หลังจากที่เคยเปิดการแสดงไปเมื่อ ปี 2552 หรือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว “แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล 2561” ก็ได้กลับมาแสดงที่เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์อีกครั้ง โดยยังคงเป็นผลงานของผู้กำกับละครเวทีมือหนึ่งอย่าง “คุณบอย–ถกลเกียรติ วีรวรรณ” เจ้าเก่า ที่ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันให้เสียเวลา
โดยปกติทีมงานซอกแซกเป็นขาประจำละครมิวสิคัลของคุณบอยอยู่แล้ว พอได้รับคำเชิญจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ปุ๊บ หัวหน้าทีมซอกแซกก็สั่งการให้ทีมงานสายละครเวทีเคลียร์คิวเพื่อไปชมรอบกาลาอย่างไม่รอรี
เรื่องราวของ “แม่นาคพระโขนง” อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องราวของความรักอมตะของ “พ่อมาก” และ “แม่นาค” ที่รักกัน ถึงแม้จะอยู่คนละภพก็ยังคงรักกันตลอดไปจนเกิดเป็นตำนานรัก และเรื่องราวของความน่ากลัวแห่งบางพระโขนง
ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาก็ได้มีการนำเรื่องราวความรักของ “แม่นาค” ไปสร้างเป็นทั้งหนัง ทั้งละครมากมายหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาในแนวน่ากลัว เพราะจำได้ว่าเคยดูละครแม่นาคพระโขนงทางโทรทัศน์ตอนเด็กๆแล้วหลอนมาก ภาพแม่นาคมือยาวหยิบมะนาวติดตาไปนานพอสมควร
แต่สำหรับ “แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล” ในปี 2561 นี้เป็นละครเวทีที่ครบทุกอารมณ์ไม่ว่าจะเป็นความน่ากลัว ความซึ้ง ความสุข และความสนุกสนาน เรื่องราวที่กระชับ ฉับไว เข้าใจง่าย
อีกทั้งฝีมือการแสดงและการร้องเพลงของนักแสดงทุกคนสามารถถ่ายทอดบทบาทของทุกตัวละครได้อย่างดีเยี่ยม
เพราะคุณบอยได้รวบรวมนักร้องเสียงดีจากหลายค่ายหลายเวทีมาอยู่ด้วยกันในละครเวทีเรื่องนี้ ตั้งแต่ “นัท–มีเรีย เบนเนเดดดี้” นักร้องล้านตลับ ที่ยังคงรับบทเป็น “แม่นาค” ได้อย่างไม่มีที่ติเหมือนเมื่อ 9 ปีก่อน
“พ่อมาก” คนใหม่รับบทโดย “ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ” นักร้องเสียงนุ่ม ดูอบอุ่น ขวัญใจสาวๆทั่วประเทศ ก็สอบผ่านกับการแสดงในเรื่องนี้ สามารถส่งต่อความรู้สึกของตัวละคร ทำให้ผู้ชมอินกันไปทั้งโรงละคร
ทางด้านเพื่อนซี้ของพี่มาก “ตั้ม-วราวุธ โพธิ์ยิ้ม” และ “โดม-จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม” 2 แชมป์จากเวที The Star ที่มารับบทเป็น “เงาะ” กับ “โอ่ง” ที่ออกมาเมื่อไหร่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทั้งเรื่อง
ส่วน 2 “หมอ” คู่อริของแม่นาคนั้นมาจากเวที The Voice คือ “เก่ง–ธชย ประทุมวรรณ” รับบทเป็น “อาจารย์คง” หมอผีผู้ปลุกแม่นาคขึ้นมา และ “ป้าไก่-อัญชุลีอร บัวแก้ว” ที่รับบทเป็น “ยายปริก” หมอตำแยแห่งบางพระโขนง
