3 ปี จากนี้เป็นต้นไป.
“ซูม”