รัสเซียกับ “ละครสัตว์” ความบันเทิงคู่ประเทศ

ก็อย่างที่หัวหน้าทีมซอกแซกเคยเกริ่นไว้แหละครับว่า ช่วงนี้บ้านเรามีงานค่อนข้างชุก เพราะย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม จะส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอยู่แล้ว จึงมักจะมีงานโน่นนี่อยู่เสมอ

หลายๆ งานก็น่าไปเที่ยวน่าไปชมเสียด้วย ทีมงานซอกแซกจึงจำเป็นต้องรีบไปดู และรีบเอามาเขียน เพราะขืนชักช้างานจะผ่านไปเสียก่อน ทำให้ต้องเบรกเรื่องท่องเที่ยวรัสเซียไปซะ 2 สัปดาห์

อาทิตย์นี้ขอกลับมาเที่ยวรัสเซียกันต่อนะครับ… ความจริงก็ใกล้จะจบแล้วล่ะ แต่ยังมีเรื่องที่มีโอกาสไปดูมา คราวนี้ และอยากจะเขียนถึงอีก 2-3 เรื่องด้วยกัน

เรื่องแรกก็คือ “ละครสัตว์รัสเซีย” นั่นแหละครับ…ท่านผู้อ่านคงจะได้ยินชื่อเสียงได้ยินผู้คนกล่าวขานถึงมาบ้างไม่มากก็น้อย

เมื่อหลายๆ ปีก่อนโน้น ในช่วงที่ “มูลนิธิไทยรัฐ” ก่อตั้งขึ้นใหม่ๆ ท่าน ผอ.กำพล วัชรพล ท่านต้องการระดมทุนเข้าสู่กองทุนมูลนิธิ จึงได้จัดการแสดงต่างๆ ขึ้น มีทั้งกายกรรมเปียยาง จากเกาหลีเหนือ และกายกรรมกวางเจา จากจีน ผลัดกันมาแสดงที่ยิมเนเซียมหัวหมาก ท่านผู้อ่านคงจะจำได้

ช่วงนั้นกิตติศัพท์ของ “ละครสัตว์รัสเซีย” โด่งดังมาก มีการพูดถึงกันทั่วโลกรวมทั้งในบ้านเรา ว่าเป็นการแสดงละครสัตว์ที่ดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ท่าน ผอ.กำพลจึงชักชวนคณะกรรมการมูลนิธิจำนวนหนึ่งบินไปดูละครสัตว์รัสเซียถึงมอสโก เพื่อเจรจาให้มาแสดงในประเทศไทยเช่นเดียวกับการแสดงของจีนหรือเกาหลีเหนือบ้าง แต่เข้าใจว่าการเดินทางของคณะละครสัตว์คงจะยากลำบากมากกว่าคณะกายกรรมธรรมดา เพราะจะต้องขนบรรดาส่ำสัตว์ต่างๆ ข้ามน้ำ ข้ามทะเลมาด้วย เป็นเรื่องอย่างลำบากอย่างมาก

ในที่สุดโครงการนำ “ละครสัตว์รัสเซีย” มาแสดงในบ้านเราก็ต้องเลิกล้มไป

ผมเองซึ่งใฝ่ฝันอยากดูอยากชมละครสัตว์รัสเซียตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยพลอยฝันสลายชวดดูละครสัตว์รัสเซียไปอย่างน่าเสียดาย

ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเดินทางไปรัสเซียงวดนี้ และทาง บริษัทชัยทัวร์ เขาจัดโปรแกรมให้พวกเราไปดูระหว่างอยู่ที่มอสโก ผมจึงตื่นเต้นมาก และในที่สุดก็ได้ดูสมใจ

โรงละครสัตว์ที่ผมไปดูตั้งอยู่ในกรุงมอสโกนั่นแหละครับ เป็นโรงเก่าแก่มาก มีชื่อเป็นภาษารัสเซีย แต่ออกเสียงเป็นภาษาอังกฤษว่า “นิคูลิน” (Nikulin Circus) สร้างคล้ายๆ ยิมเนเซียม มีอัฒจันทร์ให้นั่งดูได้โดยรอบ

คณะของผมไปถึงหน้า โรงละครสัตว์ก่อนเวลาแสดงรอบค่ำสัก 20 นาทีเห็นจะได้ ปรากฏว่ามีคนดูมายืนออเต็มไปหมดแล้ว และบ้างก็กำลังทยอยกันเดินเข้าไปข้างในโรงละคร