คนสุดท้ายคือ “ขนมจีน-กุลมาศ ลิมปวุฒิวรานนท์” หรือหน้ากากตุ๊กตา จากรายการ The Mask Singer ที่ในรายการได้ร้องเพลง “ฉันจะรอเธอ” เพลงเอกเพลงหนึ่งของละครเวทีเรื่องนี้ ที่นัท-มีเรีย ร้องเอาไว้ มารับบทเป็น “สร้อย” หลานสาวของยายปริก
นอกจากความสามารถในการร้องและการแสดงของนักแสดงทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ทำให้การชมละครเวทีเรื่องนี้มีอรรถรสมากขึ้น และไม่เขียนถึงไม่ได้เลยก็คือ “ฉาก” และ “เอฟเฟกต์” ต่างๆครับ
ฉากที่ผมประทับใจที่สุดในเรื่องก็คือ “บ้านทรงไทย” ของพ่อมากและแม่นาค ที่พอออกมาแล้วทุกคนในรัชดาลัยร้องว้าวพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย จากบ้านชั้นเดียวที่เลื่อนออกมาในตอนแรก เลื่อนไปเลื่อนมาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีก็เป็นบ้านทรงไทย 2 ชั้น ใต้ถุนสูง มีสิ่งของเครื่องใช้อยู่เต็มไปหมด
และบ้านหลังนี้ก็มีกลไกมากมายที่ทำให้หลายๆฉากนั้นดูสมจริง ไม่ว่าจะเป็นตอนเก็บมะนาว หรือตอนที่เปลี่ยนจากบ้านโทรมๆให้กลับมาดูใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ก็ยังมีเอฟเฟกต์อื่นๆอีกมากมาย ในละครเวทีเรื่องนี้ แต่ผมขออุบเอาไว้ เพราะอยากให้ไปดูกันเอง เล่าไปแล้วเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น
ส่วนฉากที่เรียกเสียงกรี๊ดได้ดังสุดๆก็เห็นจะเป็นฉากที่แม่นาคบอกพ่อมากให้ไปอาบน้ำหลังจากเพิ่งกลับจากทหาร เพียงแค่พ่อมากถอดเสื้อโชว์ซิกซ์แพ็กเท่านั้นเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ก็ดังลั่นโรงละครกันเลยทีเดียวเชียวครับ
“แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล 2561” จะแสดงถึงวันที่ 24 มิถุนายนเป็นวันสุดท้าย เว้นแต่จะมีเสียงเรียกร้องให้แสดงต่อค่อยว่ากันอีกที ท่านที่สนใจโปรดดูรายละเอียดเรื่องวันแสดง รอบแสดงและสนนราคาค่าบัตรผ่านประตูได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยฝังใจกับภาพความน่ากลัวของแม่นาคพระโขนง แต่พอผมได้ดูละครเวทีเรื่อง “แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล 2561” ภาพต่างๆก็เปลี่ยนไป เพราะเนื้อหาที่เน้นเรื่องความรักที่ทั้งสองคนมีให้กัน เทคนิคของฉากและเวทีที่น่าสนใจ มุกตลกที่ชวนขำเป็นระยะๆ มีเพลงเพราะๆให้ฟังตลอดเรื่อง ทำให้ผมลืมไปเลยว่าแม่นาคบนเวทีนั้นเป็นผีไม่ใช่คน
ในฐานะที่มีโอกาสได้บินไปดูละครเวทีของคุณบอยเรื่อง Waterfall หรือ “ข้างหลังภาพ” ถึงอเมริกา ถ้าวันไหนที่คุณบอยจะเปิดตลาดต่างชาติอีกครั้ง ผมเสนอให้ลองนำละครรักสัญชาติไทยเรื่อง “แม่นาคพระโขนง” โกอินเตอร์บ้างก็จะดีนะครับ
คนไทยเรารู้จักผีฝรั่งมาหลายตัวแล้ว… ลองให้ฝรั่งรู้จักผีไทยซะบ้าง ไม่แน่นะครับ ความน่ารักของผีไทยอาจทำให้ฝรั่งอยากมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น.
“ซูม จูเนียร์”