นอกจากข่าวไวรัสมหาภัย “โควิด-19” และข่าวการเมืองที่ร้อนแรงทั้งนอกสภาฯและในสภาฯแล้ว ข่าวสำคัญอีกข่าวหนึ่งที่หนังสือพิมพ์เกาะติดมาหลายวันก็เห็นจะได้แก่ข่าวฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กลับมาอาละวาดอีกระลอกหนึ่งนั่นเอง
มีทั้งในเขต กทม. และปริมณฑลไปจนถึงจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับใน กทม.และปริมณฑลขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ของวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ ปรากฏว่าสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 วัดช่วงบ่าย 3 โมง ไม่มีจุดไหนในจำนวน 65 จุด ที่เขาตั้งเครื่องวัดผ่านเกณฑ์เลยครับ
เพราะเป็น “สีส้ม” ซึ่งแปลว่า เริ่มมีผลกระทบ ต่อสุขภาพถึง 61 จุด และเป็น “สีแดง” ซึ่งมีความหมายว่า มีผลกระทบ ต่อสุขภาพ รวมทั้งสิ้น 4 จุด
ไม่มี “สีเหลือง” ที่แปลว่า คุณภาพปานกลาง หรือ “สีเขียว” ที่แปลว่า คุณภาพดี และ “สีฟ้า” ที่แปลว่า คุณภาพดีมาก แม้สักจุดเดียว
ใครเดินทางออกจากบ้านไปทำธุระปะปังอะไรที่ไหนยามนี้โปรดสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดนะครับ
กระสุนนัดเดียวยิงนกได้ 2 ตัว หรือใช้หน้ากากชิ้นเดียวป้องกันได้ 2 เรื่อง คือทั้งฝุ่นพิษ PM2.5 และไวรัส โควิด-19 ไปพร้อมๆ กัน
สำหรับสาเหตุนั้นก็น่าจะมาจากควันรถยนต์ และจากการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งเมื่อไม่มีลมพัดหรือฟ้าไม่เปิดควันและฝุ่นเหล่านั้นก็เลยกระจายฟุ้งอยู่รอบๆ กทม.และปริมณฑล ดังที่ผู้สันทัดกรณีอธิบายไว้
ไหนว่ารัฐบาลจะหาหนทางป้องกันแก้ไขผ่อนหนักเป็นเบา รวมทั้งจะมีมาตรการต่างๆออกมามากมาย…ไม่ทราบว่า ทำกันไปถึงไหนแล้ว?
สงสัยจะไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้าละมังครับ 2-3 วันมานี้ถึงได้กลับมาเป็นสีส้ม สีแดง กันอีกหน
ก็ถือโอกาสทวงสัญญาเสียในวันนี้เลย…ใครบอกเราว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไม่ทำจริง ระวังเน้อ…เดี๋ยวจะโดนฟ้าดินลงโทษบรรดาลให้ฝุ่นพิษท่วมทำเนียบ ท่วมกระทรวง หายใจไม่ออกกันทั้งทำเนียบและ ทั้งกระทรวงที่เกี่ยวข้อง…กันบ้างละ
ในส่วนของต่างจังหวัดก็มีข่าวทุกวันเช่นกัน ผมลองเปิดแอปของกรมควบคุมมลพิษดู พบว่าภาคเหนือวันนี้สีส้มเกือบทุกจังหวัด มีเหลืองแซมอยู่ 2-3 จังหวัด และหนักสุดคือ แม่ฮ่องสอน แดงแจ๊ดเลยทีเดียว
ภาคอีสานเขารายงานไม่กี่จังหวัด ส่วนใหญ่ยังดีอยู่ เป็นสีเหลือง และมีสีส้มสลับบ้าง ที่ อ.เมืองนครราชสีมา
ภาคกลางและภาคตะวันตก สีส้มเป็นส่วนใหญ่ มีสีแดงอ่อนๆ ที่ ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี ส่วนที่นครนายก บริเวณโรงเรียนเตรียมทหาร ไม่มีรายงานในแอปนี้
ภาคตะวันออกสีแดงเถือกเยอะเลยครับ มีทั้งที่ปราจีน ที่ระยอง โดยเฉพาะระยองแดงเกือบทุกอำเภอก็ว่าได้
ชื่นใจที่สุดก็คือ ภาคใต้ สีฟ้าสดใส แปลว่าดีมาก ทุกจังหวัดไม่มีสีอื่นๆมาเจือปนเลยครับ
สำหรับสาเหตุหลักของ PM.25 ในต่างจังหวัดก็มาจากการเผาป่า เผาไร่นั่นเอง มีรายงานว่า ยังคงเผาที่นั่นที่นี่อยู่เสมอ
แม้จะรู้ว่าผิดกฎหมาย และโดนเจ้าหน้าที่จับกุมอยู่เนืองๆ ก็ยังมีการลักลอบเผากันอยู่นั่นเอง
ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณ วราวุธ ศิลปอาชา ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นการเตือนหรือการขู่คาดโทษว่า ไฟป่าส่วนใหญ่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ ทั้งเจตนาเพื่อทำมาหากิน หรือเจตนาแอบแฝงอื่นๆ แต่ไม่ว่าเจตนาใดการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น
ท่านสั่งการไปแล้วให้เจ้าหน้าที่ของท่านจับจริงปรับจริง ดำเนินคดีจริง โดยไม่ไว้หน้าและไม่ใช่เฉพาะตาสีตาสาเท่านั้น จะเป็นนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลคนไหน หากจับได้ว่าเผาป่าท่านจะจัดการทั้งหมด
ต้องเอาจริงเอาจังแบบนี้แหละครับ ถึงจะเอาอยู่ รวมทั้งต้องเร่งสร้างจิตสำนึกอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้คนไทยลดการเผาป่าลงให้จงได้
ลุยเต็มที่เลยครับ ท่านรัฐมนตรี!
“ซูม”