ที่เห็นแล้วชื่นใจก็ตรงที่ผู้ชมส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว อุ้มลูกจูงหลานส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกันอย่างสนุก และเมื่อเข้า ไปด้านในโรงละคร ซึ่งเขาจะมีระเบียงขนาดใหญ่ไว้สำหรับให้เด็กๆ ถ่ายรูปกับสัตว์เป็นที่ระลึก รวมทั้งมีการตั้งของจำหน่ายด้วย ก็ปรากฏว่ายิ่งแน่นกว่าด้านนอกเสียอีก เมื่อเด็กๆ ไปเข้าคิวถ่ายรูปยาวเหยียด และแวะซื้อของที่ระลึกโน่นนี่มือเป็นระวิง

จากระเบียงคณะของผมเดินเข้าในโรงละคร และไปได้ที่นั่ง แม้จะอยู่ด้านบนหน่อยๆ แต่ก็เห็นเวทีแสดงได้ชัดเจน รวมทั้งสามารถได้ยินเสียงการบรรเลงของวงดนตรี ซึ่งเป็นแบนด์ขนาดกลางดังกระหึ่มในระดับพอดีๆ ไม่หนวกหูจนเกินไปนัก

พอได้เวลาก็จะมีโฆษกออกมายืนประกาศใช้สุ้มเสียงแบบก้องกังวานตามสไตล์ของการประกาศตามเวทีมวยต่างๆ ของลาสเวกัส ที่เราเคยดูการถ่ายทอดสดเพียงแต่เขาใช้ภาษารัสเซียเท่านั้น

จากนั้นการแสดงก็เริ่มต้นขึ้น มีทั้งกายกรรม มีทั้งการแสดงตลก และการแสดงของส่ำสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะการแสดงชุดเสือ ซึ่งมีทั้งเสือดำ เสือโคร่ง เรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราว

เด็กๆรัสเซียชอบการแสดงตลกมากที่สุด และ “ตัวตลก” หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Clown ดูจะเป็นขวัญใจของเด็กๆ รัสเซียในค่ำคืนนี้

จริงๆ แล้วชื่อโรงละคร “นิคูลิน” ก็มาจากชื่อของ ยูริ นิคูลิน ซึ่งเคยเป็นนักแสดงตลกเก่าของโรงละครนี้ ต่อมาเขาไต่เต้าขึ้นมาเป็นถึงหัวหน้าคณะละครสัตว์อยู่ถึง 15 ปี และเมื่อเสียชีวิต ในปี 1997 แล้ว ทางคณะละครก็เปลี่ยนชื่อโรงละครเป็น “โรงละครสัตว์นิคูลิน” เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา นับแต่บัดนั้น

ถ้าจะถามว่าหัวหน้าทีมซอกแซกที่ใฝ่ฝันอยากดูละครสัตว์รัสเซียมานานมาก แล้วก็มาได้ดูในที่สุดรู้สึกอย่างไรบ้าง?

ก็คงต้องตอบว่า ยินดีที่ได้มาดูได้มาเห็น ถือเป็นประสบการณ์อีกประการหนึ่งของชีวิต

แต่ก็อาจเป็นเพราะจากวันโน้นมาถึงวันนี้ หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปเห็นโน่นเห็นนี่มาเยอะได้ดูทั้งกายกรรม ทั้งละครสัตว์คณะดังๆ มาก็มาก ทำให้รู้สึกว่าละครสัตว์รัสเซียเป็นของชินตาไปเสียแล้ว

อีกประการหนึ่งอาจเป็นเพราะโลกทุกวันนี้เปลี่ยนไป เริ่มมีคนรักสัตว์ออกมาต่อสู้ ออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิของสัตว์ ด้วยการกล่าวหาว่าละครสัตว์เป็นส่วนหนึ่งของการทารุณสัตว์ เพราะต้องเอาสัตว์มาฝึกหรือมาบังคับต่างๆ

หัวหน้าทีมซอกแซกโดนกล่อมหูทุกวันก็ชักเอียงๆ ไปเหมือนกัน ทำให้รู้สึกว่าดูละครสัตว์สนุกน้อยลง

ยังดีที่ของรัสเซียเขาก็มีฉากสัตว์ไม่มากนัก นอกจากฉากเสือที่ใหญ่ที่สุดแล้ว อื่นๆ จะหนักไปทางกายกรรมและการแสดงตลกเสียเยอะ

ก็พอที่จะดูแล้วมีความสุขกลับออกมาได้

อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ประวัติศาสตร์ก็คงต้องชื่นชมที่ชาวรัสเซียยังรักษาวัฒนธรรมการแสดงละครสัตว์และการดูละครสัตว์ของเขาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น

เพราะแทบจะกล่าวได้ว่าในยุคคอมมิวนิสต์นั้น รัสเซียแทบจะไม่มีความบันเทิงอะไรอื่นๆให้ดูเลย นอกเสียจากละครสัตว์

มองในมุมนี้ก็คงต้องปรบมือให้เขาที่ยังรักการดูละครสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ…และยังคงติดตามดูละครสัตว์อย่างอุ่นหนาฝาคั่งมาจนถึงยุคนี้.

“ซูม”