เทศกาลบอลลูนครั้งที่ 4 บอกรัก “บนฟ้า” เชียงราย

ผ่านเทศกาลตรุษจีนตามประเพณีจีนไปเรียบร้อยแล้วก็มาถึงเทศกาลวาเลนไทน์ตามธรรมเนียมฝรั่งแต่ฮิตไปทั่วโลกกลายเป็นที่นิยม และยอมรับของทุกชาติทุกภาษาในขณะนี้

14 กุมภาพันธ์ของทุกปี คือ วันวาเลนไทน์ และปีนี้จะตรงกับวันพฤหัสบดีที่จะถึงแล้วนะครับอีก 4 วันเท่านั้นเอง

เมื่อวานนี้ คอลัมน์ “เสาร์สารพัน” เขียนแนะนำงานฉลองวาเลนไทน์ไปบ้างแล้ว โดยเฉพาะตามศูนย์การค้าซึ่งมีจัดกันหลายแห่งหลายที่

วันนี้เป็นคิวของ “ซอกแซก” ขออนุญาตแนะนำงานใหญ่ที่จัดมาแล้ว 3 ครั้ง ดังทั้ง 3 ครา และครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ก็น่าจะฮือฮาไม่แพ้กัน

นั่นก็คือ “เทศกาลบอลลูนนานาชาติ ครั้งที่ 4” ที่ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย เทศกาลบอลลูนนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการจัดขึ้นในประเทศ

งานจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป จนถึงวันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ รวม 5 วัน 5 คืน เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

เป้าประสงค์หลักของงานนี้ นอกจากจะเชื้อเชิญนักแข่งบอลลูนระดับโลกให้นำบอลลูนชื่อดังของแต่ละชาติมาร่วมแข่งขัน ทั้งประเภทสวยงาม และประเภทความเร็วความสูง และการเดินทางต่างๆ ตามกติกาแล้ว

เนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งความรัก สิงห์ปาร์คเชียงรายผู้จัด จึงกำหนดให้เป็นวันพิเศษและถือเป็น “ไฮไลต์” ประการหนึ่งของงานโดยจะมีกิจกรรม “บอลลูนเลิฟ…บอกรักบนฟ้า” เชิญคู่รักหวานแหววจากวงการต่างๆ ขึ้นตะโกนบอกรักและจดทะเบียนสมรสบนท้องฟ้าถึง 20 คู่ รวมบอลลูน 20 ลูก ลอยล่องไปเหนือบริเวณสิงห์ปาร์คและขุนเขาอันสวยงามของจังหวัดเชียงราย

กิจกรรม “Balloon Love” กลายเป็นข่าวใหญ่ เป็นที่โจษขานไกลถึงต่างประเทศมาโดยตลอด ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาจังหวัดเชียงรายเจาะจงที่จะมาในวันนี้ เพื่อไปชมขบวนบอลลูนแห่งความรักที่จะลอยล่องเหนือท้องฟ้าเชียงรายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์

และจะไปจองที่นั่งดู ยืนดู ที่สิงห์ปาร์คกันตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งคาดว่าปีนี้ก็คงจะหนาแน่นไปด้วยกองเชียร์ หรือสักขีพยานกิตติมศักดิ์สำหรับคู่แต่งงานทั้ง 20 คู่อีกปีหนึ่ง

ในส่วนของ เทศกาลบอลลูน นั้น เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ปีนี้จะมีร่วมงานทั้งสิ้น 13 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย, บราซิล, ยูเครน, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, เมียนมา, ลัตเวีย, เกาหลีใต้, เวียดนาม และไทย ในฐานะเจ้าภาพ

รวมทั้งสิ้นเกือบ 40 ลูก ซึ่งจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าท่ามกลางลมหนาวที่ยังไม่จางเท่าไรนักรอบสิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย มองแต่ไกลจะเหมือน “ลูกโป่งสวรรค์ยักษ์” หลากสีลอยเรียงรายกันอยู่

