ออนเซนเข็นกระเป๋า “ฉลองวาเลนไทน์บนบอลลูน ณ สิงปาร์ค เชียงราย”

ทริปนี้ครอบครัวเรายกทีมกันมาร่วมงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย อินเตอร์เนชั่นแนล บอลลูน เฟียสต้า 2019” ที่สิงห์ปาร์ค จ. เชียงรายอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากเคยมาแล้วประทับใจในบรรยากาศของงานเป็นอย่างมาก

พอได้รับเชิญจากทางบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จํากัด ก็รีบตอบรับและเคลียร์ทุกสิ่งอย่าง พร้อมเดินทางในทันที

ซึ่งในทริปนี้เราไม่ได้ไปเพียงแค่งานบอลลูนนะคะ แต่เรายังไปตามรอย “หมูป่า” และ ไปสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายๆ ที่ ซึ่งจะนำมาเล่าให้ฟังในตอนต่อๆ ไปนะคะ

เริ่มต้นวันด้วยฟาร์มทัวร์แบบเอ็กคลูซีฟ คือการนั่งรถกอล์ฟทัวร์ “ไร่สิงห์” จนทั่ว ซึ่งปกติฟาร์มทัวร์ก็จะนั่งรถกันไปเป็นหมู่คณะ ไปดูด้วยเวลาที่จำกัด แต่ข้อดีของการนั่งรถกอล์ฟคือ สามารถจอดพักระหว่างทางได้ตลอด จะถ่ายรูปจุดไหนนานเป็นพิเศษก็ทำได้

บัตรฟาร์มทัวร์ ผู้ใหญ่ราคา 100 บาท เด็ก 50 บาท (สูงน้อยกว่า 80 ซม. เข้าฟรี) ค่าบริการรถกอล์ฟ 1,500 บาท สำหรับ 2 ชั่วโมง เปิดให้เข้าชมเป็นรอบๆ ตั้งแต่ 9:30 – 14:00 น. (ปิดเร็วเฉพาะในช่วงงานบอลลูนค่ะ)

โดยเงินค่าเข้าชมจะนำไปบริจาค สร้างอาคารอเนกประสงค์พุทธมณฑลสมโภช 750 ปี และเติมสุขโครงการอาหารกลางวัน 20 โรงเรียนใน จังหวัดเชียงรายอีกด้วย

จุดแรกในการแวะก็คือ “สถานีชมหงส์” ชมความสวยงามของหงส์ขาวริมทะเลสาบ พร้อมให้อาหารปลายี่สก มีทุ่งดอกคอสมอสเล็กๆ อยู่ด้านข้างด้วยค่ะ

จากนั้นแวะถ่ายภาพกับทุ่งข้าวบาร์เลย์ก่อนจะไปยัง “สถานีไร่ชาอู่หลง” ที่จุดนี้ออนเซนแปลงร่างเป็นสาวชาวดอยไปเก็บใบชาในไร่ พร้อมชมภูเขาทุ่งดอกคอสมอสที่สวยงามใกล้ผาหิน

หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่ “สถานีถังเช่า” ชมและชิมชาเห็ดถั่งเช่า ซึ่งสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร เด็ก และคนเป็นโรคหัวใจ ไม่แนะนำให้ชิมนะคะ

สุดท้ายคือ “สถานีชมชีวิตสัตว์” อาทิ วัววาตูซี่ ยีราฟ ม้าลาย และม้าน้อยโพนี่ ณ จุดนี้ไม่อนุญาตให้ป้อนอาหารสัตว์ค่ะ แต่ก็มีกิจกรรมสำหรับเด็กที่ใครๆ ก็ต้องติดใจ นั่นคือ กิจกรรมขี่ม้าโพนี่ โดยแต่งชุดคาวบอยถ่ายรูป ราคา 50 บาท ถ้าแต่งชุด+ขี่ม้า ราคา 150 บาท

ออนเซนไม่รอช้า รีบใส่ชุดเป็นคาวเกิร์ล ขึ้นควบม้ารอบบริเวณ โดยขอหยุดถ่ายรูปในมุมต่างๆ ที่เราชอบได้ค่ะ จากนั้นก็แปรงขนม้าให้พี่จิมมี่เป็นรางวัล ระหว่างแปรงขนม้าคุณแม่เหลือบไปเห็นหมวกอินเดียนแดง เลยทราบว่าสามารถใส่ชุดอินเดียนแดงถ่ายภาพได้อีกด้วย ออนเซนมีหรือที่จะพลาด รีบแปลงร่างอีกครั้งในทันที พอจบจากทัวร์ฟาร์มก็หม่ำสตอเบอรี่สดที่ซื้อจากร้านกาแฟหน้าไร่อย่างเอร็ดอร่อยค่ะ

หลังจากทัวร์ฟาร์มเมื่อกลางวันจนจบภายในเวลาร่วม 2 ชั่วโมง เราก็นั่งรถเที่ยมชมในตัวเมืองเชียงรายเบาๆ รอเวลามาร่วมงานเทศกาลบอลลูนนานาชาติ “สิงห์ปาร์ค เชียงราย อินเตอร์เนชั่นแนล บอลลูน เฟียสต้า 2019” ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย ในช่วงเย็นอีกครั้ง

