และแล้วก็เป็นไปตามที่กูรูและเกจิคาดหมายไว้สำหรับ “อันดับ 3” ของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ตกเป็นของ “เบลเยียม” ที่เอาชนะสิงโตคำราม “อังกฤษ” ไปได้ 2–0 ในการแข่งขันเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา

นักเตะ เบลเยียม เล่นได้ “เยี่ยม” กว่า สมควรแก่ “ชัยชนะ” และสมควรแก่ “อันดับ 3” ของโลกทุกประการ

เพียง 4 นาทีแรกเท่านั้น นาเซอร์ ชาดลีก็เปิดสวยมาหน้าประตู และก็เป็น โธมัส เมอนิเยร์ซัดเข้าประตูไป ทำให้ปิศาจแดงแห่งยุโรปขึ้นนำ 1-0

หลังจากนั้นเบลเยียมก็ยังคงโชว์ฟอร์มที่เหนือกว่าคุมเกมไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ นานๆ อังกฤษจึงจะมีโอกาสทำเกมขึ้นมาสร้างความหวาดเสียวได้บ้าง

ครึ่งหลังสิงโตคำรามโหมจะเอาคืนมีลูกเฉียดฉิวให้แฟนๆ อังกฤษได้ฮือฮาอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะไข่แดงเบลเยียมได้

กลับโดนสวนกลับในนาที 82 จาก 2 นักเตะที่ทำมาหากินในอังกฤษนั่นแหละ เควิน เดอ บรอยน์ ผ่านลูกให้ เอเด็น อาซาร์ เลี้ยงต่อเข้ากรอบโทษ ก่อนซัดตูมไม่เหลือซาก กลายเป็น 2-0 ณ นาทีนั้น

อีก 8 นาทีที่เหลือ ทีมสิงโตคำรามที่ส่ออาการเหนื่อยล้ามากกว่าเบลเยียมไม่สามารถจะรัวคืนได้ จึงต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 0-2 เป็นรอยแค้นครั้งที่ 2 ของสิงโตในฟุตบอลโลกครั้งนี้ หลังจากที่เคยแพ้เบลเยียมมาก่อน 0-1 ในรอบแรก

ทันทีที่การแข่งขันจบลง กุนซือของเบลเยียม โรเบร์โต มาร์ติเนซ ก็เปิดอกเปิดใจกับนักข่าวว่า ชาวปิศาจแดงทั้งหลายสมควรภาคภูมิใจกับความสำเร็จอันใหญ่หลวงเท่าที่เบลเยียมจะเคยทำได้ในฟุตบอลโลก

“นี่คือผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเรา…เป็นความสำเร็จที่ใหญ่หลวงของนักเตะเบลเยียมของที่ทำอันดับได้ดีที่สุดนับแต่เข้าแข่งขันฟุตบอลโลก”

“นักเตะของผมทุกคนสมควรได้รับการชมเชย พวกเขาทำให้คนทั่วไปได้ภูมิใจ…ที่สำคัญเรายังมีนักเตะที่ทำประตูกระจายกันออกไปถึง 10 คนในฟุตบอลโลกครั้งนี้…คุณว่ามันเป็นสถิติที่สำคัญไหมละครับ?”

ก่อนหน้านี้ปิศาจแดงแห่งยุโรปซัดมาแล้ว 14 ตุง โดยกระจายกันยิงประตูถึง 9 คน

คืนชิงที่ 3 พวกเขาซัดอีก 2 ตุง และ 1 ในจำนวนนี้เป็นของ โธมัส เมอนิเยร์ ซึ่งกลายเป็นนักเตะคนที่ 10 พอดิบพอดีที่ทำประตูได้ในนามของเบลเยียม สำหรับฟุตบอลโลก 2018

มันเป็นสถิติที่แสดงถึงการ “กระจายความเก่ง” ของเบลเยียม ซึ่งเป็นทีมที่ 3 ในฟุตบอลโลกที่ทำได้แบบนี้ โดยมี ฝรั่งเศส ในปี 1982 และ อิตาลี ในปี 2006 เท่านั้นที่ยิงประตูได้ถึง 10 คน ในทัวร์นาเมนต์เดียว

แล้วก็ยังมีเรื่องขำๆในเบลเยียม เมื่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้าแบรนด์ดังประจำชาติ ประกาศคืนเงินให้แก่ผู้ซื้อทีวีใหม่ เพื่อดูบอลโลกโดยเฉพาะ หาก เบลเยียม ซัลโวได้ทั้งหมด 16 ประตู

