ก่อนจะชิงที่สาม

เหลือการแข่งขันอีกเพียง 2 นัดเท่านั้น “ฟุตบอลโลก 2018” ที่รัสเซียขันอาสาเป็นเจ้าภาพก็จะปิดฉากรูดม่านกล่าวคำอำลา นั่นก็คือแมตช์ของคนอกหักคู่ชิงที่ 3 ระหว่าง อังกฤษ กับ เบลเยียม ในค่ำวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม เวลา 21.00 น.

อย่าลืมติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะครับ เพราะแม้จะไม่มีความหมายอะไรมากนัก…อย่างเก่งก็ได้ที่ 3 แต่สำหรับบางทีมอย่าง เบลเยียม ที่ 3 ก็น่าจะถือเป็น “รางวัล” ปลอบใจที่ทรงคุณค่ามิใช่น้อย

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

หรือแม้แต่อังกฤษก็เถอะ…ถึงจะเคยเป็นแชมป์โลกมาก่อน และครั้งนี้ก็หวังไว้มากว่าจะได้ชิงแชมป์โลก แต่เมื่อพลาดไป การได้ที่ 3 กลับบ้าน ก็ถือเป็นบำเหน็จที่เกินกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนออกเดินทางจากลอนดอนมารัสเซีย

ในแง่รางวัลทีมได้ที่ 3 จะได้เงินตอบแทนถึง 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 792 ล้านบาทไทย ในขณะที่ที่ 4 จะได้ 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 726 ล้านบาทไทย ต่างกันตั้ง 2 ล้านเหรียญ หรือ 66 ล้านบาท นับว่ามีนัยสำคัญพอสมควรทีเดียว เงินก้อนนี้เป็นของสมาคมฟุตบอลของทั้ง 2 ประเทศ แต่หลายๆ ประเทศมักจะคืนมาให้นักเตะก้อนใหญ่

สำหรับนักเตะ 2 ชาตินี้เป็นนักเตะอาชีพ เงินเยอะ ร่ำรวยอยู่แล้ว เงินรางวัลอาจไม่มีความหมายมากนัก แต่มันก็เป็นโบนัสที่ไม่เลวทีเดียว

หวังว่าทั้งในเรื่องศักดิ์ศรีของการเป็นที่ 3 ของโลก และการมีเดิมพันติดปลายสตั๊ดพอสมควร จะทำให้การชิงที่ 3 สนุกขึ้น

เอาละ เราคงจะยังไม่พูดถึงคู่ชิงแชมป์ระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โครเอเชีย ซึ่งจะเป็นคู่สุดท้ายใน 2 คู่ที่เหลืออยู่ เพราะยังมีช่องว่างพอที่จะเอ่ยถึงได้อีก 1 วัน ในวันพรุ่งนี้

ขออนุญาตพูดคุยกันถึงสถิติอะไรบางอย่างของฟุตบอลโลก 2018 เท่าที่แข่งกันมาจนถึงรอบรองชนะเลิศ หรือรอบตัดเชือกกันดีกว่า

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

ในภาพรวมของการแข่งขันเตะมาถึงบัดนาวนี้ มีการ ยิงประตู ไปแล้วทั้งหมด 161 ประตู หรือเฉลี่ย 2.6 ประตูต่อ 1 แมตช์แจก ใบเหลือง ไปทั้งสิ้น 213 ใบ เฉลี่ยแมตช์ละ 3.5 ใบ ในขณะที่ ใบแดง แจกไปเพียง 4 ใบ หรือเฉลี่ยแค่ 0.06 ใบต่อ 1 เกม มีการ ผ่านลูก ทั้งหมด 47,902 ครั้ง เฉลี่ยมีการผ่านลูกแมตช์ละ 772.6 ครั้ง

ทีมที่ยิงประตูได้สูงสุด ได้แก่ เบลเยียม ยิงทั้งหมด 14 ประตู ทีมที่ผ่านลูกได้มากที่สุดคือ สเปนผ่านได้สวยงามถึง 3,120 ครั้ง

