ต้นฉบับ “เบื้องลึกบอลโลก” ของ “จ่าแฉ่ง” วันนี้ ส่งแฟกซ์มาจากจังหวัดตรังครับ เพราะมีภารกิจต้องตามทีมผู้ใหญ่ของไทยรัฐไปในงานเปิดโรงเรียนไทยรัฐวิทยาหลังใหม่กันที่โน่น

แฟนกีฬาที่ติดตามอ่านไทยรัฐคงจะทราบแล้วว่า จะมีการสร้าง โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ขึ้นใหม่อีก 10 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองการที่องค์การยูเนสโกประกาศยกย่องให้อดีต ผอ.กำพล วัชรพล ของไทยรัฐเป็นบุคคลสำคัญของโลก

แห่งแรกของ 10 แห่งที่จะสร้างใหม่ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางไทยรัฐจึงไปจัดพิธีส่งมอบให้แก่ จังหวัดตรังเมื่อวันจันทร์ที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง

ได้แก่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 102 (บ้านเกาะเต่า) ตำบลในเตา อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง…อันเป็นสาเหตุให้ “จ่าแฉ่ง” ต้องขึ้นเครื่องตามผู้ใหญ่ไทยรัฐไป ณ จังหวัดอันเป็นสถานที่ปลูกยางพาราต้นแรกของประเทศไทยด้วยประการฉะนี้

ถือว่าโชคดีเลยครับเพราะทำให้มีโอกาสได้ไปสัมผัสบรรยากาศฟุตบอลโลกที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดตรังมา 1 คืนเต็มๆ

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

ไปยืนดูประตูสังหารของ เฮอร์วิง โลซานา ของทีมจังโก้ ที่ซัดผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ส แห่งเยอรมันตะวันตก เมื่อตอน 4 ทุ่ม กับ 40 นาที ตามเวลาของจังหวัดตรัง ร่วมกับพี่น้องชาวตรังประมาณ 100 คน ที่มานั่งดื่มนั่งรับประทานอาหารยามดึก ณ คอฟฟีช็อปของ โรงแรมธรรมรินทร์ธนา ซึ่งจัดรายการพิเศษตั้งจอขนาดใหญ่พอสมควรรวม 3 จอ ให้แฟนๆได้ดูกันจะจะ

“จ่าแฉ่ง” ไปร่วมงานเลี้ยงกับผู้ใหญ่จังหวัดตรังจน 4 ทุ่มกว่า พอกลับมาถึงโรงแรม ก้าวลงจากรถก็ได้ยินเสียงเฮลั่นดังมาจากคอฟฟีช็อป

รีบวิ่งไปตามเสียงเฮทันทีพร้อมกับได้ดูภาพรีเพลย์การยิงอันสุดสวยของยอดนักเตะจังโก้ โลซานา ซึ่งกลายเป็นฮีโร่ของชาวเม็กซิกันไปในบัดดล

แต่ไม่ใช่ฮีโร่ของชาวเยอรมันและของแฟนบอลส่วนใหญ่ทั่วโลกที่เอาใจช่วยและเชียร์เยอรมันมากกว่าอย่างแน่นอน

รวมทั้งแฟนๆ ที่นั่งดูอยู่ในคอฟฟีช็อปของโรงแรมธรรมรินทร์ธนา จังหวัดตรัง ซึ่งแม้จะส่งเสียงเฮตอนโลซานาซัดประตูได้แต่ก็บ่นเสียดายไปตามๆ กัน ที่ทีมอินทรีเหล็กไม่สามารถเอาคืนได้เลยแม้แต่ประตูเดียว แม้จะไล่ยิงถล่มตลอดเกมถึง 26 ครั้ง

credit : https://twitter.com/fifaworldcup

หลายๆ คนทยอยกันกลับบ้าน ไม่ยอมรอดูต่อคู่ดึก ซึ่งความจริงก็เป็นคู่เอกระหว่าง บราซิล กับ สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เหลืออยู่ประมาณสัก 60-70 คนกระมัง หายไปกว่า 20 คน จากการพ่ายแพ้ของเยอรมัน

