ซอกแซกสัปดาห์นี้ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน 2563 ถ้าเป็นปีปกติ ถือเป็น “วันสุกดิบ” ของเทศกาลสงกรานต์ที่จะเริ่มตั้งแต่ 13 เมษายน ไปจนถึง 15 เมษายน รวม 3 วันเต็มๆ… ซึ่งคอลัมน์นี้ก็คงจะมารับหน้าที่ชวนเที่ยวสงกรานต์ โดยหยิบยกงานสงกรานต์ที่โด่งดังสนุกสนานเป็นที่ติดอกติดใจทั้งชาวไทยและต่างประเทศ มาเขียนแนะนำ พร้อมบรรยายความหนุกหนาน ยาวเหยียดเป็นหางว่าว

แต่เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ไม่ปกติ เพราะการ ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนทั่วโลกล้มตายเหมือนใบไม้ร่วง บ้านเราแม้จะดูเบากว่าเขา แต่ก็ประมาทไม่ได้ จำเป็นต้องระวัง ต้องคุมเข้ม ต้องสร้างระยะห่างทางสังคม ต้อง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ทำให้รัฐบาลต้องประกาศยกเลิกวันหยุดในเทศกาล และสั่งห้ามมิให้จัดงานสงกรานต์ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็กทั่วประเทศไทย

ทีมงานซอกแซกเห็นด้วย 1,000 เปอร์เซ็นต์ เพราะตระหนักในมหันตภัยของเจ้าโควิด-19 จึงขออนุญาตที่จะนำประกาศล่าสุดของกระทรวงวัฒนธรรมที่ห้ามจัดงานสงกรานต์มาแจ้งซํ้าอีกครั้งหนึ่ง

มีอะไรบ้างทั้งข้อห้ามและข้อพึงปฏิบัติที่ว่านี้ เรามาดูเป็นข้อๆ ไปเลยครับ โดยเริ่มจาก ข้อห้ามก่อน ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ออกประกาศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 เมษายน แก้ไขเพิ่มเติมประกาศเมื่อวันที่ 1 เมษายน มีข้อห้าม 4 ประการดังนี้

1.งดเว้นการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ 2.งดเว้นการเดินทางกลับภูมิลำเนา 3.งดเว้นการรดนํ้าขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณี และ 4.งดเว้นเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก หรือการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโดยเด็ดขาด

นี่คือ 4 ข้อ 4 ประการ ที่กระทรวงวัฒนธรรม ห้ามพวกเราชาวไทยปฏิบัติ ซึ่งก็เป็นข้อห้ามที่มีเหตุผลทุกข้อรวมทั้งห้ามรดนํ้าขอพรญาติผู้ใหญ่ ทุกกรณีก็เนื่องจากการรดนํ้าขอพรต้องเข้าใกล้ตัวผู้ใหญ่ อาจจะแพร่เชื้อให้ผู้ใหญ่ได้ และก็อย่างที่ทราบ ผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุจะมีอัตราเสี่ยงในการ เสียชีวิตมากกว่าคนหนุ่มสาวหรือวัยกลางคน

ทีนี้ลองมาดูข้อพึงปฏิบัติกันบ้าง ก็มีข้อแนะนำที่แสดงถึงการยึดมั่นและสานต่อประเพณีสงกรานต์อันดีงามของไทยเราให้ยั่งยืนสืบไป โดยดัดแปลงและประยุกต์ให้เข้ากับสถานการณ์ไวรัสระบาดและเครื่องมือทันสมัยไฮเทคต่างๆ ที่แพร่หลายไปจนทั่วประเทศไทยแล้วในปัจจุบัน

ได้แก่ 1.สรงนํ้าพระพุทธรูปที่บ้าน 2.การแสดงความกตัญญูและขอพรต่อพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ให้แสดงออกด้วยวิธีกราบไหว้ และขอพรโดยเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สมาชิกครอบครัวทุกคน ต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยด้วย

และ 3.สำหรับญาติผู้ใหญ่ที่อยู่ไกลกันให้แสดงออกผ่านช่องทาง โทรศัพท์ หรือ สื่อออนไลน์ ต่างๆ เห็นด้วยทุกประการครับ และขออนุญาตนำมาเรียนยํ้าแก่ท่านผู้อ่านทั้งในส่วนของข้อห้ามและข้อพึงปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะข้อพึงปฏิบัติว่าด้วยการแสดงออก ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ นั้น เชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยจะปฏิบัติกันอย่างท่วมท้นแน่นอนในปีนี้