ส่วนทีมที่ป้องกันดีที่สุดทั้งในแง่การเคลียร์ลูกอันตราย การสกัดลูกอันตราย และการเซฟลูกของผู้รักษาประตูได้แก่ โครเอเชีย ครับ เพราะรวมแล้วทำได้ถึง 272 ครั้ง

ในแง่สถิติส่วนบุคคลปรากฏว่า เนย์มาร์ (บราซิล) ซัดประตูมากที่สุดถึง 29 ครั้ง (แต่เข้าแค่ 2) เซอร์คิโอ รามอส (สเปน) ผ่านลูกได้มากที่สุด 485 ครั้ง และ กิลเลอร์โม โอชัว นายทวารเม็กซิโก เซฟได้มากที่สุด 25 ครั้ง

สำหรับนักเตะที่วิ่งมากที่สุด ขึ้นลงซ้ายขวาอยู่ตลอดเวลา ได้แก่ ลูกา โมดริซ ของ โครเอเชียครับ เขาวิ่งไปแล้วเป็นระยะทาง 63 กิโลเมตร และยังมีสิทธิ์วิ่งได้อีกในนัดชิงชนะเลิศ จะรวมทั้งหมดกี่กิโลเมตรโปรดติดตามกันต่อไป

สำหรับ ดาวซัลโว ณ บัดนาว แฮร์รี เคน (อังกฤษ) ซัลโวได้สูงสุด 6 ประตู และยังมีสิทธิ์ซัลโวต่อในการชิงที่ 3

โรเมลู ลูกากู (เบลเยียม) อันดับ 2 ซัลโวแล้ว 4 ประตู และยังมีสิทธิ์ซัลโวต่อในการชิงที่ 3 กับอังกฤษวันเสาร์นี้

อีก 2 คนที่ทำได้ 3 ประตู และยังมีสิทธิ์ทำต่อ ได้แก่ อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส) และ คีเลียน เอ็มบัปเป (ฝรั่งเศส) ได้ 3 ประตูเท่ากัน ต้องมาลุ้นว่านัดชิงจะได้กี่ลูก

ครับ! ก็เป็นสถิติต่างๆ ที่ฟีฟ่าบันทึกไว้เพื่อให้เห็นภาพของฟุตบอลโลกปีนี้

มีสถิติหนึ่งที่ฟีฟ่ามิได้บันทึก แต่ไทยรัฐเราบันทึกเอง ก็คือสถิติยอดไปรษณียบัตรทายผลบอลกับไทยรัฐครับ

นับมาถึงวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. ยอดจำหน่ายที่บริษัทไปรษณีย์ฯรวบรวมไว้ทะลุ 186 ล้านฉบับไปแล้วครับ คาดว่าจะผ่านหลัก 220 ล้านฉบับ ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ข้อเตือนใจส่งท้ายคอลัมน์วันนี้ของจ่าแฉ่งก็คือ วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม เป็นวันสุดท้ายของการส่งไปรษณียบัตรมาร่วมสนุกนะครับ เราจะถือเวลาประทับตราคือ 18.00 น.ของวันนี้เป็นเส้นตาย

ท่านที่ยังไม่ได้ส่งมาอย่าชักช้าครับ รีบส่งเช้าวันนี้ (เสาร์ 14 ก.ค.) ยังมีเวลาทันถมเถ และอย่าลืมใช้สูตรกรอกฝรั่งเศส 60 โครเอเชีย 40 ด้วยล่ะเพราะไม่ว่าใครเข้าป้ายเราก็มีสิทธิ์ลุ้นทั้ง 2 ทีม

เวลากรอกชื่อทีมอย่าลืมตะโกนปลุกใจแบบหน่วยซีลด้วยนะครับ…เผื่อจะโชคดีได้เป็นเศรษฐี 10 ล้านบาท หรือถูกรางวัลอื่นๆ รวมแล้วอีก 30 กว่าล้านบาทกับเขาบ้าง

เอ้า! ตะโกนพร้อมๆ กันครับ Hooyah! Hooyah! Hooyah!

“จ่าแฉ่ง”