สินค้า “ไทยแลนด์แบรนด์” ความหวังของ รมว.พาณิชย์

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผมเขียนบอกกล่าวท่านผู้อ่านไว้ว่าจะมีการจัดงาน “80 ปี เตรียมอุดมศึกษา” ขอเชิญศิษย์เก่าทุกรุ่น รวมทั้งรุ่นแรกๆ ที่มีชีวิตอยู่ไปร่วมงานกันให้พร้อมเพรียง

ตัวผมติดภารกิจบางอย่างอยู่ แต่ก็บอกไว้ว่าจะพยายามเคลียร์ให้เสร็จแล้วจะแวะไปร่วมงานด้วย ในฐานะศิษย์เก่ารุ่น 21 จบจากเตรียมอุดมฯมา 58 ปี แต่ถ้านับวันแรกที่เข้าเรียนจะครบ 60 ปีเป๊ะ

ปรากฏว่าผมเคลียร์ได้เสร็จก่อนเวลาก็เลยถือโอกาสแวะไปเดินรอบๆ โรงเรียนอยู่หลายรอบ รวมทั้งไปนั่งรำลึกความหลังที่ตึก 1 ซึ่งอยู่ทางด้าน ถนนพญาไท อยู่หลายๆนาทีก่อนจะเข้างาน

ช่วงกลับผมแวะซื้อหนังสือ “80 ปี 80 วิสัยทัศน์ ถอดรหัสอนาคต” ที่คณะกรรมการจัดงานส่งทีมไปสัมภาษณ์ศิษย์เก่าเตรียมอุดมฯ ที่เป็นดาวรุ่งในแวดวงต่างๆ ปัจจุบันนี้รวมทั้งสิ้น 80 ท่าน…ติดมือมา 1 เล่ม

เพิ่งจะมีโอกาสหยิบมาอ่านเมื่อวานนี้เอง อ่านแล้วชอบใจอยู่ 2 ท่าน ขออนุญาตคัดลอกมาฝากท่านผู้อ่านวันนี้ 1 ท่านก่อนก็แล้วกันครับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ (เตรียมอุดมฯรุ่น 39) น่ะครับ…เอ่ยออกมาปุ๊บ ท่านผู้อ่านคงจะคุ้นชื่อแน่นอน

หนังสือ 80 ปี เตรียมอุดมฯ ลงรูปและบทสัมภาษณ์ของท่านเป็นรายแรก พร้อมกับพาดหัวว่า “เราจะสร้างไทยแลนด์แบรนด์ให้ได้” ดังรายละเอียดบางส่วนดังนี้

“เราจะสร้างไทยแลนด์แบรนด์ให้ได้ เราต้องรู้ว่าอะไรคือจุดแข็งของประเทศเรา ผมเป็นคนหยิบเอาเรื่องของการทำให้ไทยเป็นมหาอำนาจผลไม้ของโลกในทางผลไม้เขตร้อน เพราะหนึ่งเรามีซับพลายของผลไม้ เมืองร้อนหลากหลายมาก และสองเกษตรกรเราเก่งมาก ปลูกรสชาติดีมากและก็พัฒนามาได้ดีมาก”

“เวลาพูดถึง Innovation คนชอบคิดว่าต้องใส่เทคโนโลยีอย่างเดียว อย่าหลงทางครับ เราไม่ใช่ประเทศที่เก่งเรื่องเทคโนโลยี เราไม่มีทางแข่งกับอเมริกาได้ ไม่มีทางแข่งสิงคโปร์ได้ แต่เรามีบางอย่างที่ดีกว่าเขา”

“ยกตัวอย่างกล้วยตาก เรารู้กันมาตั้งแต่โบราณว่า ใครกินกล้วยน้ำว้าทุกวันจะแข็งแรงมาก แต่คนเมืองนอกเขากินกล้วยน้ำว้าอย่างเราไม่ได้ เพราะมันสุกเร็ว ผมเลยคิดว่าส่งกล้วยตากตีตลาดโลกเลยได้ไหม?”

“เราสร้างแคมเปญว่า ใครกินกล้วยน้ำว้าวันละ 2 ลูกจะแข็งแรงอายุยืน แล้วเอา Research มาสนับสนุนทำให้คนทั้งโลกมากินกล้วยตาก น่าจะขายดี ผลิตไม่ทันแบบนี้ก็เรียก Innovation เหมือนกัน”

“ผมว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดี เป็นประเทศที่น่าอยู่ เป็นประเทศที่มีโอกาสและมีศักยภาพ เก็บผักเก็บหญ้าก็อยู่ได้ประเทศเราปลูกอะไรได้ทั้งปีเราจะเป็น Food Supply รายใหญ่ของโลกได้แน่นอน ถ้าเราขับเคลื่อนศักยภาพของประเทศได้ถูกต้อง”

ผมอ่านทั้งหมดแล้ว บอกได้คำเดียวว่า เห็นด้วยว่าจะต้องสร้าง “ไทยแลนด์แบรนด์” อย่างที่ท่านให้สัมภาษณ์ในหนังสือเตรียมอุดมฯ ไว้

แต่เผอิญผมไม่มีความรู้เรื่องบริหารธุรกิจหรือรู้วิธีสร้างแบรนด์ก็เลยไม่สามารถจะออกความคิดความเห็นเสนอแนะท่านอย่างไรได้

เท่าที่ผมพอรู้มาบ้าง เขาว่าการสร้างแบรนด์อะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ยิ่งในตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้วจะยากมาก

ไม่เหมือนประเทศด้อยพัฒนาอย่างเราที่ผู้คนมักเชื่ออะไรง่ายๆ ใครจะขายเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง หรือกาแฟ ฯลฯ ทุ่มโฆษณาพักเดียวสร้างแบรนด์ใหม่ติดตลาดได้ในชั่วพริบตา

การไปสร้างแบรนด์ในตลาดโลกคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็คงไม่ยากจนเกินกำลัง หากตั้งใจทำและเอาจริงจัง

ผมเห็นด้วยกับท่านว่าเรามีของดีๆเยอะ เราเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีผลไม้ฤดูร้อนอร่อยๆเยอะๆ และเพื่อนๆผมหลายคนที่รู้จักวิธีเอาไปขายและเอาไปสร้างแบรนด์ก็รวยมาแล้วหลายคน

แต่ที่เจ๊งและเจ็บก็มีหลายคนเช่นกัน แสดงว่างานขายสินค้าการเกษตรไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

ผมเป็นคนชอบกินกล้วยตาก และเคยเขียนถึงกล้วยตาก อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ไว้เมื่อ 30 ปีก่อน จนเดี๋ยวนี้กล้วยตากกลายเป็นสินค้าหลักของเมือง 2 แคว…ขอบคุณมากที่ท่านยกตัวอย่าง

ก็ขออนุญาตให้กำลังใจนะครับ และขอให้ความตั้งใจของท่านประสบความสำเร็จ…ก่อนอื่นขอให้กล้วยตากไทยแลนด์แบรนด์เป็นสินค้าชิ้นแรกก็ละกัน.

“ซูม”