ฉะนั้น ขอฝากให้ช่วยคิด “สติกเกอร์” ที่เป็นสัญลักษณ์ของการ “ขอพร” “ให้พร” “รดนํ้าดำหัว” และ “สาดนํ้า” “ฉีดนํ้า” ให้ด้วยนะครับ เพราะคงจะมีการเล่น สงกรานต์ออนไลน์ กันอย่างมากในปีนี้

ใครจะเปิดเว็บไซต์ชวนนักเลงคีย์บอร์ดมาร่วมสนุกกับสงกรานต์เทียม หรือจะเล่นผ่านเฟซบุ๊ก, ไลน์, อินสตาแกรม, ทวิตเตอร์ ทั้งเปิด สาธารณะหรือเล่นเฉพาะกลุ่มก็เชิญตามสะดวก

สนุกกับสงกรานต์ออนไลน์ปี 2563 แก้ขัดไปก่อนนะครับ ไว้ปีหน้าฟ้าใหม่ 2564 โควิด-19 สลายตัวแล้วค่อยมาสนุกกับของจริงต่อไป

ก่อนจบซอกแซกสัปดาห์นี้เป็นธรรมเนียมของเราทุกครั้งที่เขียนถึงสงกรานต์จะต้องนำ ประกาศสงกรานต์ ของแต่ละปีมาสรุปส่งท้ายอยู่เสมอ ฉะนั้น เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีของคอลัมน์นี้ ก็ขออนุญาตลงประกาศสงกรานต์ 2563 ทิ้งท้ายเช่นเคย

ฝ่ายโหรพราหมณ์กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้มีประกาศสงกรานต์ไว้ดังนี้…ปีนี้เป็น ปีชวด (เทวดาผู้ชาย ธาตุนํ้า) โทศก จุลศักราช 1382 ทางจันทรคติเป็นอธิกวาร ทางสุริยคติเป็นอธิกสุรทิน วันที่ 13 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติตรงกับวันแรม 6 คํ่า เดือน 5 เวลา 29 นาฬิกา 48 นาที

นางสงกรานต์ทรงนามว่า “โคราคะเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดาหาร ภักษาหาร นํ้ามัน พระหัตถ์ขวาทรงธนูหรือไม้เท้า พระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์ เสด็จไสยาสน์ลืมเนตร มาเหนือหลังพยัคฆะเป็นพาหนะ

วันที่ 16 เมษายน เวลา 09 นาฬิกา 24 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1382 ปีนี้วันพฤหัสบดีเป็นธงชัย วันอาทิตย์เป็นอธิบดี วันพุธเป็นอุบาทว์ วันอังคารเป็นโลกาวินาศ วันศุกร์เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 250 ห่า นาคให้นํ้า 1 ตัว

เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 0 ชื่อปาปะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 1 ส่วน เสีย 9 ส่วน มหาชนร้อนใจด้วยอาหาร แล เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีวาโย (ลม) นํ้าน้อย

ดูคำทำนายส่งท้ายแล้วก็ใจหายที่บอกว่า ข้าวกล้าในนาจะได้ผลน้อย ซึ่งตรงกับข้อเท็จจริงเรื่องความแห้งแล้งที่กำลังเกิดขึ้น อันจะทำให้ประชาชนหรือมหาชนร้อนใจด้วยเรื่องอาหาร และปากท้อง ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูงมาก ก็ขอให้รัฐบาลจับตาดูด้วยนะครับ อย่าให้เกิดปัญหาข้าวยาก หมากแพง เป็นอันขาด

หมากแพงยังพอทน แต่ถ้าข้าวแพงมาซํ้าเติมหลังโควิด-19 ละก็ ประชาชนเดือดร้อนหนักแน่ๆ กระทรวงพาณิชย์อย่าลืมเตรียมตัวล่วงหน้าด้วยล่ะ…เมืองไทยเสียอย่าง แม้ไม่เชื่อ คำทำนายก็อย่าลบหลู่นะครับ…เดี๋ยวจะว่าไม่บอก!

“ซูม”