สำหรับคนที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นที่มีรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ โดยเฉพาะชาบู-ชาบู หรือสุกี้ยากี้ และถ้ายิ่งเป็นคนที่ชอบทานเนื้อด้วยแล้วต้องไม่ควรพลาดร้านอาหารญี่ปุ่น “SAKAE (ซาคาเอะ)” ร้านชาบูพรีเมียม ที่เสิร์ฟประสบการณ์และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของชาบู-ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น
หลังจากที่ทีมงานซอกแซกได้สัมผัสประสบการณ์ “SAKAE (ซาคาเอะ)” แล้ว ต้องขออัพเกรดให้เป็นเวรี่พรีเมียมเลยค่ะ เพราะเขาใส่จิตวิญญานในการทำอาหาร และการบริการแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า “Omotenashi” โอโมเตะนาชิ หรือแปลเป็นภาษาง่ายๆ คือใส่ใจกันทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียวค่ะ
จุดเด่นของที่นี่คือคุณภาพของวัตถุดิบหลักเกือบทุกชนิดนั้นนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ “เนื้อวากิว” ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น
ร้าน “SAKAE (ซาคาเอะ)” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ใกล้บันไดเลื่อนด้านหน้าโครงการ The PARQ Life ตรงสี่แยกคลองเตย บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบหรูด้วยลายไม้ธรรมชาติสลับสีทอง โดดเด่นด้วยจอภาพมัลติมีเดียที่ฉายภาพบรรยากาศและศิลปวัฒนธรรมญี่ปุ่นในวิวพาโนรามา มีทั้งวิวภูเขาไฟฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ดอกซากุระ และวิวสวยงามอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกราวกับได้นั่งทานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นจริงๆ
ชาบูที่นี่เสิร์ฟเป็นเซต และจะทานแบบแยกหม้อบนโต๊ะบาร์ทรงไข่ของใครของมัน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 โซน (ที่ร้านเรียกว่า “ring”) ได้แก่ โซน A จะมี 28 ที่นั่ง ส่วนโซน B กับ C จะมีโซนละ 20 ที่นั่ง ในโซน C จะพิเศษกว่าโซนอื่นตรงที่สามารถกั้นม่านเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ สามารถแจ้งได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อาหารที่เสิร์ฟมาในเซตจะมี “เนื้อ” พร้อม “เครื่องเคียง” แต่ไม่รวมเครื่องดื่ม ทางทีมงานซอกแซกขอแนะนำให้สั่งเป็นชาเขียวนะคะ เวลาทานจะเข้ากันกับชาบูค่ะ แถมยังรีฟิลได้อีก
โดยเนื้อที่เสิร์ฟในเซตนั้นจะมี 4 แบบให้เลือก ได้แก่ เนื้อวากิว A4, เนื้อวากิว F1, เนื้อ SAKAE signature และเนื้อหมูพรีเมียม ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทานเนื้ออะไรดี แนะนำให้ลองทาน “เซตเนื้อ 3 ซามูไร” ที่มาครบทั้งเนื้อวากิว A4, เนื้อวากิว F1, เนื้อ SAKAE signature ในจานเดียวค่ะ และถ้าชอบเนื้อแบบไหนก็สามารถสั่งเฉพาะเนื้อแบบนั้นต่อได้เลยค่ะ
