วันนี้ (12 เมษายน) เป็นวันหยุดพิเศษตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อหลายเดือนก่อนโน้น โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นวันหยุดยาวถึง 6 วันติดต่อกัน เพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้เดินทางกลับบ้านหรือเดินทางไปฉลองสงกรานต์ทั่วประเทศกันอย่างเต็มอิ่ม

ปรากฏว่า “เป็นหมัน” เรียบร้อยเลยครับ สำหรับความหวังและความตั้งใจของรัฐบาลที่จะใช้สงกรานต์ปีนี้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว

เมื่อเกิดการระบาด “ระลอก 3” ของ “โควิด-19” สายพันธุ์ใหม่ จากอังกฤษที่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์เก่าๆ ที่เราเจอมาถึง 1.7 เท่าอย่างที่คุณหมอท่านแถลงไว้

ทำให้ยอดติดเชื้อใหม่ของบ้านเรากลับมาขึ้นหลักเลข 3 ตัว อีกครั้ง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา เริ่มด้วย 194 ราย, 250 ราย, 334 ราย, 405 ราย, 559 ราย และวันเสาร์ที่ 10 เมษายน ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับ พรวดไปถึง 789 ราย!

เพิ่มขึ้นมาตลอด 6 วัน เช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าวันต่อๆ มาจะถึงเลขหลัก 4 ตัว คือถึงหลัก 1,000++ไปแล้วหรือยัง?

แบบนี้คนไทยจะมีแก่ใจเที่ยวหรือสนุกสนานรื่นเริงได้ยังไงล่ะครับ! แม้ ศบค. จะไม่ได้ห้ามเที่ยว ไม่ห้ามเดินทาง แต่หลายๆ จังหวัดเขาก็มีมาตรการป้องกันตนเองออกกฎเข้มมารองรับ จนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและท่องเที่ยวอย่างยิ่ง

ในขณะที่งานสงกรานต์ดังๆ ก็เลิกแทบหมด จังหวัดดังๆ ที่เคยจัดก็ของดไปก่อน…ใน กทม.เอง ของ กทม.ก็เลิกเรียบร้อย และล่าสุด “เทศกาลวิถีน้ำวิถีไทย” ที่ผมชอบมากก็ประกาศงดจัดเช่นกัน

ทำให้บรรยากาศ “สงกรานต์ 2564” ที่หวังกันว่าจะสนุกสนานและกระตุ้นเศรษฐกิจได้พอควรกลับกลายเป็นเหงาสุดขีดไปอีกปีหนึ่ง

เพราะความประมาทหรือ “การ์ดตก” ของคนไทยกลุ่มหนึ่งแท้ๆที่เป็นต้นเหตุของการระบาดใหญ่ระลอกนี้ โดยเฉพาะความประมาทของสถานบันเทิงที่ ทองหล่อ และผู้ที่เข้าไปเที่ยวจำนวนมาก

จะมีการคิดบัญชีสถานบันเทิงแห่งนี้ในฐานะต้นเหตุของการระบาดที่สำคัญอย่างยิ่งแห่งหนึ่งอย่างไรบ้าง? ผมขอฝากรัฐบาลไว้พิจารณาด้วย

อย่าลืมนะครับ…เมื่อคราวที่สาเหตุของการระบาดหนักงวดที่แล้วมาจาก “บ่อนเถื่อน” รัฐบาลโชว์ฟอร์มดีมาก สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเล่นงานเจ้าของบ่อนเถื่อนซึ่งมีอิทธิพลสูงยิ่งลงได้อย่างชนิดถอนรากถอนโคน ได้รับเสียงปรบมือจากประชาชนทั่วประเทศ

ก็หวังว่าคราวนี้จะมีการ “ลงโทษ” หรือ “จัดการ” กับเจ้าของสถานบันเทิงทองหล่อต้นตอใหญ่ของการระบาดด้วยตามสมควร…ช่วยเปิดกฎหมายดูให้ครบทุกกฎหมายเลยนะครับว่าจะมีทางเอาผิดทางกฎหมายอะไรได้บ้างไหม?

รวมทั้งผู้ที่ไปเที่ยวหรือไปใช้บริการของสถานบันเทิงทองหล่อที่ “ปล่อยการ์ด” เปิดหน้าอ้าซ่าจนติดเชื้อออกมาเป็นแถว และแพร่เชื้อออกไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่…ที่สมควรแก่การได้รับโทษเช่นกัน

แน่นอน พวกเขาอาจไม่มีความผิดทาง “กฎหมาย” แต่ความผิดทาง “สังคม” นั้นมีแน่ โดยเฉพาะนักการเมืองและข้าราชการหลายๆคนที่มีข่าวว่า “ติดเชื้อ” เพราะไปเที่ยวสถานที่ “อโคจร” (ตามสำนวนของนายกรัฐมนตรี) แห่งนี้

ใครที่ไปจริงก็ขอให้รับอย่างลูกผู้ชายเถิด แสดงสปิริตรับผิดและหาทางลงโทษตนเองเสีย…อย่าปล่อยให้เป็นบาปติดตัวไปตลอดชีวิตเลย

เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย…คุณปิดคนอื่นได้ แต่จะไม่มีวันปิดตัวเองได้เด็ดขาด

ผมเชื่อว่ากรณีของสถานบันเทิงทองหล่อซึ่งเป็นต้นเหตุใหญ่ของการระบาดระลอกนี้คงไม่จบง่ายๆ จนกว่าจะมีการลงโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง แก่ “ต้นตอ” ทั้งหลาย ทั้งด้าน “กฎหมาย” หรือ “สังคม” ที่ชัดเจน

เพราะ “คนไทย” เดือดร้อนมากงวดนี้ และประเทศชาติก็เสียหาย หนักมากทางเศรษฐกิจในงวดนี้…สังคมไทยคงไม่ปล่อยให้คนทำการ์ดตก จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม “ลอยนวล” ไปได้ง่ายๆ หรอกครับ.

“ซูม”