จ่าแฉ่งเองก็กลับขึ้นห้องพักเพราะเห็นว่าดึกพอสมควรแล้ว จากนั้นก็ไปเปิดอ่านรายงานละเอียดของ BBC ซึ่งระบุถึงความผิดหวังของกุนซืออินทรีเหล็กเอาไว้หลายๆ ประโยค

เริ่มจากประโยคที่ว่า “ครึ่งแรกเราเล่นแย่มาก เราไม่สามารถเล่นบอลอย่างที่เราเคยเล่นได้ดีมาก่อนเลย โดยเฉพาะเกมรุกที่เราเปิดโอกาสให้เขาโต้กลับได้ตลอดเวลา และเราก็พลาดเสียประตู”

“ครึ่งหลังเรามีโอกาสบุกมากขึ้น แต่พวกเขาก็ลงมาตั้งรับกันเต็มพื้นที่ และสวนกลับได้อย่างรวดเร็ว เรามีโอกาสยิงประตูงามๆ 2-3 ครั้ง แต่มันก็เหมือนมีอาถรรพณ์นะ ลูกบอลไม่เข้าประตูอย่างที่เราหวังไว้”

“แน่นอนผมผิดหวัง พวกเราทุกคนผิดหวังและรู้สึกเจ็บปวด ซึ่งเราจะต้องลืมมันให้เร็วที่สุด เพราะเรายังมีงานหนักที่จะต้องทำต่อไป” เลิฟกล่าวทิ้งท้าย

ในขณะที่กุนซือของผู้ชนะอย่างช็อกโลก ฮวน คาร์ลอส โอเซริโอ แห่งเม็กซิโก ให้สัมภาษณ์อย่างปลื้มปริ่มด้วยอารมณ์ตรงกันข้าม

เขาชื่นชมลูกทีมของเขาตอนหนึ่งว่า “พวกเราแสดงให้เห็นว่าเราเป็นทีมที่มีอนาคตอันสดใสรออยู่ ผมพอใจมากสำหรับผลงานของพวกเราในวันนี้ เราเล่นด้วยความกล้าหาญเมื่อถึงเวลาที่เราต้องการและตั้งรับอย่างเหนียวแน่นด้วยหัวใจที่เข้มแข็งของพวกเราทั้งหมดในเวลาคับขัน”

ดีใจด้วยจังโก้! และก็เสียใจด้วยอินทรีเหล็ก งานเข้าเสียแล้วซีครับ โจอาคิม เลิฟ! จะนำทีมป้องกันแชมป์ได้สำเร็จไหมหนอ?

สำหรับคู่ที่ 2 “จ่าแฉ่ง” หมดแรงจริงๆครับ พออาบน้ำเสร็จรู้สึกเพลียมากหลับผล็อยไม่รู้ตัว ตื่นมาเกือบตี 4 รีบเปิดมือถือดูสกอร์ อ้าว! บราซิลเสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ไปซะอีก

ช่างเป็นวันน่าผิดหวังสำหรับทีมเอกของโลกจริงๆแฮะ วันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เต็ง 1 ของโลกอย่างบราซิลทำได้แค่เสมอทีมรองอย่างสวิตฯ 1-1 ในขณะที่ทีมเต็ง 2 และแชมป์เก่าอย่างอินทรีเหล็กถึงกับกลายเป็นอินทรีปีกหัก แพ้ไปเลย 0-1

ชักยุ่งแต่ก็สนุกมากขึ้นแล้วซีฟุตบอลโลก 2018…เพราะเตะกันมาถึงบัดนี้ ยังมองไม่ออกเลยว่าใครคือตัวเต็งที่แท้จริง? และแชมป์โลกจะเป็นของใคร?

“จ่าแฉ่ง”