กิจกรรมบอลลูนนานาชาติจะเริ่มตั้งแต่ 16.00-17.00 น. ทุกวัน โดยจะมีทั้งการประกวดประขันชิงรางวัลกว่า 500,000 บาท และร่วมกันแสดง “บอลลูนแสงสีเสียง” ประกอบเพลงกระหึ่มท้องทุ่งที่เรียกว่า Ballon Magic Night Glow ระหว่าง 20.00-21.00 น. ทุกคืน

ทีมงานซอกแซกเคยแหวกฝูงชนหลายหมื่นคนที่ไปร่วมชมบอลลูนภาคกลางคืนมาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ยังประทับใจในสีสันต่างๆ ของบอลลูนยักษ์กลางอากาศยามค่ำคืนมาจนถึงวันนี้

สำหรับกิจกรรมพิเศษปีนี้จะมีการแสดงโขนกลางแปลง เรื่อง “รามเกียรติ์” ตอน “อินทรชิต แผลงศรนาคบาศ” โดยนักแสดงจากกลุ่มศิลปินวังหน้ากว่า 100 ชีวิต ซึ่งจะใช้เทคนิคและอุปกรณ์แสงสีเสียงมาช่วยเสริมให้การแสดงยิ่งใหญ่อลังการเพิ่มขึ้น

จะมีเพียง 2 วันเท่านั้นคือ 15 กับ 16 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00-19.00 น. ณ บริเวณริมทะเลสาบอันสวยงาม

ฝ่ายประชาสัมพันธ์แจ้งมาด้วยว่า สำหรับปีนี้จะยังคงมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินเพลงโด่งดัง ทั้งลูกทุ่งลูกกรุง สตริง และเพื่อชีวิต เช่นเดียวกับทุกๆ ปี อาทิ เจสซี่ เมฆวัฒนา, บิว-จรูญวิทย์, กระแต อาร์สยาม, จินตหรา พูนลาภ, ปู-พงษ์สิทธิ์, ฮิวโก้, สิงโต นำโชค, ปาล์มมี่, นูโว, โพลี-แคท, บุรินทร์ ฯลฯ ใครแสดงวันไหนบ้างคงต้องไปดูชมกันเอาเอง

สำหรับ สิงห์-ปาร์คเชียงราย นั้น เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เป็นของบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ที่ไปสร้างไว้ที่ริมถนน 1211 หรือถนนสายเด่นหล้า-ดงมะคะ ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร ขนาดเนื้อที่ 8,000 ไร่ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

ภายในปาร์คจะมีไร่และสวนต่างๆ ให้ชมไปตลอด มีทั้งผักผลไม้ไทยและเทศ รวมทั้งดอกไม้นานาพันธุ์และไร่ชาอู่หลง รวมทั้งสระนํ้าที่มีหงส์แหวกว่ายไม่ตํ่ากว่า 50 ตัว อยู่ตลอดเวลา จะเที่ยวให้ทั่วและฟังคำบรรยายด้วยควรจะนั่งรถฟาร์มทัวร์ในราคา 50 บาท ตระเวนไปรอบๆ เปิดบริการตั้งแต่ 08.30-17.00 น.

จุดที่ไม่ควรพลาดจุดหนึ่งของสิงห์ปาร์ค ยกให้ ร้านอาหารภูภิรมย์ ซึ่งอยู่บนเนินเขาสามารถชมวิวทิวทัศน์ไร่ชาสีเขียวในหุบเขา ตลอดจนขุนเขาหลายๆ ลูกที่เปรียบเสมือนภาพวาดเป็นฉากอยู่ด้านล่าง

ไปเที่ยวงาน “เทศกาลบอลลูนนานาชาติ ครั้งที่ 4” ระหว่าง 13-17 ก.พ.นี้ จึงไม่ควรแค่ดูบอลลูนอย่างเดียวเท่านั้น อยากให้ไปเร็วๆ หน่อย เพื่อนั่งรถเวียนวนดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ สิงห์ปาร์คด้วย…เพราะเชียงรายอยู่ไกลไปทั้งทีต้องตักตวงให้คุ้ม ว่างั้นเถอะครับ…

“ซูม”