ในขณะที่บ้านเรามีแต่ความวุ่นวายทางการเมือง ประท้วงโน่นประท้วงนี่ เรียกร้องเรื่องโน้นเรื่องนี้ อ่านข่าวแล้วก็ใจห่อเหี่ยวอยู่แทบทุกวันนั้นพอดีผมอ่านข่าวเจอข่าวไม่ใหญ่ไม่เล็กนัก ในหน้าเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์หลายฉบับระบุตรงกันว่า วันนี้ (26 พ.ย.) จะมีพิธีเปิดงานยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า “แกรนด์ โอเพนนิ่ง” ของห้าง เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

ถือเป็นข่าวดีๆ ข่าวหนึ่งที่สมควรแก่การหยิบยกมาเขียนให้กำลังใจทั้งแก่เจ้าของห้างที่กล้าลงทุน และเพื่อความเบิกบานของคนไทยเราที่จะมีสถานที่ตากแอร์ และเดินเล่นเพิ่มขึ้น

ถ้าท่านผู้อ่านพอจะจำได้ ผมเคยเขียนถึงนักลงทุนใหญ่ในบ้านเราหลายๆ ราย เมื่อปีที่แล้วเป็นเชิงขอบคุณที่พวกเขาทั้งหลายยังมีใจสู้ ยังพร้อมที่จะลงทุนและดำเนินกิจการของเขาต่อไป แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของโลก จะไม่สู้ดีนัก หลังเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และส่งผลกระทบมาถึงหญ้าแพรก อย่างเราด้วย

กลุ่ม “เดอะมอลล์” โดยคุณ ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหารฯ เป็นคนหนึ่งที่ผมเขียนถึงหลังจากที่เธอออกมาแถลงข่าวด้วยตนเอง ว่าจะเดินหน้าโครงการใหญ่ๆ ของกลุ่มต่อไป ไม่ว่าจะเป็นที่ย่านพร้อมพงศ์ สุขุมวิท กับโครงการ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” โดยจะก่อสร้างอีกห้างขึ้นมาเสริม “เอ็มโพเรียม”+“เอ็มควอเทียร์” ที่มีอยู่แล้ว

ตามด้วยโครงการ “แบงค็อกมอลล์” ที่บางนา ซึ่งจะเป็นศูนย์บันเทิงใหญ่เบิ้ม จัดแสดงคอนเสิร์ตชนิดจุคนได้เป็นหมื่นๆ คน

รวมทั้งการ “รีโนเวต” ห้าง เดอะมอลล์ ต่างๆ ทั่วกรุง ซึ่งสร้างมานานแล้ว อายุอานามเกิน 30 ปี ถ้าเป็นสตรีก็เทียบได้กับ “สาวใหญ่” ต้องร้องเพลง “30 ยังแจ๋ว” ของ ยอดรัก สลักใจ แล้วทั้งสิ้น

คุณศุภลักษณ์เธอก็ย้ำว่าจะปรับปรุงห้างเหล่านี้ทีละห้าง 2 ห้าง แบบผ่าตัดทั้งตัว เพื่อให้กลับมาเป็นสาวสวย แบบเอ๊าะๆ อีกครั้งหนึ่ง

เธอตั้งงบไว้ประมาณ 20,000 ล้านบาทไทย ในงานผ่าตัดปรับปรุงทุกๆ เดอะมอลล์

ทั้งหมดนี้คือ ถ้อยแถลงก่อนเหตุการณ์ “โควิด-19” ไวรัสมหาภัยจะระบาดทั่วโลก รวมทั้งบ้านเราด้วยนะครับ

ผมก็นึกว่าเมื่อเจ้าโควิด-19 ออกมาอาละวาดจนเศรษฐกิจทรุดฮวบลงกว่าเดิมเสียอีกนั้น ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป คงจะถอดใจ

ที่ไหนได้…คุณศุภลักษณ์และน้องๆ ของเธอยังเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะโครงการผ่าตัดทำสาวห้าง “เดอะมอลล์” รุ่นเดอะทั้งหลาย

ทั้งปรับทั้งปรุงทั้งเปลี่ยน แม้แต่ “โลโก้” ก็เปลี่ยนด้วย คือ จากตัวอักษร “เอ็ม” มีลวดลายเหมือนกระดาษห่อของขวัญในอดีต กลายเป็นตัวอักษร “เอ็ม” หรือ M ตัวยักษ์ตัวเดียวโดดๆ สีแดงเจิดจ้า

แถมยังเปลี่ยน “ลุค” ภายในทั้งหมดตามที่คุณศุภลักษณ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะต้องทำให้ห้างเดอะมอลล์ เปรียบเสมือน “บ้านที่ 2” ที่ทุกคนอยากจะไปใช้ชีวิตในยามที่มีเวลาว่าง

ภายใต้แนวคิดที่เธอให้คำจำกัดความว่า “A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE” หรือแปลเป็นไทยอย่างอ้อมๆ ได้ความหมายว่า…“ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว”

ดังนั้น เธอจึงเติมคำว่า “ไลฟ์” ลงไปในชื่อเรียกขานสำหรับห้างที่ปรับปรุงใหม่นี้ด้วย…ส่งผลให้ห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานแห่งนี้ได้ชื่อใหม่อย่างมีชีวิตชีวาว่า “เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน”

ใช้เงินไปทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท จากงบรวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท ที่คุณ ศุภลักษณ์ อัมพุช เคยแถลงไว้…(ผมแอบไปใช้บริการมาแล้วครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ยกนิ้วให้เลยว่าแจ๋วจริงๆ)

ผมขอขอบคุณและขอให้กำลังใจในความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของเดอะมอลล์ กรุ๊ป นะครับ…เพราะการสู้ของคุณศุภลักษณ์และน้องๆ นั้น หมายถึงการ “จ้างงาน” สำหรับพี่น้องชาวไทยอีกหลายพันชีวิต ทั้งพนักงานห้าง ตลอดจนพนักงานของบริษัท ร้านค้า หรือร้านอาหารต่างๆ ที่มาร่วมเปิดธุรกิจใน “ไลฟ์สโตร์” แห่งนี้

และด้วยซุปเปอร์มาร์เกต หมายเลข 1 อย่าง “กูร์เมต์ มาร์เก็ต” ตลอดจน ศูนย์อาหาร ที่ใหญ่มากๆ ย่อมส่งผลดีไปถึงพี่น้องเกษตรกร ผู้ปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์อีกหลายๆ พันครอบครัวในชนบทไทย

ขอให้เจริญรุ่งเรืองนะครับ คนไทยจำนวนหนึ่งจะได้มีงานทำต่อไป และเศรษฐกิจของประเทศไทย จะได้เดินหน้าต่อไป.

“ซูม”