สัปดาห์ “มหามงคล” รัฐ-ราษฎร์จัดงานเฉลิมฯ

กล่าวได้ว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์มหามงคลโดยแท้ เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นสัปดาห์ที่จะมีวันสำคัญทางพุทธศาสนาถึง 2 วัน อันได้แก่ วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาเท่านั้น

ในวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันเข้าพรรษายังเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา ของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร อีกด้วย

รัฐบาลและภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชนต่างพร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสมหามงคลครั้งนี้ในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ลงลึกไปถึงตำบลและหมู่บ้านทั่วประเทศ

ในส่วนของรัฐบาลได้มีการจัดงานเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ณ ท้องสนามหลวง ขึ้นหลายกิจกรรม อาทิ นิทรรศการภาพกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะแสดงไปจนถึงวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม

ประกอบด้วยประวัติความเป็นมาของจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และภาพกิจกรรมจิตอาสาต่างๆที่ได้ดำเนินไปแล้วทั่วประเทศ

รวมทั้งภาพจิตอาสาในการปฏิบัติงานช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นจิตอาสาครั้งยิ่งใหญ่จากการร่วมแรงร่วมใจของผู้คนทั่วโลกก็จะมีมาแสดงด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ รัฐบาลได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุอันเก่าแก่จากหลายๆ จังหวัดของประเทศไทยมาประดิษฐาน ณ ท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชน สามารถสักการะได้อย่างพร้อมๆ กันในคราวเดียวกัน ซึ่งได้มีการแห่อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุด้วยขบวนอันยิ่งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

งานเฉลิมพระเกียรติฯ ดังกล่าวนี้จะมีไปจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน

ในส่วนของภาคเอกชนและภาคประชาชนก็มีรายงานข่าวการจัดงานบำเพ็ญประโยชน์ เช่น การทำความสะอาดที่สาธารณะ การกำจัดผักตบชวาและวัชพืช การร่วมกันบูรณะปูชนียสถาน และศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นต่างๆ

รวมถึงงานบุญ งานกุศล และงานประเพณี เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา มาบรรจบกันเป็นศุภมหามงคลที่ผมได้ทยอยเขียนรายงานไปบ้างแล้วจำนวนหนึ่ง

บนโต๊ะผมวันนี้ยังมีข่าวสารอีกชิ้นหนึ่งจากภาคประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต เพราะได้รับการอบรมสั่งสอน จากบรรพบุรุษมาหลายชั่วอายุคนให้ตอบแทนพระคุณของแผ่นดินไทยที่ให้ความสุข ความอบอุ่น และสัมมาอาชีวะแก่ตระกูลของเขา

ท่านที่ติดตามอ่านคอลัมน์นี้มาพอสมควร คงจะจำได้เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยเขียนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา “นายเงี๊ยบ” ซึ่งเป็นร้านระดับ “ชวนชิม” โดยนักชิมชื่อดังหลายๆท่าน

นายเงี๊ยบหรือที่มีชื่อไทยว่า สมชาติ สาลีพัฒนา จะเปิดร้านของเขาให้ผู้คนรับประทานก๋วยเตี๋ยวฟรีตลอดทั้งวันในวันเฉลิมพระชนม พรรษา 5 ธันวาคมของในหลวงรัชกาลที่ 9

ปีแรกที่เขาเริ่มดำเนินการก็คือ 5 ธันวาคม 2530 และได้ดำเนินการ ติดต่อกันมาตลอดในรัชสมัยของพระองค์ท่านเป็นเวลาถึง 30 ปี

นายเงี๊ยบกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ก๋ง” หรือปู่ของเขาอพยพหนีความลำบากยากแค้นมาจากเมืองจีน มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสมัยรัชกาลที่ 5 และเมื่อประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ จึงสั่งสอนลูกหลาน ให้จงรักภักดีต่อแผ่นดินไทย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยตราบชั่วชีวิต

ดังนั้น เนื่องในวาระมิ่งมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จะเวียนมาบรรจบในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ นายเงี๊ยบ สุชาติ สาลีพัฒนา และครอบครัว จึงจะยังคงเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น ของเขาให้รับประทานฟรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลดังที่ได้เคยปฏิบัติมา

เขาเขียนจดหมายมาถึงผม มีใจความว่า…“ขอเชิญท่านร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล ตั้งแต่เวลา 08.09 น. ณ ร้าน ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ สาขาพุทธมณฑล สาย 4 จากนั้นตั้งแต่ 09.09 น. จะเปิดเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวฟรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลไปจนถึงเวลา 16.09 น. มีโอกาสอย่าลืมไปถวายความจงรักภักดีร่วมกันนะครับ”

นับเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของกิจกรรมจากความจงรักภักดีของทวยราษฎร์ที่จะมีขึ้นในวันมหามงคลเสาร์ที่ 28 กรกฎาคมนี้.

“ซูม”