ส่วนเครื่องเคียงที่มาในเซตก็จะมี ชุดผัก ข้าว/อุด้ง และของหวาน และเราก็สามารถเลือกระหว่างสลัดมะเขือเทศและเต้าหู้โกมะได้ค่ะ
น้ำซุปมีให้เลือก 2 สูตร คือ “น้ำซุปชาบูชาบู (ชาบูน้ำใส)” และ “น้ำซุปสุกี้ญี่ปุ่น (ชาบูน้ำดำ)” ซึ่งอร่อยทั้ง 2 แบบค่ะ
สำหรับชาบูน้ำใสจะแช่คอมบุ 24 ชั่วโมงก่อน แล้วค่อยเติมสาเกเพิ่มความหอม รสชาติกลมกล่อมเบาๆ (สำหรับเด็กจะเสิร์ฟซุปชาบูน้ำใสไม่ผสมสาเกให้ค่ะ) เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ ได้แก่ “โกมะดาเระ” น้ำจิ้มงารสเข้มกลมกล่อม มีเผ็ดนิดๆ หอมกลิ่นมันกุ้ง ใช้ทานคู่กับเนื้อ และ “พอนซึ” จะรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากส้ม Yuzu ใช้ทานคู่กับผัก หอมมากค่ะ ทานแล้วสดชื่น
ส่วนชาบูน้ำดำ รสชาติเข้มข้นนิยมทานกับไข่ดิบ ซุปน้ำดำของที่นี่กลิ่นหอมทะลุแมสมากค่ะ รสจะเค็มหวานอมเปรี้ยวนิดๆ หอมกลิ่นส้ม Yuzu อร่อยมาก
เมื่อสั่งออเดอร์เรียบร้อย Butcher ก็จะนำเนื้อมาแล่กันให้เห็นๆ ที่หน้าโต๊ะเราเลยค่ะ เนื้อน้ำหนัก 150 กรัมจะถูกแล่อย่างพิถีพิถัน จัดเรียงลงจานเย็น เพื่อช่วยคงรสชาติของเนื้อ ซึ่งลายเนื้อนั้นสวยงามน่ารับประทาน (เฉพาะเนื้อหมูจะไปแล่ในครัว แยกเครื่องกันกับเนื้อวัวค่ะ)
จากนั้นก็จะมีพนักงาน Service ที่จะมาเป็นคนเสิร์ฟและบริการอื่นๆ ต่อ หน้าที่หลักคือคุมไฟหม้อชาบูให้เราค่ะ ซึ่งการคอยปรับไฟให้น้ำอุ่นพอเหมาะไม่เดือดจัดจะทำให้ได้รสชาติที่แท้จริงของน้ำซุปและทานชาบูอร่อยขึ้น
เราเริ่มชิมกันที่เซตแรกคือ “เซตสุกี้ยากี้เนื้อ 3 ซามูไร” (ราคา 1,150 บาท) เพราะต้องการลองว่ารสชาติของเนื้อแต่ละชนิดนั้นเป็นอย่างไร และถูกปากแบบไหน โดยเราเลือกซุปชาบูน้ำใสเพื่อให้รับรสที่แท้จริงของเนื้อค่ะ เวลาทานจะเริ่มจาก วากิว A4, วากิว F1 และ SAKAE signature ตามลำดับ
อยากจะบอกว่า “การแกว่งเนื้อ” ก็สำคัญ ควรแกว่งในน้ำซุปอุ่นๆ ไม่เกิน 10 วินาที ให้เนื้อสุกแค่ 80% ค่อยๆ แกว่งไปทานไปทีละชิ้นจะเพิ่มความอร่อยแบบทวีคูณค่ะ สามารถใส่ผักลงในหม้อเพื่อเพิ่มความหวานของซุปได้ตามชอบ
ความอร่อยของเนื้อแต่ละชนิดนั้น “เนื้อวากิว A4” สันคอเนื้อนุ่มแทบจะละลายในปาก ลายเนื้อละเอียดสวยงาม มีไขมันแทรกคล้ายหินอ่อน, “เนื้อวากิว F1” สันคอเนื้อนุ่มที่มีความหนึบนิดๆ มีมันแทรกมากขึ้น รสเข้มข้น (ตัว F1 จะเป็นเนื้อของวัวลูกครึ่งระหว่าง วากิวญี่ปุ่นแท้กับวัวนมญี่ปุ่นพื้นบ้านพันธุ์ดี) ส่วน “เนื้อ SAKAE signature” เนื้อส่วนสันคอรสเข้มกลมกล่อม หนึบเด้งเคี้ยวเพลิน คอลลาเจนสูง
หลังจากที่ทาน “เซตสุกี้ยากี้เนื้อ 3 ซามูไร” เพื่อชิมว่าเนื้อชนิดไหนเป็นอย่างไรแล้ว ทางทีมงานซอกแซกก็ตกลงกันว่าจะเลือกชิม “เซตเนื้อวากิว A4” กันต่อ โดยสั่งเพิ่มเฉพาะเนื้อเพียงอย่างเดียวแต่คราวนี้ลองทานเป็นสุกี้ยากี้ (ชาบูน้ำดำ) กันบ้าง แกว่งเนื้อให้สุก 80% ตักขึ้นจิ้มไข่ดิบ อร่อยฟินละลายในปาก เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้วค่ะ
