นับถอยหลังจากวันนี้ไปอีกเพียง 3 วันเท่านั้น มหกรรมกีฬาบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีสันและความยิ่งใหญ่อลังการ “การแข่งขันบอลลูนนานาชาติ” ครั้งที่ 5 ก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้งที่จังหวัดเชียงราย
ภายใต้ชื่องาน “สิงห์ปาร์คเชียงราย อินเตอร์เนชั่นแนล วาเลนไทน์ บอลลูน เฟียสต้า 2020” จัดโดยบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ และสิงห์ปาร์คเชียงราย ระหว่างวันที่ 12-16 กุมภาพันธ์นี้
ในการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสของบริษัทบุญรอดฯ รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ เปิดเผยว่า จะมีบอลลูนรวมทั้งสิ้น 33 ลูก จาก 13 ประเทศมาร่วมแข่งขันมากที่สุดเท่าที่มีการจัดการแข่งขันบอลลูนในอาเซียน ทำให้สนามสิงห์ปาร์ค เชียงราย ยังคงรักษาความยิ่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของการแข่งขันบอลลูนในระดับอาเซียนไว้ได้อีกครั้ง
จุดเด่นของการแข่งขันยังคงเน้นการบังคับบอลลูนให้ใกล้ชิดผู้ชมมากที่สุด โดยจะขึ้นจาก บริเวณริมทะเลสาบของสิงห์ปาร์ค ระหว่าง 16.00-18.00 น. ทุกวัน และมีรางวัลรวมแล้วกว่า 500,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลให้แก่ผู้ชนะในแต่ละประเภท
สำหรับจุดเด่นอีกประการหนึ่งที่ประทับใจชาวเชียงราย และนักท่องเที่ยวนับแสนคนที่หลั่งไหลไปสู่จังหวัดเชียงราย มาโดยตลอด ได้แก่การแสดง แสง สี เสียง ที่เรียกว่า “บอลลูนเมจิกไนท์โกลว์” ในภาคกลางคืน โดยลูกบอลลูนลักษณะต่างๆ และสีสันต่างๆ ท่ามกลางแสงไฟอันสวยสดงดงาม ซึ่งในปีนี้ก็ยังคงยืนการแสดงชุดนี้ไว้ พร้อมกับเพิ่มเติมลูกบอลลูนและสีสันให้มากขึ้น
ส่วนไฮไลต์ของงานที่ถือเป็นสัญลักษณ์ เพราะงานนี้จัดขึ้นในช่วงเทศกาล “วาเลนไทน์” มาโดยตลอด และถือเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งเติมเทศกาลแห่งความรัก ให้แก่จังหวัดเชียงราย นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกเป็นต้นมา ได้แก่ กิจกรรม “บอกรัก” และ “จดทะเบียนลอยฟ้า” ในเช้าตรู่ของ “วันแห่งความรัก” 14 กุมภาพันธ์
ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ทางสิงห์ปาร์คเชียงราย ได้จัดเตรียมบอลลูนพิเศษไว้แล้วถึง 20 ลูก ที่จะนำคู่รักที่ได้รับการคัดเลือกไว้แล้วขึ้นไปบอกรัก และจดทะเบียนสมรสเหนือท้องฟ้าเชียงราย ในช่วงเช้าเช่นเคย
จากการเปิดเผย ของรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฯ รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ ทำให้ทราบว่า “คู่รัก” ที่เป็นคนดังที่จะขึ้นไปจดทะเบียนสมรสเหนือท้องฟ้าเชียงราย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ได้แก่ นักแสดงหนุ่ม “ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท” กับ “แอน-วริษฐา หล่อโลหการ” เป็นคู่แรกตามมาด้วย อดิศร พรหมรักษ์ ปราการหลังทีมชาติไทยและสโมสรเอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด กับแฟนสาว ณัชชา ขุนณรงค์ เป็นคู่ที่สอง
ส่วนคู่อื่นๆ จะมีใครอีกนั้นคงต้องลุ้นในวันวาเลนไทน์ที่จะถึง เพราะเท่าที่ผ่านมา นอกจากคู่รักที่มีชื่อเสียงระดับชาติแล้ว ก็จะมีคู่รักที่มีชื่อเสียงระดับภาคและจังหวัด มาร่วมด้วยอีกหลายๆ คู่
ไม่เพียงแต่การแข่งขันบอลลูนและการแสดงแสงสีเสียง โดยกองทัพบอลลูนดังที่รายงานไว้แล้วในตอนต้นเท่านั้น เพื่อให้งานใหญ่งานนี้เป็นที่ประทับใจนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมาจากต่างแดน โดยเฉพาะยุโรปจะมามากกว่าชาติอื่นๆ คณะกรรมการจัดงานยังเตรียมการแสดง “ศิลปะวัฒนธรรมไทย” มาสู่เวทีกลางแจ้งริมสระน้ำอันสวยงาม ถึง 2 วัน ได้แก่ 14-15 กุมภาพันธ์ ระหว่าง 18.00-19.00 น.
