กลับไทยแลนด์แล้วครับ ก่อนไต้ฝุ่น “ลูก 20” ถึงญี่ปุ่น

ผมกลับมานั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ที่เมืองไทยเราเรียบร้อยแล้วนะครับ หลังจากไปกินๆ นอนๆ และเดินๆ ตระเวนญี่ปุ่นอยู่ 15 วันเต็มๆ ไปถึงโตเกียวเช้าตรู่วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม อยู่จนถึงคํ่า วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมค่อยขึ้นการบินไทยกลับบ้านถึง 4 ทุ่มเศษๆ ของวันเดียวกัน

รวมแล้วอยู่ที่โน่น 15 วันเต็มๆ ถือเป็นการไปญี่ปุ่นและอยู่ญี่ปุ่นยาวนานที่สุดของผม เพราะที่ผ่านๆ มามักจะไปแค่ 7-8 วันเท่านั้น

ไปเที่ยวนี้ผมแบ่งเวลาออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรกอยู่กับลูกๆ ซึ่งมีหลานไปด้วย 2 คน เที่ยวกันอยู่แต่ในโตเกียว

เก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยชอบไปเที่ยวมาได้เกือบหมด อาทิ ฮาโกเน, ดิสนีย์แลนด์, ซีพาราไดซ์ โยโกฮามา, สวนสัตว์อูเอโนะ, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อูเอโนะ, วัดอาซากูสะ, ตลาดปลาซึกิจิ ฯลฯ

ส่วนช่วงที่สองผมรอสมทบกับกลุ่มเพื่อนฝูงคนรู้ใจ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ (และส่วนมากก็อาวุโสแล้ว) ออกไปนอนอาบนํ้าแร่ที่แหลม “อีซุ” ห่างจากโตเกียวทางทิศตะวันตกประมาณ 150 กิโลเมตร อยู่ 2 วัน

ตระเวนเที่ยวในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่า อีโกะ เวลาหิวก็แวะรับประทานอาหารในร้านท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล แกล้มสาเก โอทอปที่พรรคพวกบอกว่าอร่อย และดีกรีอ่อนกว่าสาเกทั่วๆ ไป

จากนั้นก็กลับมาที่โตเกียวอีก 3 วันปักหลักอยู่แถวๆ กินซ่า

เจอฝนตลอด 3-4 วันหลัง อุณหภูมิลดลงมาเหลือ 18-19 องศาเซลเซียส ถือว่าเย็นสบายๆ สวมเสื้อกันหนาวธรรมดาๆ ตัวเดียว ถือร่ม 1 คัน ออกไปเดินเล่นได้สบายมาก

คำถามแรกที่ญาติมิตรในเมืองไทยถามผมเมื่อกลับถึงบ้านก็คือ ตื่นเต้นไหม? น่ากลัวไหม? เมื่อวันซุปเปอร์ไต้ฝุ่น ฮากิบิส เข้าถล่มญี่ปุ่น

ผมก็ตอบไปอย่างที่เขียนเล่ามาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันแล้วน่ะแหละว่า ทั้งตื่นเต้น ทั้งระทึกใจมาก ก่อนที่ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นจะมาถึง

แต่พอวันไต้ฝุ่นมาจริงๆ ที่โตเกียว แทบไม่มีอะไรเลย ผมกับหลานๆ นั่งลุ้นอยู่ที่ห้องพัก แอบเปิดม่านหน้าต่างดูท้องถนนหน้าบ้าน เห็นต้นไม้โอนไปโอนมาอยู่พักเดียว

มีรายงานว่าตอนฮากิบิสจะผ่านโตเกียว ลดความเร็วและความแรงลงไปมาก อาจเป็นเพราะมีภูเขาลูกใหญ่ๆ มาช่วยปะทะเอาไว้อย่างที่สำนักข่าวต่างประเทศสันนิษฐาน

หรือไม่ก็เป็นเพราะแรงภาวนาของพวกเราที่อยู่ในญี่ปุ่น (โดยเฉพาะผมวันละ 3 เวลาก่อนพายุจะมา 2 วันเต็มๆ) ประกอบกับพี่น้องชาวไทยในบ้านเราที่นั่งดูทีวีรายงานสด ส่งใจไปช่วย

ทำให้พวกเราที่อยู่ในโตเกียวแคล้วคลาด และแทบไม่รู้เลยว่าพิษสงของไต้ฝุ่นฮากิบิสเป็นอย่างไรบ้าง

หลังจาก ฮากิบิส ซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 19 ที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกปีนี้ผ่านไปแล้ว ก็มีลูกที่ 20 ชื่อ นอกูรี เข้ามาอีก น่าจะมาถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่น ในวันอังคารที่ 22 ต.ค. (วันนี้) คาดว่าจะไม่มีอะไรรุนแรงมากนัก นอกจากจะทำให้ฝนตกหนักในบางจุดของประเทศ

ส่วนไต้ฝุ่นลูกที่ 21 ของปีนี้ ชื่อเป็นภาษาไทยเสียด้วยคือ ไต้ฝุ่น “บัวลอย” ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อหลายวันก่อนจะเข้าญี่ปุ่นอีกลูก และน่าจะถึงในวันที่ 24 ตุลาคม แม้จากการพยากรณ์จะไม่หนักเท่า ฮากิบิส แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็สั่งเตรียมตัวรับมืออย่างเต็มที่ด้วยความไม่ประมาท

กล่าวกันว่าในแต่ละปีจะมีพายุไต้ฝุ่นที่เกิดในแปซิฟิกพัดเข้าญี่ปุ่นโดยตรง 2-3 ลูก และเฉียดๆ อีก 7-8 ลูก รวมแล้วประมาณ 10-11 ลูกโดยเฉลี่ย

ทำให้คนญี่ปุ่นคุ้นเคยกับความดุร้ายของไต้ฝุ่นและตั้งรับสถานการณ์อย่างสงบดังตัวอย่างที่เห็นในเหตุการณ์ “ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น” ครั้งนี้

ก็ได้แต่หวังว่าทั้ง 2 ลูกที่จะมาใหม่ รวมทั้ง “บัวลอย” คงจะไม่ทำให้ญี่ปุ่นบอบช้ำไปกว่านี้อีก…ขอส่งใจไปช่วยนะครับ

ผมขอจบรายงานจากโตเกียวเพียงเท่านี้นะครับ จากนี้ไปขอกลับเข้าสู่รายงานตามปกติว่าด้วยเหตุการณ์ในประเทศไทยของเราต่อไปตามเดิม

ประเทศไทยโชคดีเจอแต่หางๆ ไต้ฝุ่นไม่เดือดร้อนหนักเท่าเขา แต่เราก็โชคร้ายตรงที่นักการเมืองทะเลาะกันแทบทุกวันทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนพอๆกับเจอไต้ฝุ่นเหมือนกัน

อะไรไม่อะไร ญี่ปุ่นเจอไต้ฝุ่นโดยตรงปีละ 2-3 ลูก แต่ของเราเจอภัยจากนักการเมืองทะเลาะกันปีละหลายสิบเรื่อง ไม่รู้ความเสียหาย ของใครจะมากกว่ากัน?

“ซูม”