สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ “ส่งท้าย” ศูนย์ฯ สิริกิติ์

อย่างที่คุณหมอของกรมสุขภาพจิตกระทรวงสาธารณสุขท่านเคยแถลงข่าวเตือนเอาไว้แหละครับว่าอย่าหมกมุ่นกับเรื่องการเมืองหรือข่าวการเมืองมากนัก เดี๋ยวจะเป็นโรคเครียดกันซะเปล่าๆ

เพราะฉะนั้น วันนี้เรามาหลบข่าวการเมืองเรื่องเลือกตั้งไปเที่ยวงานให้สบายอกสบายใจกันสักงานกันดีกว่า ผมรับรองว่าไปงานนี้แล้วไม่มีเครียดอย่างแน่นอน

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 17 ไงครับ “ทูอินวัน” 2 งานอยู่ในงานเดียวกันที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และจะปิดฉากรูดม่านในวันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน อีก 4 วันข้างหน้านี้แล้วละครับ

ผมไปมาเรียบร้อยแล้วครับ ขออนุญาตเชิญชวนท่านผู้อ่านที่รัก หนังสือและรักการอ่านที่ยังมิได้ไปโปรดอย่าได้ชักช้าเป็นอันขาด

เหตุที่ต้องย้ำว่าอย่าชักช้าก็เพราะกลัวว่าท่านผู้อ่านจะพลาดโอกาสน่ะซีครับ…พลาดงานปีนี้แล้วไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนจะได้ไปเที่ยวงานหนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์กันอีก เพราะเขาจะปิดศูนย์ฯ เตรียมตัวก่อสร้างใหม่ ยาวนานถึง 3 ปีเป็นอย่างน้อย

แน่นอนละ งานหนังสือจะยังคงมีอยู่ เพราะทาง สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวไว้แล้วว่า งานหน้า มหกรรมหนังสือระดับชาติ ประมาณเดือนตุลาคมนั้นจะไปจัดที่ อิมแพค เมืองทองธานี

แต่ผมว่างานหนังสือที่ลงตัวที่สุดไปเที่ยวแล้วได้อารมณ์ ได้ความรู้สึกที่ดีที่สุดและมากที่สุดต้องเป็นงานหนังสือที่จัดขึ้นที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ครับ

ยังไม่มีใครรู้ว่า โฉมหน้าใหม่ของศูนย์การประชุมแห่งนี้จะเป็น อย่างไร? เพราะจากข่าวคราวที่เราได้ยินก็เพียงว่าจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงเกือบ 4 เท่า ใช้เงินก่อสร้างถึง 6,000 ล้านบาท แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากไปกว่านี้

ที่สำคัญ สร้างเสร็จแล้วงานหนังสือจะได้กลับมาจัดที่ศูนย์นี้อีกหรือไม่ก็ไม่รู้?…เอาละ ถึงจะกลับมาบรรยากาศก็คงไม่เหมือนเก่าแน่นอน

เพราะฉะนั้น ท่านที่ต้องการเก็บเกี่ยวความรู้สึกเดิมๆ เอาไว้อย่างครบถ้วน โปรดอย่าลืมไปเที่ยวงานสัปดาห์หนังสือสั่งลาศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ “เจ้าเก่า” ด้วยล่ะ

เรื่องราวของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โดยตรงผมคงจะต้องหาโอกาสเขียนถึงสักวันหนึ่งเร็วๆ นี้ เพราะผมเองโดยส่วนตัวก็ มีความหลังอยู่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์พอสมควรอยากจะบันทึกเอาไว้เหมือนกัน

แต่สำหรับวันนี้เรามาว่ากันถึงบรรยากาศของงานหนังสือในปีนี้กันก่อน ซึ่งผมขอเรียนว่า ในภาพรวมๆ แล้วก็ยังเหมือนเดิมนั่นเอง

นิทรรศการยังคงมีอยู่ แต่เปลี่ยนเรื่องราวไปตามเหตุการณ์ โดยเฉพาะคราวนี้จะมีนิทรรศการเรื่อง “6 ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง” เล่าประวัติความเป็นมาของสมาคมผู้จัดจำหน่ายฯ และการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ ก็มีนิทรรศการ “วิวัฒนาการหนังสือไทย” และนิทรรศการ “ยลดอยตุง เยือนเชียงตุง” แนะนำหนังสือพระราชนิพนธ์เล่มใหม่ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฯลฯ

สำหรับการประชุมการบรรยายการเสวนาสัมมนาเปิดตัวหนังสือยังคงมีเพียบเหมือนเช่นเคย จัดในห้องประชุมเดิมและเวทีเดิมนั่นแหละครับ

โดยเฉพาะสำนักพิมพ์ใหญ่อย่าง นานมีบุ๊คส์, สยามอินเตอร์, มติชน, นายอินทร์, แจ่มใส ฯลฯ ยังอยู่ที่เดิมทั้งสิ้น

ผู้คนแน่นใช้ได้เลยครับ ผมไปตอน 1 ทุ่ม วันเสาร์ที่แล้วเต็มทุกพื้นที่ และสำนักพิมพ์ใหญ่ คนเข้าแถวคิวยาวทุกสำนัก

ไม่เหมือนเดิมอยู่อย่างเดียว และทำให้ผมใจหายมาก คือ บริการส่งหนังสือภายใน 24 ชั่วโมง ไม่ใช่บริษัท ไปรษณีย์ไทย สีแดง เจ้าเก่าที่ผมเขียนชื่นชมมาหลายปีเสียแล้ว

กลายเป็น Kerry สีส้ม เจ้าใหม่ที่เขาลือกันว่ามาแรงไปซะนี่

เกิดอะไรขึ้นกับ ไปรษณีย์ไทย ครับ

หรือจะเป็นเพราะต้องระดมกำลังไปช่วยขนบัตรเลือกตั้งกันซะหมด บริษัทไปรษณีย์ไทยเลยไม่มาให้บริการงานหนังสือเหมือนเคย

ขออนุญาตทิ้งท้ายสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2562 ด้วยความน้อยใจประสากองเชียร์ไปรษณีย์ไทยเอาไว้อย่างนี้แหละครับ.

“ซูม”