โดยเฉพาะงานใหญ่ระดับ “ช้างเผือก” ของรัฐบาลนี้ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ควบคู่ไปกับนโยบายกระจายโอกาสไปสู่ผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้คนไทยที่ยากจนลืมตาอ้าปากได้ เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่รัฐบาลกำลังดำเนินการ
ก่อนอื่นขอเรียนให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่า ผมดีใจมากที่อ่านพบข้อความตอนหนึ่งว่า “ท่านรักงานนี้ที่สุด” และจะทุ่มเทเพื่องานนี้สุดตัว
นี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ผมต้องเขียนให้กำลังใจท่าน เพราะงานที่ท่านจะทำด้วยความรักที่ว่านี้เป็นงานใหญ่และสำคัญยิ่ง ที่อาจจะนำไปสู่ความสำเร็จและความล้มเหลวได้พอๆ กัน
โดยส่วนตัวผมรู้จักและคุ้นเคยกับท่านรัฐมนตรีพอสมควร เคยพบปะสนทนาด้วยหลายครั้ง ในช่วงที่ท่านทำงานอยู่กับ ธนาคารกรุงเทพ
มีความชื่นชมยกย่องและเชื่ออย่างไม่มีความเคลือบแคลงใจเลยว่าท่านเป็นทั้งคนเก่งมากและคนดีมาก คนหนึ่งเท่าที่ผมเคยรู้จัก
เมื่อท่านได้รับการเชิญชวนให้ไปช่วยรัฐบาลในหลายๆหน้าที่ จนล่าสุดได้เป็นถึงรัฐมนตรีผมจึงรู้สึกยินดี และแอบให้กำลังใจท่านตลอดมา รวมทั้งจะขอให้กำลังใจอย่างเต็มสตีมอีกครั้งในวันนี้
ในความเห็นส่วนตัวของผม ขอย้ำอีกครั้งว่า ส่วนตัวนะครับ…โครงการ EEC หรือ อีสเทิร์นซีบอร์ดภาค 2 เป็นโครงการที่ใหญ่มากๆ
เฉพาะเงินทุนเพื่อการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับก็สูงมาก แรกๆ มีข่าวว่า 7 แสนล้านบาท หลังๆเห็นว่าเกิน 1 ล้านล้านบาท ไปแล้วด้วยซ้ำ มีทั้งเพื่อสร้างทางรถยนต์ (มอเตอร์เวย์) รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ให้เป็นเชิงพาณิชย์ และศูนย์ซ่อมเครื่องบิน พัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุด ฯลฯ
คำถามที่เกิดขึ้นในใจของผมเสมอๆ ทุกครั้งที่มีการลงทุนใหญ่ๆ ก็คือจะมีคนมาใช้บริการที่เราลงทุนรอไว้หรือเปล่าหนอ?
นักลงทุนต่างประเทศ เขาจะหอบเงินมาลงทุนในอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมใหม่ๆ ทันสมัยๆ อย่างที่เราอยากได้หรือเปล่าหนอ?
สนามบินสร้างแล้ว หากไม่มีคนมาใช้ ไม่มีผู้โดยสารมาลง จะเป็นอย่างไร? โรงงานซ่อมเครื่องบิน สร้างแล้วไม่มีใครบินมาซ่อมจะเกิดอะไรขึ้น?
รถไฟความเร็วสูงที่จะสร้างเชื่อมกรุงเทพฯ-พัทยา-อู่ตะเภา ก็ดี หรือที่จะเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ก็ดี หากไม่มีใครมาโดยสาร หรือไม่มาใช้บริการเลย หรือมาใช้อย่างโหรงเหรงเต็มทีจะเป็นยังไง?
ผมก็ห่วงของผมไปสารพัด เพราะเคยเห็นโครงการร้างๆ มาแล้วในหลายประเทศ เห็นแล้วมันว้าเหว่อย่างบอกไม่ถูก
เมื่อช่วงปีใหม่ ท่าน เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก…ดร.คณิศ แสงสุพรรณ แวะมาอวยพรปีใหม่แก่ผมในฐานะที่เป็นเพื่อนรุ่นน้องเคยทำงานด้วยกันมาที่สภาพัฒน์เมื่อหลายปีก่อนโน้น
ผมก็ให้ทั้งพรปีใหม่และกำลังใจกลับคืนแก่ ดร.คณิศ ไปชั้นหนึ่งแล้ว ขอให้งานที่น้องรับผิดชอบอยู่นี้จงประสบผลสำเร็จเถิด
วันนี้ก็ต้องให้พรและให้กำลังใจรุ่นน้องเตรียมอุดม ท่านรัฐมนตรี กอบศักดิ์ ภูตระกูล ซึ่งจะควบคุมดูแลโครงการนี้โดยตรง
เพราะโครงการอะไรก็ตามที่ต้องพึ่งคนอื่นมันจะเสี่ยงอยู่เสมอๆ แหละครับ ยิ่งพึ่งว่าจะมีคนมาร่วมลงทุนกับเราหรือไม่ พึ่งว่าคนจะลงสนามบินหรือไม่ หรือจะมีคนมานั่งรถไฟความเร็วสูงหรือไม่ก็ยิ่งเสี่ยงเพิ่มไปอีก
น้องๆอาจจะบอกว่าโครงการนี้ผ่านการศึกษามาแล้ว มีโอกาสสำเร็จมากกว่าล้มเหลว…ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ
อย่าให้เป็นเหมือนโครงการใหญ่ๆ อีกหลายๆ โครงการที่ผลการศึกษาบอกว่าสำเร็จแน่ แต่พอทำจริงๆแล้วล้มครืนก็แล้วกัน
เพราะถ้าเป็นภาคเอกชนพังครืนก็ช่างเขา อย่างเก่งเราก็แค่แสดงความเห็นใจ แต่ถ้าโครงการภาครัฐพังครืนมันไม่ใช่…เนื่องจากเงินทองที่สูญเสียไปเป็นเงินที่มาจากภาษีของพวกเราทุกคน!
ที่พี่ขอให้น้องโชคดีก็เพื่อพี่จะโชคดีด้วย โดยไม่ต้องเสียเงินภาษีอากรไปฟรีๆ นั่นแหละน้องเอ๊ย! อีกไม่กี่วันก็จะต้องไปเสียเพิ่มอีกแล้ว!
“ซูม”