ผล เอเด็น อาซาร์ เป็นคนซัดประตู 16 ให้เบลเยียม ในนัดชิงที่ 3 ซึ่งหมายความว่า ผู้ที่ซื้อโทรทัศน์เบลเยียม (ดูเหมือนจะยี่ห้อ Krefel) จะได้เงินคืนทั้งหมด

ยินดีด้วยสำหรับแฟนๆ เบลเยียมที่โชคดีถึง 2 เด้ง ซึ่งคงจะมีจำนวนไม่น้อยที่สะใจกับเด้งที่ 1 อันได้แก่ การครองที่ 3 ของทีมปิศาจแดงยุโรป และเด้ง 2 ได้ของแถมฟรีๆ เป็นทีวี 1 เครื่อง สำหรับคนซื้อยี่ห้อนี้ไว้

ส่วนสำหรับสิงโตคำรามก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังจะต้องเรียนรู้ต่อไป

โดยเฉพาะ แฮร์รี เคน เห็นได้ชัดเลยว่าเขายัง ห่างไกลจากความเป็นอัจฉริยะ และยังยากที่จะขึ้นเทียบชั้น คริสเตียโน โรนัลโด, ลิโอเนลเมสซี หรือ เนมาร์ ในอนาคตอันใกล้

เคน อาจจะจบด้วยการคว้ารางวัล รองเท้าทองคำ เพราะ 6 ลูก ที่เขายิงได้ในบอลโลกครั้งนี้ คงยากที่จะมีใครมาแซง

แต่ 2 นัดหลังที่ไม่ว่าจะเป็นนัดแพ้ โครเอเชีย รอบตัดเชือก หรือแพ้ เบลเยียม ในคืนนี้ก็ตาม เคน ยืนไม่ถูกที่ไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย แทบจะไม่มีโอกาสสร้างความหวาดเสียวแบบจะจะแม้สักครั้งเดียวด้วยซ้ำ

สำหรับคนอื่นๆก็เช่นกันยังคงต้องเรียนรู้ ยังคงต้องไปเพาะบ่มประสบการณ์ให้มากกว่านี้

หากยังหวังผลสำเร็จที่มากกว่าในการแข่งขัน ระดับฟุตบอลโลกหรือแม้แต่ฟุตบอลยูโรก็เถอะน่า

กาเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ของทีมชาติอังกฤษยอมรับว่าเบลเยียมเป็นทีมที่เหนือกว่าและเล่นได้ดีกว่าจึงสมควรเป็นผู้ชนะในคืนนี้

“เบลเยียมเป็นทีมที่สุดยอด และมั่นใจได้ว่าจะไปได้ไกลกว่านี้อีกในอนาคต พวกเขาเก๋ากว่าและต้องยอมรับว่าเขาเล่นได้สมบูรณ์กว่าเรา”

“แต่ผมก็ต้องขอชื่นชมนักเตะของผม…ทุกคนทุ่มเทและสู้เพื่ออังกฤษอย่างเต็มที่…ผมคงไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากพวกเขาได้มากกว่านี้อีกแล้วนอกจากขอบคุณทุกๆคน”

“ไม่รู้นะการได้อันดับ 4 ที่ดูเหมือนน้อยไปหน่อยในวันนี้ แต่สำหรับทีมอังกฤษของเขา ผมว่าน่าจะเกินเป้าหมายที่ใครๆคาดล่วงหน้าก่อนฟุตบอลโลก 2018 หลายเท่า”

ก็คงจะเป็นอย่างที่ เซาธ์เกต บอกผู้สื่อข่าวนั่นแหละ อังกฤษเป็นเต็ง 7 หรือส่วนใหญ่ก็จะเต็ง 8 ของการคาดหมายก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น

เมื่อมาจบที่อันดับ 4 ก็ต้องถือว่าดีกว่าที่ทุกๆ ฝ่ายคาดหมายไว้

อีก 2 ปีมาว่ากันใหม่ในบอลยูโร และอีก 4 ปี ก็มาว่ากันใหม่ในฟุตบอลโลกคราวหน้าที่กาตาร์

สำหรับคนไทยโดยทั่วไปแล้วทีมอังกฤษยังเป็นขวัญใจเสมอและคนไทยก็จะยังท่องบ่นอยู่เสมอว่า “รักจะเชียร์อังกฤษ ต้องลืมคำว่าเสียใจ”

คือมัน “เสียใจ” ซะจน “ชินชา” แล้วว่างั้นเต๊อะ!

“จ่าแฉ่ง”