ผมเขียนต้นฉบับ วันนี้ในช่วงเย็นๆ ของวันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม กว่าต้นฉบับจะได้รับการตีพิมพ์และออกวางจำหน่ายในวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคมนั้น ผมคิดว่ายอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศไทยนับแต่เริ่มระบาดเป็นต้นมา น่าจะทะลุหลัก “100,000” (หนึ่งแสน) รายเป็นที่เรียบร้อย!

เพราะในวันเสาร์ ขณะที่ผมนั่งเขียนซึ่งมียอดติดเชื้อประจำวันสูงถึง 3,095 รายนั้น ส่งผลให้ยอดสะสมพุ่งไปถึง 99,145 รายอยู่แล้ว

ตัวเลข ณ เช้าวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค.ยังไม่ทราบว่าจะเป็นเท่าใด…แต่อย่างไรเสียก็น่าจะเกิน 1,000 อย่างแน่นอน

จึงน่าจะทะลุหลัก “100,000” เรียบร้อย ในวันที่ท่านผู้อ่านได้อ่านต้นฉบับของผมวันนี้

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ตัวเลขติดเชื้อของเราพุ่งขึ้นมาทะลุหลักแสนทั้งๆ ที่ยังเป็นหลักพันอยู่หลัดๆ เมื่อก่อนสิ้นปี 2563?

ก็ต้องบอกว่ารู้สึกใจหายครับ…เพราะผมเชื่อว่า คงไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ว่าตัวเลขติดเชื้อสะสมของเราจะทะยานขึ้นมาจนถึงจำนวนนี้ได้

ทำให้ ณ นาทีนี้อันดับโลกอันไม่พึงปรารถนาของเราน่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 91 หรือ 92 ทิ้ง จีน ซึ่งยังอยู่ที่ 90,815 ราย และติดเชื้อใหม่แค่วันละไม่เกิน 10 ราย ไปไม่ต่ำกว่า 5 หรือ 6 อันดับ

ก็เอาเถอะ แม้ยอดผู้ติดเชื้อจะทะยานขึ้นแต่ยอดเสียชีวิตของเราเมื่อวันเสาร์ดูดีขึ้นมานิดหน่อยลดจาก 30 กว่าราย มาเป็น 17 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 565 ราย

ยังห่างจากจีนที่ตัวเลขเสียชีวิตสะสมวันนี้ รวม 4,636 ราย อยู่พอสมควร…และยังห่างจากสหรัฐอเมริกาที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกซึ่งมาถึงวันนี้ น่าจะทะลุ 600,000 รายแล้ว อย่างชนิดเทียบกันไม่ได้เลย

แต่ก็อย่างที่ผมเคยกราบเรียนเอาไว้…ว่าผู้เสียชีวิตของเราไม่ว่ามากหรือน้อยเป็นทรัพยากรของชาติที่น่าเสียดายทั้งสิ้น

แม้ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าท่านเหล่านี้คือผู้หลักผู้ใหญ่ของเรา…ที่มีส่วนในการสร้างสรรค์และพัฒนาชาติของเรามาโดยตลอดในช่วงที่ท่านยังอยู่ในวัยทำงาน อันเป็นผลให้ประเทศไทยของเราก้าวหน้ามาได้ถึงจุดนี้

ดังนั้นการสูญเสียท่านไปก่อนเวลาอันสมควร เพราะโควิด-19 จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายอย่างยิ่งที่เราจะต้องช่วยกันทุกๆ วิถีทางให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

หนทางหนึ่งที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ก็คือการให้ความร่วมมือในการ “ฉีดวัคซีน” ให้มากที่สุดที่จะมากได้ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ดังที่คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกตั้งความหวังไว้

ผมตระหนักดีว่าคนไทยเราส่วนใหญ่รู้สึกอึดอัดใจ ไม่สบายใจ และสับสนต่อเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราในขณะนี้

ยิ่งเห็นตัวเลขติดเชื้อที่พุ่งขึ้นทุกวันก็ยิ่งใจหาย หรือเห็นยอดผู้เสียชีวิตที่ไม่ลดลง ก็รู้สึกหวาดหวั่นมากขึ้น

ผมคิดว่าหนทางที่ดีที่สุดก็คือ หยุดเสพข่าวสักพักหนึ่ง โดยเฉพาะข่าวจาก “โซเชียล” ทั้งหลาย เลิกได้เลิกเลย

หันมาตั้งสติทำใจให้สงบ…ติดตามเฉพาะข่าวหลักๆจากรัฐบาล โดยเฉพาะจากกระทรวงสาธารณสุขไปก่อน เพื่อให้รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร และเราควรทำตัวหรือวางตัวกันอย่างไร

จะเบื่อบิ๊กตู่หรือไม่ชอบรัฐมนตรีสาธารณสุขที่มาจากการเมืองก็เชิญเถอะครับ…แต่ผมขอความกรุณาให้ท่านเชื่อมั่นและเชื่อใจใน “กระทรวงสาธารณสุข” และ “ระบบสาธารณสุข” ของประเทศไทย

ผมยังยืนยันว่า ข้าราชการของกระทรวงนี้และบุคลากรในวงการแพทย์ โดยเฉพาะของคณะแพทยศาสตร์ต่างๆ ของเรา…คือบุคลากรภาครัฐที่เข้มแข็งที่สุด เท่าที่ผมเคยสัมผัสและมีโอกาสทำงานด้วยมายาวนานและได้เรียนท่านผู้อ่านไว้หลายครั้ง

การที่บุคลากรทางการแพทย์ของเรารบเพลี่ยงพล้ำไปบ้าง ไม่ได้แปลว่าบุคลากรของเราแย่…แต่ต้องมองว่าเพราะศัตรูของเราคือโควิด-19 มันตึงมือและมีฤทธิ์มาก จำเป็นต้องพลิกกระบวนท่าหาวิธีต่อสู้ต่อไป

ให้กำลังใจพวกเขาให้สู้ต่อไปเถิดครับ ให้ความร่วมมือแก่เขาให้มากที่สุด ตามที่เขาขอร้องเถิดครับ

ประเทศไทยจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ในที่สุด…ผมยังเชื่อและมั่นใจในนักรบหน่วยหน้าของเราทุกคน.

“ซูม”