นั่นก็คือการแสดง โขนกลางแปลง แบบเต็มคณะเรื่องรามเกียรติ์ ตอน “อินทรชิต แผลงศรพรหมมาศ” ใช้ผู้แสดงถึงกว่า 100 ชีวิต จากกลุ่ม ศิลปินวังหน้า ต้นกำเนิดของ วิทยาลัยนาฏศิลป์ อันโด่งดังจากกรุงเทพมหานคร
ไม่เพียงแต่จะโชว์การร่ายรำและการพากย์ตามสไตล์โขนกลางแปลง แต่โบราณกาลเท่านั้น พอแดดร่มลมตกเข้าใต้เข้าไฟแล้ว ก็จะนำเทคนิคทันสมัยและอุปกรณ์แสงสีเสียงมาแต่งเติมเพิ่มรสชาติ ให้ประทับใจมากขึ้นไปอีก
ในส่วนของความบันเทิงประจำคืน ซึ่งจะมีเวทีใหญ่จัดการแสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่คืนแรกถึงคืนสุดท้าย ก็เป็นอีกไฮไลต์หนึ่งของบอลลูนเฟียสต้า ที่ชาวเชียงรายรอคอย
เพราะจะมีนักร้องดังและวงดังผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีแสดงอาทิ มนโมนิค-แว่นใหญ่, บอย-พีซ เมคเกอร์, Jazz SPKK, เก็ตสึโนวา, มีน, แสตมป์, พอส, อีทีซี, อะตอม, ว่าน, ลุล่า, โอ๊ต ปราโมทย์ และ นิว-จิ๋ว เป็นต้น
สำหรับการเข้าชมมหกรรมบอลลูน และความบันเทิงต่างๆ ทั้งหมดนี้จะต้องเสียค่าผ่านประตู 150 บาทต่อคนต่อวัน แต่ทั้งบริษัทบุญรอดฯ และสิงห์ปาร์ค เชียงราย ผู้จัดก็มิได้นำไปเข้าพกเข้าห่อแต่อย่างใด รวมทั้งมิได้หักค่าใช้จ่ายด้วย โดยจะนำรายได้ทั้งหมดเข้าสู่กองทุนการศึกษาเพื่อมอบให้แก่เด็กๆ และนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของจังหวัดในภายหลัง
ทุกๆ ปีที่ผ่านมาจะมีประชาชนชาวเชียงราย และจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะจาก กทม. รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศไปร่วมงานจำนวนมาก เพราะนอกจากจะมุ่งไปร่วมงานมหกรรมบอลลูนที่สิงห์ปาร์คแล้วยังถือโอกาสไปท่องเที่ยวรอบๆ จังหวัดเชียงรายได้อีกด้วย
แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเช่น อำเภอเชียงแสน กับความงามริมฝั่งแม่น้ำโขง, อำเภอแม่สาย เหนือสุดของสยามกับถ้ำขุนน้ำนางนอนและสารพันแหล่งท่องเที่ยวอำเภอแม่ฟ้าหลวง อันเป็นที่ตั้งของ พระตำหนักดอยตุง สัญลักษณ์แห่งความผูกพันระหว่างเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินไทยกับอาณา ประชาราษฎร์ผู้ยากไร้แห่งขุนเขาพระธาตุดอยตุง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากพระตำหนัก-ดอยแม่สลอง ที่ตั้งแห่งกองพล 93-มาจนถึง อำเภอเมือง ซึ่งมีทั้ง วัดร่องขุ่น-วัดร่องเสือเต้น-วัดพระแก้วเชียงราย-ถนนคนเดิน ยามแดดร่มลมตกบริเวณหอนาฬิกาใจกลางเมือง ฯลฯ และ ฯลฯ (แปลว่ายังมีอีกมาก) ล้วนน่าไปเยือนทั้งสิ้น
ทีมงานซอกแซกขอทำหน้าที่แทนท่านหัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงราย เชิญชวนท่านผู้อ่านไปเยือนจังหวัดเชียงราย ไม่เฉพาะแต่งานเทศกาล “บอลลูน เฟียสต้า 2020” เท่านั้น–ว่างเมื่อไรก็ไปได้เมื่อนั้นละครับจังหวัดนี้…ไปแล้วจะลืมไม่ลง ต้องมีครั้ง 2 ครั้ง 3 ตามมาอย่างแน่นอน.
“ซูม”