ทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก จะมีนักเศรษฐศาสตร์สำนักต่างๆ ออกมาพยากรณ์ หรือทำนายทายทักอยู่เสมอๆว่า ฟุตบอลโลกในครั้งนั้นๆจะมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศในขณะนั้น หมุนเวียนมากน้อยเพียงใด?
ส่วนใหญ่แล้วคำพยากรณ์จะออกมาในแง่ดีว่า ฟุตบอลโลกจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องรับโทรทัศน์ รวมไปถึงธุรกิจประเภทผับบาร์ต่างๆ จะดีขึ้นเป็นพิเศษ
แรกๆที่ฟุตบอลโลกเข้ามาเมืองไทยจะมีรายงาน หรือการพยากรณ์เฉพาะตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบอลโลกโดยตรงเท่านั้น แต่ต่อมาในระยะหลัง จะมีรายงานตัวเลขว่าด้วยการเล่นพนันบอลโลกควบคู่ไปด้วย
เห็นตัวเลขแล้วก็สะดุ้ง เพราะในยอดเงินหมุนเวียนที่นักเศรษฐศาสตร์คาดหมายกันนั้น ตัวเลขพนันบอลโลกจะสูงขึ้นทุกครั้งที่มีการแข่งขัน
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ของ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ก็เปิดเผยผลการสำรวจค่าใช้จ่ายของฟุตบอลโลก 2018 ที่จะเริ่มเตะในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ออกมาแล้ว
เป็นตัวเลขที่ชวนให้สะดุ้งอีกเช่นเคย และถ้าเป็นจริงตามนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสะดุ้งที่ค่อนข้างจะทำให้เจ็บหลังเจ็บเอวไม่ใช่เล่น
อาจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยศูนย์เจ้าประจำที่ผมเขียนถึงและอ้างถึงมากกว่าใครทั้งหมดในรอบปีที่แล้ว รวมถึงครึ่งปีของปีนี้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มตัวอย่างถึง 93 เปอร์เซ็นต์ จะติดตามการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018
คาดว่าจะมียอดเงินสะพัดทั้งสิ้น 78,385 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2.4 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร ปี 2016 ที่ผ่านมา
แต่ถ้านำไปเทียบกับฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว คือปี 2014 หรือ 2557 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ จะพบว่าลดลงไป เพราะในปีดังกล่าวมีตัวเลขหมุนเวียนถึง 95,154 ล้านบาท
ในภาพรวม อาจารย์ ดร.ธนวรรธน์สรุปว่า บรรยากาศบอลโลกปีนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เทียบกับบรรยากาศเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังฟื้นตัว
ที่สำคัญในยอดเงินสะพัด 78,385 ล้านบาทที่ว่า จะเป็นค่าใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจเพียง 17,901 ล้านบาทเท่านั้น
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายหรือเงินสะพัดนอกระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพนันบอลจะสูงถึง 58,995 ล้านบาทเลยทีเดียว เพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้วที่ยอดพนันบอลอยู่ที่ 55,830 ล้านบาท
ก็เอาเถอะ ถึงอย่างไรเสีย ยอดเงินจากการพนันหากหมุนเวียนอยู่ในเมืองไทยคงจะมีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจบ้างไม่มากก็น้อย เพราะคนชนะพนันอาจมีการฉลอง อาจมีการซื้อโน่นซื้อนี่ให้กับตัวเองบ้าง
แต่ที่เห็นตัวเลขแล้วปวดใจขึ้นมาอีกก็เพราะเม็ดเงินจากการพนันไม่ต่ำกว่า 10,000-20,000 ล้านบาท เป็นการพนันออนไลน์เล่นตรงกับบ่อนต่างประเทศ ซึ่งเงินอาจจะไหลออกไปต่างประเทศมากกว่าไหลเข้า
สิริแล้วท่านอาจารย์เชื่อว่า ค่าใช้จ่ายจากฟุตบอลโลกคราวนี้จะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้เพียง 0.2-0.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผมไม่ได้เชื่อคำพยากรณ์ หรือการคาดหมายของสำนักเศรษฐศาสตร์ต่างๆไปเสียหมด…ที่หยิบยกมาพูดคุยต่อก็เพื่อให้รู้ว่าเขามองเอาไว้อย่างไร
ตัวเลขจากการสำรวจ ซึ่งใช้สุ่มตัวอย่างโอกาสผิดพลาดก็มีเยอะอยู่แล้ว ในฐานะนักสำรวจสถิติเก่า ผมทราบดีว่าการสอบถามหาความจริงจากคนไทยเป็นเรื่องยากที่สุด
ขนาดการสอบถาม หรือสำรวจทั่วไปก็ยากอยู่แล้ว…ดังนั้น ในการถามหรือสำรวจเรื่องการพนัน ยิ่งจะยากขึ้นไปอีกหลายเท่า
เพราะใครที่ไหนจะกล้าบอกความจริงว่าเขาเป็นนักพนันและจะเล่นพนันด้วยเงินเท่านั้นเท่านี้บาท?
ผมจึงต้องขออนุญาตที่จะยังไม่เชื่อตัวเลขยอดการพนันของ หอการค้าไทยว่า จะเป็นเท่านี้จริงหรือไม่? จะสูงถึงขนาดนี้เชียวหรือ
แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะเชื่อท่านเพียงครึ่งเดียว…ตัวเลขก็ออกมาที่เกือบ 3 หมื่นล้านบาทอยู่แล้ว (ครึ่งหนึ่งของ 58,995 ล้านบาท)
ฝากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่บิ๊กตู่, บิ๊กป้อม ลงไปถึงมหาดไทย, ตำรวจ, กระทรวงศึกษาธิการ (เขาว่าเด็กเล่นเยอะ) ฯลฯ ให้ช่วยกันควบคุมดูแลเรื่องนี้ด้วยก็แล้วกัน
ฟุตบอลโลกนำความสุขมาให้คนไทยมาแล้วถึง 48 ปี อย่าให้กลายเป็นตัวบ่อนทำลายประเทศไทยไปเสียนะครับบิ๊กตู่.
“ซูม”