“อะลาดิน” นิทานที่เราคุ้นเคยกับเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เก็บตะเกียงวิเศษได้ พอถูตะเกียงก็จะมียักษ์โผล่ออกมาและสามารถขอพรได้ 3 ข้อ ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นภาพยนตร์มากมายหลายครั้ง
ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผลงานแอนิเมชั่นของ “ดิสนีย์” เมื่อปี 1992 ที่ทำให้ ”อะลาดิน” “เจ้าหญิงจัสมิน” และบทเพลง “The Whole New World” เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
เวลาผ่านไป 27 ปี “ดิสนี่ย์” ได้นำเอากลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง คราวนี้ใช้คนแสดงจริงๆ บวกกับการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก เข้ามาช่วยทำให้เก็บรายละเอียดของแต่ละซีนได้สมจริงมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความเป็นการ์ตูน มีจินตนาการ มีความสนุก สดใส สไตล์ดิสนี่ย์ ที่ไม่ทิ้งจากเวอร์ชั่นเดิม
ส่วนนักแสดงหลักทั้งพระเอกนางเอกก็แสดงได้ดี เต้นได้ ร้องได้ ส่วน “วิลล์ สมิธ” ที่รับบทเป็น “จีนี่” คือใช่เลยผมว่าไม่มีใครเหมาะสมเท่าเขาแล้ว และเป็นตัวเอกของเรื่องอย่างแท้จริง
สิ่งที่สำคัญสุดของหนังสไตล์ดิสนี่ย์คือเรื่อง “เพลง” ที่ยังเพราะอยู่เสมอมา โดยเฉพาะ “A Whole new world” เพลงเอกของเรื่อง ที่ยังคงความเป็นอมตะนิรันดร์การ ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปี
นอกจากนี้ในหนังยังแทรกคติสอนใจคนดู ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน เรื่องการโกหก และเรื่องคนที่มีจิตใจดีไม่ว่าภายนอกจะเปลี่ยนเป็นอย่างไร แต่ความดีภายในนั้นยังคงเหมือนเดิม ซึ่งสามารถทำให้น้ำตาซึมได้
ในฐานะคนที่เคยดูมาทั้ง 2 เวอร์ชั่นตั้งแต่เมื่อ 27 ปีที่แล้ว ผมให้ 10 เต็มเลยครับในสำหรับ “อะลาดิน” เวอร์ชั่น 2019 ของดิสนี่ย์ ขอบอกเลยว่าเป็นหนังที่ผู้ใหญ่ดูได้เด็กดูดี และมีซีนประทับใจมากมาย ใครที่ยังไม่ได้ไปดูก็รีบๆ เลยนะครับ
ซูม จูเนียร์