เมื่อตอนที่แจ็ค หม่า ริอ่านจะตั้งบริษัทขึ้นมาสักหนึ่งบริษัทในปี ค.ศ.1999 เขาอยู่ที่ซานฟรานซิสโก และแวะไปกินกาแฟที่คอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่ง
เขาคิดไว้แล้วว่า จะตั้งชื่อบริษัทว่า อาลีบาบา ตามชื่อของตัวเอกในนิทานก่อนนอนชุด อาหรับราตรี หรือ “1001 ราตรี” แต่เพื่อความมั่นใจอะไรบางอย่าง เขาก็เลยถามสาวเสิร์ฟในคอฟฟี่ช็อปแห่งนั้นว่า “น้องรู้จักอาลีบาบาไหม?”
พนักงานเสิร์ฟตอบทันที “รู้จักซิคะ” เขาถามต่อว่า “แล้วคุณรู้อะไรอีก เกี่ยวกับอาลีบาบา” ซึ่งเธอก็ตอบทันทีว่า “โอเพ่น…เซซามี่” ไงจ๊ะ
แจ็ค หม่า ดีดมือเปาะอุทานในใจว่า ชื่อนี้ต้องโอเคแน่ๆ แต่เพื่อให้ชัวร์กว่านั้นเขาออกไปถามอีก 30 คน มีทั้งชาวอินเดีย, เยอรมัน, ญี่ปุ่น ที่เดินอยู่แถวๆนั้น…ทุกคนรู้จักอาลีบาบากับโอเพ่น เซซามี่ ทั้งหมด
นี่คือที่มาของชื่อบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นเพื่อขายสินค้าทางออนไลน์ บริษัทแรกของเขาเมื่อ 4 เมษายน ปี 1999 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน
จากวันนั้นถึงวันนี้ 19 ปีเต็มๆแล้ว อาลีบาบากรุ๊ป กลายเป็นเครือข่ายการค้าขายทางออนไลน์ที่ดังก้องโลก เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก รวมทั้งคนไทยเรา
เมื่อพูดถึง “อาลีบาบา” ในยุคนี้ ไม่เพียงแต่ผู้คนจะนึกถึงนิทานก่อนนอนชุดอาหรับราตรี และ “Open Sesame” เท่านั้น แต่จะนึกถึงเว็บไซต์ขายของออนไลน์ของ แจ็ค หม่า ควบคู่ไปด้วย
กิจการของเขาแพร่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วจากประเทศจีนไปสู่โลกกว้างถึง 200 กว่าประเทศ
จนกระทั่งสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง แจ็ค หม่า ก็มาเมืองไทย เป็นข่าวใหญ่หน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยทุกฉบับ เมื่อเขาเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ยืนจับมือถือแขนถ่ายภาพร่วมกันอย่างสนิทสนม
จากนั้นเขาก็แวะเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และอีกหลายๆรัฐมนตรี พร้อมกับลงนามในข้อตกลงที่จะดำเนินการร่วมกับรัฐบาลไทยในด้านต่างๆถึง 4 ฉบับ
เริ่มจากโครงการลงทุนสร้างศูนย์ Smart Digital Hub ในพื้นที่อีอีซี ตามมาด้วยโครงการร่วมมือพัฒนาบุคลากรรองรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โครงการพัฒนาทักษะดิจิทัล อีคอมเมิร์ซให้แก่ SME และโครงการนำนักท่องเที่ยวจีนมาไทยผ่านแพลตฟอร์มบนออนไลน์
หลังจากการลงนามในสัญญา MOU ฉบับต่างๆไปแล้ว ผมมีโอกาสดูคลิปที่แจ็ค หม่า ให้สัมภาษณ์ คุณ สุทธิชัย หยุ่น ทางช่อง Thai PBS และมีการนำมาเผยแพร่ต่อในโซเชียล
ดูคลิปจบก็อดตัวลอยเสียมิได้ ที่อาเฮียหม่าแกยกย่องคนไทยเสียอย่างเลิศลอย ตั้งแต่เป็นคนเก่ง คนมีความสามารถ มีรอยยิ้มบนใบหน้า มีความตั้งใจสูง มีความจริงใจ มีความเมตตากรุณา มีอุปนิสัยที่น่าคบค้า และอีกสารพัดความดีงาม ฯลฯ
ผมเป็นคนดูโหงวเฮ้งไม่เป็น เห็นหน้าฟังคำพูดแล้วอ่านใจคนไม่ออก…เท่าที่ดูจากคลิปก็เหมือนกับว่าแกพูดด้วยความจริงใจ แต่ลึกๆ ข้างในจะเป็นอย่างไร กาลเวลาคงพิสูจน์ภายหลัง
เท่าที่ผมติดตามปฏิกิริยาจากคนไทยทั่วๆไปที่แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย พบว่ากว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ไว้วางใจแจ็ค หม่า และอาลีบาบากรุ๊ปเท่าไรนัก
เพราะบริษัทของเขามิใช่มูลนิธิ หรือองค์กรการกุศล คงจะต้องมาเพื่อมุ่งหวังกำไรเป็นสำคัญ เพราะฉะนั้น รัฐบาลไทยจะต้องระมัดระวังดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้เกิดปัญหาที่เป็นผลลบต่อประเทศไทยในอนาคต
อย่าให้ความเป็นยักษ์ใหญ่ของเขาทำลายธุรกิจออนไลน์เล็กๆของเมืองไทยไปเสียหมด และที่เขาบอกจะช่วยประเทศไทยขายของ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรก็โอเคอยู่ แต่เขาก็ขายของให้จีนด้วย ระวังเขาจะขายเรามากกว่าซื้อเราในที่สุด
ท่องเที่ยวก็เหมือนกัน ถ้านักท่องเที่ยวจีนมาแล้วทำลายทรัพยากรธรรมชาติของเราแบบที่ทัวร์ศูนย์เหรียญเคยทำก็ไม่คุ้ม
ผมแก่เกินไปกว่าจะแสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมได้ นอกจากทำหน้าที่บันทึกเหตุการณ์ไว้เท่านั้น และขอฝากความห่วงใยต่างๆ ซึ่งมีมากกว่าที่ผมสรุปไว้เยอะเลย รัฐบาลลองไปหาอ่านเอาเองก็แล้วกัน
โอเพ่น เซซามี่!…ระวังดีๆอย่าให้อาลีบาบาขนทองจากถ้ำไทยแลนด์แต่ฝ่ายเดียวก็แล้วกัน ต้องเอาทองจากฝ่ายเขามาใส่ถ้ำเราให้มากกว่าเข้าไว้…ฝากไว้ด้วยนะครับ บิ๊กตู่ ครับ!
“ซูม”