ผมมีโอกาสได้อ่านข้อความในเฟซบุ๊กของคุณกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งน่าจะอยู่ที่อังกฤษขณะโพสต์ข้อความที่ผมขออนุญาตหยิบมาเขียนถึงในวันนี้
คุณกรณ์โพสต์ว่า ขณะเดินกลับบ้านกับลูกสาว ข่าวที่อังกฤษยังเน้น 2 เรื่อง เรื่องแรกคือฟุตบอลวันนี้ (เสาร์ที่ 7 ก.ค.) ที่ อังกฤษ จะเตะกับ สวีเดน เรื่องที่สองคือเรื่องเด็กไทย 13 คน ซึ่งคุณกรณ์ยอมรับว่าแปลกใจมาก ที่สื่อทุกชนิดของอังกฤษเกาะติดเรื่องนี้ตลอด 24 ชั่วโมง (ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวงเชียงราย)
คุณกรณ์ตั้งคำถามว่า…อะไรทำให้ทุกคนทั่วโลกอยากช่วยเด็กกลุ่มนี้ ทั้งๆที่ยังมีคนต้องการความช่วยเหลืออีกมากมายทั่วไป?
จากนั้นก็ตอบคำถามของตัวเองว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะมิติ “ดราม่า” การติดอยู่ในถ้ำ รวมไปถึงท่าทีของภาครัฐและสังคมไทยที่ลงมือช่วยเหลือและติดตามข่าว จนทำให้เกิดความเห็นใจจากชาวโลก
แต่ที่สำคัญที่สุดคุณกรณ์เห็นว่า มีเหตุผลอีก 5 ข้อที่ทำให้สื่ออังกฤษและคนทั่วโลกอยากเอาใจช่วย ซึ่งทั้ง 5 ข้อนี้อยู่ที่ตัวเด็กๆกลุ่มนี้เอง
ข้อแรก คนชอบเด็กดี เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กเล่นกีฬา ทำให้คนรู้สึกว่าเด็กกลุ่มนี้เป็นเด็ก “มีคุณภาพ”
ข้อสอง คนชอบคนที่ดูดี รูปหมู่ของเด็กในชุดขี่จักรยานเป็นรูปที่มีเสน่ห์มาก ดังนั้น “Presentation” มีความสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ต้องสะอาดสะอ้าน แต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย
ข้อสาม คนชอบความนอบน้อม ภาพเด็กยกมือไหว้นักดำน้ำอังกฤษ (โดยเฉพาะในสถานการณ์นั้น) เป็นภาพที่ได้ใจคนทั่วโลก
ข้อสี่ คนชอบนักสู้ และมักจะอยากช่วยคนที่พยายามตะเกียกตะกายช่วยตัวเอง
ข้อห้า คนชอบการถ่อมตน สื่อที่นี่รายงานอย่างชื่นชม คำขอโทษของโค้ชต่อพ่อแม่เด็ก
ผมเห็นด้วยกับคุณกรณ์ทุกข้อครับ โดยเฉพาะในประเด็นหลักที่บอกว่า “เด็กๆกลุ่มนี้มีเสน่ห์ ชวนให้คนรัก”
คำว่า “เด็ก” หรือ “เยาวชน” จะชนะใจผู้คนในประเทศพัฒนาแล้ว ทั่วโลกไปค่อนหัวใจแล้วครับ เพราะเขาจะให้เกียรติแก่เด็กๆมาก และขอให้สังเกตเขาจะไม่มีการตำหนิเด็กเลยว่า “ซน” หรือ “รนหาที่” หรือ “ไปทำให้เดือดร้อนกันทั้งประเทศ” (ทั้งโลกด้วย) แบบคนที่ยังมีจิตใจด้อยพัฒนาในประเทศด้อยพัฒนาบางคนที่ออกมาโพสต์หรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อยู่บ้างในขณะนี้
ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุร้ายกับเด็กๆเขาจึงเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกรณีของ 13 หมูป่า ซึ่งเป็นยิ่งกว่าดราม่าและเกิดขึ้นกับเด็กๆถึง 12 คน+ผู้ใหญ่เพียง 1 คน ผู้คนจึงติดตามกันทั่วโลก
ไม่เพียงแต่อังกฤษอย่างที่คุณกรณ์เล่าไว้ ผมนั่งอยู่กับโต๊ะข่าวมาโดยตลอดพบว่า ข่าวนี้เป็นที่สนใจและได้รับความเห็นใจ รวมทั้งกำลังใจมากจากผู้คนทั่วโลกด้วยซ้ำไป
ผมเองก็เคยเขียนไปบ้างแล้วว่า สื่อเยอรมัน สื่อญี่ปุ่น ถือเป็นเรื่องใหญ่ ข่าวใหญ่ สื่อมาเลเซีย เพื่อนบ้านเราก็พาดหัวใหญ่
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าประธานฟีฟ่าที่กำลังจัดบอลโลกอยู่ก็ส่งกำลังใจมาให้ และยังเชิญชวนให้ทีมหมูป่าทั้งทีมไปดูฟุตบอลโลกคู่ชิงชนะเลิศ (จะออกมาทันหรือเปล่าก็ไม่รู้)
ผมต้องขอขอบคุณท่านอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ขอบคุณรัฐบาล ขอบคุณทุกหน่วยราชการ หน่วยซีล นักดำน้ำภาคเอกชน และจิตอาสาที่ลงมือไปช่วยเหลือ อันแสดงถึงน้ำใจของท่านที่มีต่อเด็กๆ
อันเป็น “น้ำใจ” ที่ “ถูกใจ” ของชาติเจริญแล้วทั่วโลก ที่เขารักเด็กๆ ให้ความช่วยเหลือคุ้มครองเด็ก และมีกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิของเด็กและเยาวชนที่เข้มงวดกวดขัน
หากการช่วยเหลือครั้งนี้จะต้องสูญเสียเงินทองไปมากมายเพียงใดก็ตาม ผมก็ถือว่าคุ้มค่าครับ กับการ “ประชาสัมพันธ์” ให้โลกเห็นว่าคนไทยและประเทศไทยก็เป็นประเทศของคนรักเด็ก เข้าใจเด็ก ให้เกียรติเด็กเช่นเดียวกับเขา
ป.ล.ผมปิดต้นฉบับไปแล้ว แต่ต้องมาขอเติมใหม่ตอนหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม เพราะมีข่าวด่วนมาว่าการลำเลียงเด็กออกจากถ้ำชุดแรกเริ่มขึ้นแล้ว และน่าจะมาถึงปากถ้ำในเวลา 3 ทุ่มวันเดียวกัน…เพี้ยง! ขอให้น้องๆปลอดภัยทุกคนนะครับ.
“ซูม”