เราแวะไปยังจุดชมวิวร้านภูภิรมย์ มองวิวไร่สิงห์แบบ 360 องศา เป็นช่วงที่บอลลูนกำลังขึ้นแข่งขันกันอยู่พอดี จึงมีบอลลูนให้มองโดยรอบ บรรยากาศสวยมากค่ะ เราเลือกทานมื้อค่ำพร้อมชมวิวตะวันตกดินที่นี่ แนะนำให้เข้าไปนั่งในร้านราว 17:30 น. แดดร่มกำลังดี และทันเห็นพระอาทิตย์ตกค่ะ ซึ่งอาหารอร่อยมื้อนี้ราคาหลักพันแต่วิวหลักล้าน คุ้มค่าสุดๆ อย่าลืมโทรจองโต๊ะล่วงหน้าด้วยนะคะ

หลังจากอิ่มท้องเรียบร้อยก็ไปลงที่ริมทะเลสาบสิงปาร์ค เชียงราย เพื่อเข้างานบอลลูน ซึ่งมีตั๋วจำหน่ายหน้างาน โดยตั๋วรายวันราคา 100 บาท หรือมีจัดแพ็คเกจ 5 วัน ราคา 400 บาทอีกด้วย สำหรับออนเซนแฟนพันธุ์แท้งานบอลลูนคือชอบมาก เพราะเที่ยวงานบอลลูนวันเดียวไม่เคยพอ กิจกรรมในงานแน่นมาก ต้องขอมาหลายรอบหน่อยค่ะ

พอเข้างานมาเราก็รีบไปต่อแถวเพื่อรอคิวขึ้นบอลลูนกันค่ะ เพียงซื้อสินค้าภายในบูธสิงห์ครบ 200 บาท (ต่อคน) ก็ได้คูปองแล้วค่ะ แต่ไปหลายคนก็ต้องซื้อเยอะหน่อยนะคะ ระหว่างรอคิวก็ชมการแสดงแสงสีเสียงของ “Balloon Magic Night Glow” ซึ่งจัดแสดงเวลา 20:00 – 21:00 น. ของทุกคืนช่วงเทศกาลบอลลูน

การขึ้นบอลลูนครั้งนี้เป็นแบบผูกเชือกไว้ที่ความสูงราวตึก 4 ชั้น ไม่ได้ลอยไปยังจุดอื่น แต่สำหรับคนที่สนใจจะขึ้นแบบลอยไปลงที่อื่น สนนราคาคนละ 6,800 บาท สามารถติดต่อที่เจ้าหน้าที่ได้ค่ะ

บอลลูนที่เราจะขึ้นเป็นลูกเล็ก เปิดให้ขึ้นคราวละ 2-3 คน ครอบครัวเรามาทีมใหญ่เลยแบ่งกันขึ้น กระเช้าละ 3 คน ออนเซนเป็นผู้กล้านำทีมพาคุณพ่อและคุณปู่ไปก่อนเลยค่ะ ส่วนน้องโอโซนหลับอยู่ รอขึ้นทีหลังพร้อมกับคุณแม่และคุณย่าค่ะ

ตอนจะขึ้นมีทริคง่ายๆ ใช้หลักการถ่ายน้ำหนัก คือ เข้ากระเช้า 1 คน แล้วออกจากกระเช้า 1 คน สลับกัน เพราะถ้ารอให้คนออกจากกระเช้าจนหมด บอลลูนเบาขึ้นก็จะลอยยกตัวสูงค่ะ คนที่จะขึ้นบอลลูนได้ควรจะมีแรงปีนนิดนึงนะคะ เพราะต้องเหยียบเก้าอี้แล้วก้าวข้ามเข้าไปในกระเช้า ส่วนจังหวะออกจากกระเช้าค่อนข้างสูงราว 150 ซ.ม. ก็เหยียบร่องกระเช้าแล้วถีบตัวปีนออกมาค่ะ

คุณแม่เล่าว่าตอน 2 ขวบ คุณพ่อวางออนเซนไว้บนถังแก๊สสำรองในกระเช้ามุมหนึ่งระหว่างขึ้นบอลลูน มาคราวนี้เลยเตรียมเป้อุ้มเด็กมาให้น้องโอโซนโดยเฉพาะ

ในงานบอลลูนยังมีกิจกรรมอื่นอีกค่ะ อาทิ Game zone, Art street และงานพื้นบ้านชาวไทยภูเขา 9 เผ่า ออนเซนเล็งจะขึ้นโล้ชิงช้าชาวเขา แต่แขนสั้นไปนิดเลยอดค่ะ

อย่างที่บอกค่ะว่าวันเดียวเที่ยวงานบอลลูนไม่หมด เพราะนอกจากจะมาดูบอลลูนแล้ว ในแต่ละวันก็ยังมีคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดังมากมาย รวมไปถึงช่วงกลางของงานก็จะมีการแสดง “โขนกลางแปลง” เรื่องรามเกียรติ์ ตอน “อินทรชิตแผลงศรนาคบาศ” โดยกลุ่มศิลปินวังหน้า ซึ่องออนเซนก็ตั้งใจที่จะแวะมาชมเช้นกันค่ะ

นี่เป็นเพียงแค่ที่แรกที่ออนเซนมาเที่ยว หลังจากนี้ออนเซนยังไปเที่ยวอีกหลายที่ ซึ่งจะนำมาเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะคะ

ออนเซนเข็นกระเป๋า