“ไทม์ไลน์” วันไปฉีด “วัคซีน” จาก “ความระทึก” สู่ “รอยยิ้ม”

เมื่อวานนี้ผมเขียนเล่าเกริ่นไว้แล้วว่าผมไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาเรียบร้อย และนับมาถึงวันเขียนต้นฉบับ น่าจะสรุปได้ละครับว่าไม่มีอะไรแทรกซ้อน…จึงสัญญากับท่านผู้อ่านว่าจะนำไทม์ไลน์และข้อปฏิบัติต่างๆ มาฝากท่านผู้อ่านในวันนี้

โดยเฉพาะท่านผู้อ่าน “อาวุโส” ซึ่งผมสุ่มตัวอย่างดูแล้ว (รวมทั้งตัวผมกับภรรยาด้วย) ล้วนระทึกใจกันเป็นส่วนมาก เมื่อรู้ตัวว่าจะต้องไปฉีด “แอสตราเซเนกา”…ได้อ่านกันแล้วจะได้หมดความกังวลใจ เดินไป ให้คุณหมอ “จิ้มแขน” ด้วยความยินดี

30 มีนาคม 2564

18.00 น. ได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล ขอให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในวันที่ 1 เมษายน 2564 เวลา 09.00 น. แม้จะรู้สึกขอบคุณโรงพยาบาลที่นึกถึง แต่ก็อกสั่นขวัญหายด้วยกันทั้งสามีภรรยาเสียมิได้ บอกกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าจะให้คำตอบวันพรุ่งนี้

31 มีนาคม 2564

09.00 น. หลังจากปรึกษากันตลอดคืน ก็ตัดสินใจสลัดความกลัวเข็มและกลัววัคซีนออกไป เพราะเมื่อชั่งกับความกลัวโควิด-19 แล้ว กลัวโควิดมากกว่า จึงตกลงใจจะโทร. ไปบอกโรงพยาบาลว่าพร้อมที่จะไปฉีดตามกำหนดที่แจ้งมา

1 เมษายน 2564

08.00 น. ไหว้พระสวดมนต์ปลุกปลอบใจเราทั้ง 2 คนอีกครั้ง ก่อนขับรถออกจากบ้าน ถึงโรงพยาบาลอีก 1 ชั่วโมงต่อมา

09.05 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและพยาบาลหลายสิบคนมายืนเข้าแถวต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เห็นภาพข้างหน้าแล้วก็ใจชื้นขึ้นมาทันที เมื่อพบว่ามีผู้ร่วมชะตากรรมที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เพราะอายุเยอะ และมีโรคประจำตัว ได้รับเชิญมาฉีดรอบเดียวกับเรา น่าจะเป็นร้อยคนที่ยืนอยู่ขณะนี้ก็กว่า 50 คนแล้ว ยังทยอยมากันอยู่เรื่อยๆ

09.10 น. น้องพยาบาลพาไปวัดความดันและชั่งน้ำหนัก เสร็จแล้วส่งต่อไปที่โต๊ะลงทะเบียน เพื่อลงทะเบียนและซักประวัติทางด้านสุขภาพอนามัยตามขั้นตอน (ช่วงนี้บัตรประชาชนสำคัญที่สุดอย่าลืมพกไปด้วย)

09.20 น. ถึงโต๊ะลงทะเบียน…น้องพยาบาลขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือ และขอโทรศัพท์ด้วยเพื่อให้เราลงทะเบียนแอดไลน์ “หมอพร้อม” สำหรับใช้ในการติดต่อกัน นับแต่นี้เป็นต้นไป

09.25 น. เริ่มต้นซักประวัติเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยโดยรวมของเรา เช่น เคยแพ้ยาไหม? แพ้ยาอะไร? กินยาอะไรอยู่บ้าง? สักเกือบ 20 คำถามเห็นจะได้ ก่อนส่งตัวไปที่ห้องฉีดวัคซีน ซึ่งมีอยู่หลายห้องและเตรียมพยาบาลมาคอยฉีดให้หลายสิบคน

09.30 น. นาทีระทึกใจมาถึงแล้ว…ฉึก…รู้สึกเจ็บนิดเดียวเหมือนทุกครั้งที่เจอเข็มฉีดยาจากนั้นก็ไม่เจ็บอะไรเลย

ระหว่างฉีดน้องพยาบาลอีกคนขอมือถือเราไปถ่ายรูปให้พร้อมกับบอกว่า “เก็บไว้เป็นที่ระลึกนะคะอาจารย์” เราเลยต้องเงยหน้าขึ้นยิ้มให้กล้อง ซึ่งก็ดีไปอย่างทำให้หายกลัวและลืมความเจ็บไปได้สนิท

09.35 น. น้องพยาบาลเชิญให้ไปนั่งพักเพื่อรอดูอาการที่ห้องข้างๆ ซึ่งจะมีคนที่ฉีดในเวลาใกล้เคียงกับเรานั่งรออยู่แล้วจำนวนหนึ่ง

10.15 น. ครบ 30 นาทีของการเฝ้าดูอาการ พยาบาลนำใบนัดใหม่สำหรับฉีดเข็ม 2 (อีก 3 เดือน) มาให้พร้อมกับขอให้กลับไปสังเกตอาการต่อที่บ้าน หากมีอาการปวดหัวตัวร้อนบ้างก็รับประทานพาราฯ ได้เลย

เว้นแต่มีอาการข้างเคียงรุนแรงผิดปกติ เช่น ไข้สูงมาก แน่นหน้าอก ปวดศีรษะรุนแรง ฯลฯ ให้ไปพบแพทย์ใกล้ๆ บ้านทันที หรือจะกลับมาที่โรงพยาบาลของเราก็ได้

10.30 น. ร่ำลาคุณหมอร่ำลาพยาบาลร่ำลาผู้เข้าร่วมชะตากรรม (เฉพาะคนที่รู้จัก) รวมแล้วใช้เวลาชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของผมกับภรรยาครั้งนี้

อย่างที่เรียนไว้แล้วเมื่อวานว่า เรา 2 คนไม่มีอาการข้างเคียงอะไรเลย รวมทั้งผู้เข้าร่วมชะตากรรมกว่า 200 คน ก็ไม่มีข่าวอะไรทั้งสิ้น จึงขอย้ำมายังผู้ที่ยังหวาดกลัวหรือลังเลใจขออย่าได้ลังเลใจเลยเมื่อได้รับการตามตัว ให้ไปฉีดเมื่อไรขอให้ไปฉีดให้พร้อมหน้าด้วยเถิด

จากนี้ไปจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ทั้ง 2 ยี่ห้อได้ฉีดครบทุกคนแน่นอนครับ…“ลุงตู่” และ “หมอหนู” ท่านแถลงไว้แล้ว.

“ซูม”

ข่าว, ฉีดยา, โควิด 19, วัคซีน, ป้องกัน, โรงพยาบาล, แอสตราเซเนกา, ซูมซอกแซกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผมฉีด “วัคซีน” แล้วครับ แค่ “เจ็บๆ คันๆ” จิ๊ดเดียว
“ไทม์ไลน์” วันไปฉีด “วัคซีน” จาก “ความระทึก” สู่ “รอยยิ้ม”