สำหรับราคาของเซทต่างๆ นั้น “เซตเนื้อวากิว A4” นั้นอยู่ที่ 1,400 บาท, “เซตเนื้อวากิว F1” นั้นอยู่ที่ 1,100 บาท, และ “เซตเนื้อ SAKAE signature” นั้นอยู่ที่ 900 บาท
ส่วนคนที่ไม่ทานเนื้อก็อร่อยได้ โดยสั่ง “เซตเนื้อหมูพรีเมียม” ราคา 490 บาท ก็จะได้เครื่องเคียงทุกอย่างเหมือนเซตเนื้อ และแค่ลวกหมูจนสุกก็จะได้หมูนุ่มๆ อร่อยมากค่ะ
จะไม่พูดถึงอาหารเคียงที่เสิร์ฟมาด้วยนั้นก็ไม่ได้นะคะ อย่างเมนู “สลัดมะเขือเทศ” ที่เสิร์ฟในจานเย็นเจี๊ยบ ทานแล้วสดชื่นมากค่ะ มะเขือเทศเนื้อแน่น เม็ดน้อย หวานกรอบอร่อย
“เต้าหู้โกมะ” เป็นเต้าหู้โฮมเมดสูตรเฉพาะที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกวัน โดยใช้งาบดผสมน้ำเต้าหู้สด ใช้เวลาเซทตัว 6-8 ชั่วโมง ท้อปปิ้งด้วยไข่กุ้งและวาซาบิ เนื้อเต้าหู้เด้งดึ๋งคล้ายพุดดิ้งเลยค่ะ
“ชุดผัก” ประกอบด้วยผักนานาชนิด อาทิ ผักกาดหอม ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิ รากบัว เต้าหู้ขาว และเส้นบุกแท้ 100% ไม่ผสมแป้งซึ่งนำเข้าจากเมือง “คุซุอิริ”
ส่วน “อุด้ง” เป็นเส้นสดนำเข้าจาก “เมืองอุนะนิวะ” ที่ขึ้นชื่อในการทำอุด้งของญี่ปุ่น วิธีการทำคือนวดด้วยมือ จึงทำให้เส้นนุ่มเด้ง อร่อยมากค่ะ
ของหวานเป็นไอศกรีม “Yuzu sorbet” รสเปรี้ยวเสิร์ฟจานเย็น เวลาทานแนะนำให้ทานควบคู่กันกับ Hunny jelly ที่มีรสหวาน จะอร่อยเข้ากันแบบสุดๆ เป็นการปิดท้ายมื้ออาหารที่เพอร์เฟคมากค่ะ
อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่าร้าน “SAKAE (ซาคาเอะ)” นี้ใส่ใจในทุกรายละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุดิบ เรื่องรสชาติของอาหารที่ต้องอร่อยและประทับใจผู้ทานแล้วนั้น
การบริการต่างๆ ก็ใส่ใจไม่แพ้กัน อาทิ มีที่วางกระเป๋าด้านล่างเก้าอี้สตูลไม้โอ๊ค, วาง Alcohol pad สำหรับฆ่าเชื้อก่อนรับประทานอาหาร, การจัดวางจานชามต่างๆ อย่างเป๊ะๆ เป็นพิมพ์เดียวกันทุกที่นั่ง, ผ้าเย็นอบกลิ่นตะไคร้, ใช้จานเย็นในการเสิร์ฟเพื่อให้อาหารรสชาติดี, การสังเกตสีชาเขียวแล้วเปลี่ยนแก้วให้ใหม่เพื่อให้ได้รสชาติที่ยอดเยี่ยม, เปลี่ยนถุงมือก่อนเสิร์ฟและเก็บภาชนะ, การเปลี่ยนผ้าเย็นก่อนเริ่มทานของหวาน ทุกสิ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจ รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังค่ะ
สามารถสัมผัสรสชาติ และประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของชาบู-ชาบู และสุกี้ญี่ปุ่น ได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น “SAKAE (ซาคาเอะ)” ชั้น 2 โครงการ เดอะ พาร์ค ไลฟ์ ถนนพระราม 4 (แยกคลองเตย) เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 11.00-21.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0967748121
a_U_m แคลอรี่ลั้นลา