พูดน้อยลง/คิดมากขึ้น ประเทศไทยจะไปอีกไกล

หัวข้อเรื่องที่ผมจะเขียนวันนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเทศกาลตรุษจีนกับงานสำคัญงานหนึ่งที่สภาวิจัยกำลังจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ในขณะนี้

ในส่วนของตรุษจีนท่านผู้อ่านคงทราบแล้วว่าวันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 5 กุมภาพันธ์) นั้นจะตรงกับวัน “ชิวอิ้ด” หรือวันขึ้นปีใหม่ของปฏิทินจีน

คนจีนให้ความสำคัญมาก เรียกกันว่า “วันถือ”…เพราะจะเป็นวันที่คนจีนระมัดระวังในเรื่องการพูดจา และการปฏิบัติตนตลอดทั้งวัน

จะไม่มีใครพูดเรื่องร้ายๆ หรือการใช้คำหยาบคำกร้านเลย พูดแต่เรื่องดีๆ ทั้งสิ้น

เพราะเขาเชื่อกันว่าการพูดถึงแต่เรื่องดีๆ ในวันพรุ่งนี้จะทำให้ชีวิตของเขาในปีใหม่นี้มีแต่เรื่องดีๆ เป็น “ชีวิตดี๊ดี” เหมือนชื่อรายการดังรายการหนึ่งของช่อง 3

ในขณะเดียวกัน เขาก็เชื่อด้วยเช่นกันว่า การพูดถึงเรื่องไม่ดี ก็จะนำความอัปมงคลมาให้ตลอดปีที่จะมาถึง

ผมก็เลยได้ความคิดขึ้นว่า ควรจะนำวิถีปฏิบัติในวันตรุษจีน เช่นนี้ ของพี่น้องชาวจีนมาแนะนำให้คนไทยเราลองปฏิบัติกันบ้าง และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะขอให้ปฏิบัติกันไปอย่างถาวรจนเป็นอุปนิสัย

เพราะที่ผ่านมานั้น คนไทยเราเป็นคนช่างพูด และพูดกันเยอะเหลือเกิน พูดได้ร้อยแปดเรื่องในแต่ละวันที่ผ่านไป

ที่น่ากังวลก็ตรงที่เรามักจะพูดถึงแต่เรื่องไม่ค่อยดี ใช้คำพูดไม่ค่อยดีท้าต่อยท้าตีเหน็บแนมแกมประชดกันแทบทุกเรื่อง

ยิ่งนักการเมืองด้วยแล้ว พอเอ่ยปากออกมาก็ต้องตีวัวกระทบคราด สาดคำพูดไปถึงฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามหนักบ้างเบาบ้างมาโดยตลอด

นักการเมืองไทยจึงยากที่จะปรองดอง เมื่อแบ่งข้างแบ่งฝ่ายแล้วจะแบ่งไปตลอด เพราะต่างก็ยังเจ็บใจและยากจะลืมถ้อยคำด่าทอ

ผมจึงอยากจะขอร้องให้นักการเมืองทั้งหลายเหล่านี้หันมาพูดจาให้น้อยลง พูดเท่าที่จำเป็น พูดอย่างเป็นสาระและพูดกันในเรื่องดีๆ ใช้ถ้อยคำดีๆ ฟังแล้วจิตใจชุ่มชื้นเกิดความรักความนิยมซึ่งกันและกัน

ถ้าเป็นไปได้ขอให้เริ่มต้นเสียตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ตามธรรมเนียมของคนจีนไปเสียเลย ขอให้นักการเมืองทั้งหลายหันมาใช้คำพูดดีๆ คำพูดที่เป็นสิริมงคล และถ้าไม่จำเป็นก็อย่าพูดอะไรมากนัก

ตามหัวข้อแรกที่ผมตั้งไว้ข้างบนคอลัมน์วันนี้ว่า “พูด (ให้) น้อยลง” นั่นแหละครับ

สำหรับหัวข้อหลังที่ผมใช้คำว่า “คิด (ให้) มากขึ้น” ก็มาจากงานสำคัญงานหนึ่งของ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ผมยังเรียกว่า สภาวิจัยแห่งชาติ ติดปากตามชื่อเก่าของสำนักงานนี้

ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา สำนักงานนี้ได้จัดงานใหญ่ที่เรียกว่างาน “วันนักประดิษฐ์ประจำปี 2562” ขึ้นที่อีเวนต์ ฮอลล์ 102-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

งานจะมีไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ หรือวันพุธนี้เท่านั้น จึงอยากจะเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านไปเที่ยวงานนี้ไปดูชมความพยายามของคนไทย และไปให้กำลังใจแก่นักวิจัย นักประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ…เพราะเขาเปิดให้ดูฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และถ้าไปด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็จะสะดวกมาก

ถ้าจะว่าไปก็งานนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมอยากจะเชิญชวนให้คนไทยเราคิดให้มากขึ้น หรือใช้สมองในการคิดค้นเรื่องต่างๆ มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราจะคิดกันน้อยมาก

งบวิจัยของเราก็น้อย ความคิดอยากจะทำวิจัยก็น้อย เราจึงไม่ค่อยมีผลผลิตหรือนวัตกรรมใหม่ๆอะไรออกมามากนัก

ผมจึงตัดสินใจเขียนถึงงานนี้เพื่อเชิญชวนให้คนไทยเราแวะไปดูและหันมาใช้ “ความคิด” ใช้ “สมอง” เพื่องานวิจัยให้มากขึ้น

เมื่อเอาทั้ง 2 หัวข้อนี้มาประกบกันกลายเป็น “พูดน้อยลง/คิดมากขึ้น” ผมก็เชื่อว่าถ้าสังคมไทยทำได้ทั้ง 2 อย่าง ประเทศไทยของเราจะไปได้อีกไกลแน่นอน

อย่าว่าแต่ 4.0 ที่รัฐบาลปัจจุบันท่านฝันไว้เลยครับ แม้แต่ 5.0 หรือ 6.0 เราก็ไปถึงได้ครับ เราพูดน้อยลง พูดแต่เรื่องดีๆ และคิดให้มากขึ้น โดยคิดแต่เรื่องดีๆ และวิจัยในเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่สักแต่ว่าวิจัยอะไรก็ไม่รู้อย่างทุกวัน.

“ซูม”