เอเชียนเกมส์ 2018 ส่งใจสู่ “จาการ์ตา”

นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 2561 เป็นต้นไป มหกรรมกีฬาอันยิ่งใหญ่ของชาวเอเชียจะเริ่มขึ้นอีกครั้งที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย…โดยจะมีไปจนถึงวันที่ 2 กันยายน 2561 เป็นเวลา 16 วันเต็มๆ

18 ครั้ง 18 หน แล้วนะครับที่ประเทศในเอเชียได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ขึ้น และหากนับจากปี ค.ศ.1950 หรือ 2493 ที่การแข่งขันครั้งแรกเริ่มขึ้นที่อินเดีย มาจนถึงบัดนี้ก็เป็นเวลา 68 ขวบปีเข้าไปแล้ว

เทียบกับการเป็นมนุษย์คนหนึ่งก็เท่ากับบุคคลที่อยู่ในกลุ่มผู้อาวุโสได้เวลาปลดเกษียณมานานแล้วว่าอย่างนั้นเถอะ

แต่สำหรับกีฬาเอเชียนเกมส์กลับยังแข็งแรงกระชุ่มกระชวยและพร้อมที่จะเป็นศูนย์แห่งการรวมใจของชาวเอเชียที่จะผนึกกำลังกัน โดยอาศัยการกีฬาเป็น “สื่อกลาง” แห่งความสมานฉันท์ต่อไปโดยไม่มีวันสิ้นสุด

มองจากมุมของอินโดนีเซียครั้งนี้จะเป็นการขันอาสาเป็น “เจ้าภาพ” ครั้งที่สอง หลังจากรับเป็นเจ้าภาพครั้งแรก เมื่อ พ.ศ.2505 หรือ ค.ศ.1962 ซึ่งเป็นการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 4 นับเป็นจำนวนปีถึง 56 ปี เนิ่นนานไม่น้อยเลยทีเดียว

จริงๆ แล้วเจ้าภาพครั้งนี้ควรจะเป็น เวียดนาม หรือกรุงฮานอย ที่ได้รับการคัดเลือกจากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ตั้งแต่ พ.ศ.2555 แต่เวียดนามได้ขอคืนสิทธิ์เพราะไม่สามารถจะระดมทุนมาจัดการแข่งขันได้ เมื่อ พ.ศ.2557 หากจะขลุกขลักขัดข้องอะไรกันบ้างที่อินโดนีเซียก็คงต้องให้อภัยในฐานะ “มวยแทน”

อินโดนีเซียประกาศออกมาแล้วว่า ในการแข่งขันครั้งนี้จะมีนักกีฬา 45 ชาติของเอเชีย เข้าร่วมแข่งขัน รวมทั้งสิ้นถึง 11,874 คน ใน 40 ชนิดกีฬาหลัก และ 2 กีฬาสาธิต เพื่อชิงเหรียญทองทั้งสิ้น 461 เหรียญทอง

สำหรับทัพนักกีฬาไทยไม่รวมเจ้าหน้าที่ มีข่าวถึง 2 กระแส ตอนแรกบอกจะส่ง 830 คน แต่ล่าสุดมีข่าวว่าเพิ่มเป็น 913 คน แยกเป็นชาย 467 คน และหญิง 446 คน ไม่รู้ข่าวไหนถูก?

แต่ที่แน่ๆ คือเราส่งครบทุกประเภทกีฬา และหวังว่าจะคว้าเหรียญทองไม่ต่ำกว่า 17 เหรียญ และหากมีโชคช่วยบ้าง อาจจะได้ถึง 20 เหรียญทอง

ที่ผ่านมา 5 ครั้งหลัง นับจากที่เราเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2541 หรือ 1998 สถานะและตำแหน่งบนตารางสรุปเหรียญ สำหรับประเทศไทยเราต้องถือว่าไม่ขี้เหร่จนเกินไปนัก เพราะอยู่ใน “ท็อปเทน” หรือ 10 อันดับแรกมาตลอด

ปี 2541 ที่ใช้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เป็นหมู่บ้านนักกีฬาหลัก เราได้อันดับ 4 รวม 24 เหรียญทอง…ครั้งถัดมา พ.ศ.2545 ที่ ปูซาน ได้ 14 เหรียญทอง เป็นอันดับ 6 ที่ โดฮา พ.ศ.2549 เราก็ได้ 13 ทอง เป็นอันดับ 5…มาแย่หน่อยที่ กวางเจา พ.ศ.2553 ที่ได้ 11 เหรียญทอง เป็นอันดับ 9

ล่าสุด ที่ อินชอน พ.ศ.2557 เราก็ได้ 12 เหรียญทอง อยู่ในอันดับที่ 6 ของตาราง

ดังนั้น ครั้งนี้หากได้ 17 หรือ 20 เหรียญทองก็น่าจะอยู่ในอันดับเลขตัวเดียวอย่างแน่นอน อาจจะ 5 หรือ 6 หรือ 7 ซึ่งก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วละ

แต่เนื่องจาก อินโดนีเซีย เขาเป็นเจ้าภาพ โอกาสที่เขาจะได้เหรียญทองเยอะๆ และได้มากกว่าไทย ก็เป็นไปได้สูง ซึ่งก็จะต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ และอย่าไปคิดอะไรมาก หากใน “ท็อปเทน” คราวนี้ จะมีอินโดนีเซียเข้ามาแซม

“จ่าแฉ่ง” ขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยส่งแรงใจไปช่วยนักกีฬาไทยเยอะๆ นะครับ เพราะจะมีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง “เวิร์คพอยท์” หรือช่อง 23 HD ให้ดูตลอดการแข่งขัน

ช่วยกันลุ้นให้ทัพนักกีฬาไทยของเรายังคงคว้าเหรียญทองเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียต่อไปเหมือนเดิม ขอเป็น 1 ใน 5 เลยนะครับ เอเชียนเกมส์หนนี้!

“จ่าแฉ่ง”